สบายดีหลวงพระบาง! 4 วัน 3 คืน ตะลุยเมืองมรดกโลกสุดฮิป เที่ยวสบาย สไตล์ชิคๆ l Part 1
14,832 ครั้ง
13 พ.ค. 2562
14,832 ครั้ง
13 พ.ค. 2562
สะบายดี~ ฟังไม่ผิดหรอก นี่คือคำทักทายสุดน่ารักในภาษาลาว ที่แปลว่าสวัสดี ที่ไม่นานมานี้ทริปเก็ทเตอร์ได้มีโอกาสไปร่วมจอยกับ หลวงพระบาง ทริป วิธ Accor x AirAsia สัมผัสกับประสบการณ์สุดยิ่งใหญ่กับ หลวงพระบาง..เมืองมรดกโลก ที่ได้รับการรับรองจาก UNESCO ในปี 1995 ซึ่งครั้งนี้เราจะมาทำความรู้จักกันให้มากขึ้นในเวลา 4 วัน 3 คืน เก็บครบทั้งธรรมชาติ วัฒนธรรม และการพักผ่อนแบบชีวิตดี..ที่รับลองว่าจะเปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับมรดกโลกในความคิดแบบเดิมอย่างแน่นอน
การเดินทางในทริปนี้เราใช้บริการสายการบิน AirAsia จองง่าย..จ่ายสะดวก ซึ่งมีบริการเส้นทางบินจาก กรุงเทพ(ดอนเมือง) – หลวงพระบาง วันละ 1 เที่ยว เวลา 14.30 – 16.00 ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง 30 นาที แลนดิ้งสู่สนามบินหลวงพระบาง พร้อมตะลุยทริปสบายดีหลวงพระบางเมืองมรดกโลก
สำหรับที่พักในทริปนี้เรารีบูทร่างกายกันแบบ 5 ดาว กับรีสอร์ทสวยแห่งใหม่ล่าสุดใจกลางเมืองมรดกโลก โรงแรมพูลแมน หลวงพระบาง ซึ่งอยู่ห่างจากสนามบินราว 20 นาที ซึ่งที่นี่ก็มีบริการรถรับ-ส่ง จากสนามบิน
โรงแรมพูลแมน หลวงพระบาง ที่พักสวยสไตล์ลาวคอนเทมโพรารี บนเนื้อกว่า 16 เฮกตาร์ หรือกว่า 100 ไร่ ท่ามกลางสีเขียวจากท้องนาและขุนเขาที่ยังคงความขจี สมเป็นเมืองที่รับการดูและจาก UNESCO ซึ่งห้องพักที่ พูลแมน หลวงพระบาง แห่งนี้ มีให้เลือกกันทั้งแบบห้อง Suite และ Villa รวมแล้วกว่า 123 ห้อง
ส่วนห้องที่พักในทริปนี้ คือ Premium Deluxe ที่มาในรูปแบบวิลล่าหลังใหญ่ ที่ภายในแยกเป็น 4 ห้องแบบส่วนตัว จะมาในแบบคู่รัก เพื่อน หรือครอบครัวตอบโจทย์ได้ทุกความต้องการ
ภายในกว้างขวางโอ่อ่า ดูลงตัวในทุกรายละเอียด แถมทุกห้องยังมาพร้อมอ่างอาบน้ำและระเบียงส่วนตัว
และสำหรับวันแรกขอเก็บแรงด้วยมื้อเย็น ที่ห้องอาหาร L’Atelier บริการเมนูทั้งแบบบุฟเฟ่ต์และอา ลา คาร์ท ส่วนมื้อนี้เหยียบแผ่นดินหลวงพระบางทั้งที ก็ต้องแซ่บกับเมนูพื้นบ้านของลาวประเดิมกันจักน้อย..
