tripgether.com

รีวิวจัดเต็ม ไปมาแล้ว เซี่ยงไฮ้ ดิสนีย์แลนด์ ผู้หญิงคนเดียวก็เที่ยวได้

38,473 ครั้ง
30 ก.ย. 2559

แกเคยได้ยินข่าวดิสนีย์แลนด์มาเปิดที่เซี่ยงไฮ้มั้ยล่ะ? ที่เค้าว่าใหญ่โตกว่าดิสนีย์แลนด์ฮ่องกงถึง 3 เท่า แล้วแกเคยเห็นภาพข่าวที่ว่าชาวจีนแห่ไปทำสกปรก ตั้งแต่ยังไม่เปิดเป็นทางการมั้ย? สิบปากว่า + หมื่น like comment share ก็ไม่เท่าตาเห็น ชั้นขอไปพิสูจน์ด้วยตัวเองให้เห็นกับตาดีกว่า

เป็นทริปเซี่ยงไฮ้ ทริปแรกของบี ไปคนเดียว ในเมืองใหญ่ ที่ไม่คุ้นเคย……ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้างนะ

1.วีซ่า นี่เป็นประเทศของบีที่ต้องขอวีซ่า แต่ด้วยความเร่งด่วนสุดพลัง เพราะต้องรีบใช้พาสปอร์ตไปเที่ยวเกาหลีที่จองมาแรมปี บีเลยใช้บริการเอเจ้นมารับส่งวีซ่าถึงที่เลย สนนราคาวีซ่าแบบเร่งด่วนพร้อมค่าบริการ 3,300 บาท …เราเตรียมแค่พาสปอร์ตตัวจริง กับรูปถ่าย 2 นิ้ว 1 ใบ แค่นั้นพอ!2 วันทำการได้!

แต่ถ้าใครอยากยื่นเองก็….
1. หนังสือเดินทางเล่มจริง (Passport)
2