เริ่มต้นที่แอพพิไทเซอร์ ซุปผักและพันหัวผักบั่ว เรียกน้ำย่อย ต่อด้วยเมนคอร์สกับ ตำส้ม ซุปผัก(อีกหนึ่งแบบ) และ น้ำพริกมะเขือที่ลงตัวกับ ไส้อั่วหลวงพระบาง
ปิดท้ายด้วยเมนูของหวาน ข้าวเหนียวมะม่วงและกล้วยเชื่อม ซึ่งวัตถุดิบส่วนใหญ่จะเป็นแบบออแกนิคทั้งปลูกเองและจากชาวบ้าน
Open-Close: เปิดบริการทุกวัน มื้อเที่ยง 11.30-14.30 น. / มื้อเย็น 18.30-22.30 น.
Facebook: Pullman Luang Prabang
เข้าสู่เช้าวันแรกในหลวงพระบาง ถึงจะมาในช่วงซัมเมอร์เมษายน แต่ถือว่าอากาศค่อนข้างเย็น มีไอหมอกเล็กๆ ลอยตัวจากต้นไม้ใหญ่ แนะนำให้ออกมาเดินเล่น พร้อมกินมื้อเช้าในแบบบุฟเฟ่ต์ ที่มีให้เลือกทั้งสไตล์ลาว เอเชีย และยุโรป
เดินทางสู่จุดเช็คอินแรกที่ Traditional Arts and Ethnology Centre หรือ ศูนย์ศิลปะและชนเผ่าวิทยา แวะทำความรู้จักกับที่มาของชนชาติลาวให้มากขึ้นกันก่อน ซึ่งที่นี่เป็นบ้านหลังเก่าที่รวบรวมข้อมูลของกลุ่มชาติพันธ์ุเอาไว้ ซึ่งจะแบ่งเป็น 3 โซนด้วยกัน
ห้องแรกเป็นโถงใหญ่ จัดแสดงข้อมูลของชนเผ่าหลักของลาวทั้ง 4 เผ่า ได้แก่ อาข่า ม้ง ไทดำ และขมุ จากราว 50 ชนเผ่าของลาว ผ่านสิ่งทอ เครื่องใช้ ซึ่งจะมีวิทยากรพาทัวร์ อธิบายทั้งภาษาอังกฤษและลาว ซึ่งคนไทยก็ฟังออกได้แบบสบายๆ
ห้องที่ 2 เป็นนิทรรศการหมุนเวียน ซึ่งจะเปลี่ยนในทุก 2 ปี และครั้งนี้จัดแสดงในเรื่องเครื่องดนตรี ซึ่งที่ลาวจะแบ่งเป็น 3 ประเภท คือใช้เพื่อความสนุก เกี้ยวพาราสี และพิธีกรรมทางศาสนา และเชื่อว่าเสียงจากเครื่องดนตรีสามารถสื่อสารกับผีได้ ส่วนห้องสุดท้ายจะเป็นมุมขายของที่ระลึกและเวิร์คช็อป
Open-Close: เปิดบริการอังคาร-อาทิตย์ 9.00 – 16.00 น. (หยุดทุกวันจันทร์)
Price: คนละ 25,000 กีบ (100 บาท) ชาวลาวและเด็กต่ำกว่า 12 ปี เข้าฟรี
Facebook: Traditional Arts and Ethnology Centre
—-
บรรยากาศหลวงพระบางตลอดสองฝั่งทางจะพบเป็นวัดวาสุดเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งนี่ก็เป็นความงดงามมากด้วยคุณค่า และเป็นส่วนหนึ่งที่สร้างให้หลวงพระบางเป็นเมืองมรดกโลก ซึ่งวัดแรกที่เราจะพาไปชมก็คือ วัดใหม่สุวรรณภูมาราม หรือที่ชาวบ้านเรียกกันสั้นๆ ว่า “วัดใหม่”
วัดแห่งนี้เป็นวัดสำคัญใกล้พระราชวัง สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 19 โดดเด่นด้วยหลังคาซ้อนกัน 5 ชั้น ในแบบฉบับหลวงพระบาง และหน้ากำแพงที่จะเป็นลายรดน้ำปิดทองอร่ามเล่าเรื่องราวในวรรณคดีเรื่องรามายณะ
ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ที่ถูกรำ่ลือว่าเป็นองค์งดงามสุดในเขตเมืองหลวงพระบาง และรอบผนังยังแฝงความอลังการด้วยพระพุทธรูปองค์น้อยปางห้ามญาติราวสิบพันองค์ หรือกว่าหมื่นองค์
สำหรับมื้อเที่ยงบรรยากาศแบบนี้ คงต้องไม่พลาดมาจกตำส้มแซ่บๆ กับร้านเด็ดยืนหนึ่งของหลวงพระบาง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากวัดใหม่ เจ้ติม ส้มตำหลวงพระบาง ที่ตัวร้านเป็นบ้านหลังเก่า เห็นด้วยสายตาก็เดาได้ถึงประสบการณ์ความอร่อยอันโชกโชน ส่วนเมนูร้านนี้จะเป็นสไตล์พื้นบ้านรสชาติแบบหลวงพระบางแท้ มีทั้ง ตำส้ม ย่างไก่ ไส้อั่ว ซี่โครงหมูทอด และ แหนมทอด ที่บอกเลยว่าจัดจ้านคนแน่นตลอดทั้งวัน
เนนูเด็ดต้องยกให้ ตำส้มหลวงพระบาง ที่จะเสริฟฝานมะละกอแผ่นใหญ่เพื่อให้เส้นซึมซับรสชาติน้ำปลาร้าแบบจัดเต็ม
สาหร่ายน้ำโขงทอดกรอบ อีกหนึ่งเมนูน่าลองระหว่างรอ
คาวเสร็จก็ต้องไม่พลาดต่อด้วยกาแฟตามสไตล์คนไทย ขอพาสาย Cafe Hopping ไปที่ร้าน Saffron Coffee คอฟฟี่อาร์ติซานแบบครบวงจรอันดับ 1 ของลาว ที่ใส่ใจการผลิตตั้งแต่กระบวนการปลูก คัดสรร จนเสิร์ฟเป็นแก้ว ส่วนตัวร้านเป็นบ้านไม้หลังใหญ่ริมโขง ที่มีบาร์และเครื่องคั่วกาแฟหอมกรุ่นคอกาแฟบอกเลยว่าห้ามพลาด!
หรือจะนั่งชมวิวริมฝั่งโขงก็ชิลล์สุดๆ
Open-Close: เปิดบริการทุกวัน จ-ศ 6.15 – 19.30 น.
Facebook: Saffron Coffee
—
เดินเล่นแบบชิลล์ๆ ต่อด้วยคาเฟ่กันสักร้าน ไม่ไกลกันบนถนนศักรินทร์ หรือโซนบ้านเจ็ก ที่ทั้งเส้นถนนจะเป็นตึกโบราณแบบ 2 ชั้น ซึ่งร้านส่วนใหญ่ในชั้นล่างจะเปิดเป็นร้านขายของตามสไตล์คนจีน ส่วนตึกนี้ด้านล่างเป็นร้านไอเทมโบราณนามว่า มาดามบุปผา ซึ่งความพิเศษคืvอากาศจะเย็นสบายเพราะผนังทำจากดินจี่ หรือดินเผา หนาวราวกับเปิดแอร์เลยทีเดียว
ส่วนคาเฟ่จะอยู่บนชั้นบน ตกแต่งในสไตล์วินเทจโมเดิร์นแบบลาว ที่ได้อารมณ์ด้วยพื้นไม้ที่เวลาเดินจะมีเสียงฝีเท้า ทำให้เราเข้าใจฟีลของชาวหลวงพระบางในอดีตเป็นอย่างดี
Open-Close: เปิดบริการทุกวัน 7.00 – 18.00 น.
Facebook: Formula B
—
ส่วนช่วงบ่ายเวลาเหลือขอปลีกมาผ่อนคลายกับมุมพักผ่อนใน พูลแมน หลวงพระบาง กันหน่อยดีกว่า… สระว่ายน้ำที่นี่ มีด้วยกันถึง 3 สระ มีทั้งสระวิวพาโนรามาวิวท้องนา สระวิวเขา และสระเด็ก แถมยังมาพร้อมบาร์ริมสระให้แฮงค์เอาท์กันด้วยนะเออ
หากใครเมื่อยล้าสะสมจากการเดินทางก็มี สปา สุดไพรเวทที่แบ่งเป็นสัดส่วนอย่างดี สมกับเป็นมุมแห่งการพักผ่อนอย่างแท้จริง
บรรยากาศยามเย็นในพูลแมนชิลล์สุดๆ มีแสงอาทิตย์ให้ชม แถมมุมถ่ายรูปบอกเลยว่าเพียบ
มื้อค่ำไปซึมซับบรรยากาศหลวงพระบางกันต่อกับ Laos Night ดินเนอร์สุดหรูที่โรงแรมโซฟิเทล หลวงพระบาง ที่ความพิเศษคือเป็นตึกเก่าของทูตฝรั่งเศส อายุกว่า 120 ปี โดยจะแบ่งเป็น 2 โซน ที่ด้านหน้าเป็นเรือนรับรองแบบลาว และด้านในเป็นที่พักในแบบโคโลเนียล
ส่วนลาวไนท์สุดหรูที่ห้องอาหาร Governor’s Grill จะอยู่บริเวณด้านหน้า มาในรูปแบบโอเพ่น มีเพียง 30 โต๊ะ และจะจัดเฉพาะวันอังคารและศุกร์ เวลา 6 โมงเย็น
เมนูจะเสิร์ฟในแบบยุโรป และสไตล์ลาวฟิวชั่นเริ่มต้นด้วย สลัดลาว ปอเปี๊ยะขากบ ฟัวกราส์ และ คอกกูเวง(ไก่อบซอสไวน์แดง)
ส่วนความเด็ดดวงต้องมอบให้ สเต็กควย(ภาษาลาว) ที่เสิร์ฟแบบเซตใหญ่สาย Meat Lover บอกเลยว่าฟิน
ดินเนอร์กันเพลินๆ ก็มีการแสดงให้ชมกันถึง 3 ชุด รวมถึงช่วงสุดท้ายยังมีให้ลองเต้นบาสโลบร่วมกันด้วย ไม่ยากอย่างที่คิด
Open-Close: เปิดบริการทุกวัน 6.30-22.00 น. ส่วน Laos Night มีเฉพาะวันอังคารและศุกร์ เร่ิมตั่งแต่ 18.00 – 22.00 น.
Price: ค่าบริการคนละ 80 USD
Facebook: Sofitel Luang Prabang
—
ปิดท้ายวันด้วยการไปเดินย่อยที่ ตลาดมืด หรือถนนคนเดิน ซึ่งจะอยู่ถนนเส้นบริเวณวัดใหม่ เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่ 5 โมงเย็น ถึง 4 ทุ่มตลาดจะเริ่มวาย
ผ่านไปแล้วกับ 2 วันในหลวงพระบาง ถือว่าได้รู้จักกันแบบผิวเผินถ้าเปรียบเปรยก็คงเป็นแค่การจับมือ ยังมีไฮไลท์ความงามแบบเมืองมรดกโลกให้ติดตามกันอีกเพียบ มากอดหลวงพระบางแบบแน่นๆ กันต่อกับ Part 2 l สบายดีหลวงพระบาง! 4 วัน 3 คืน ตะลุยเมืองมรดกโลกสุดฮิป เที่ยวสบาย สไตล์ชิคๆ คลิ๊ก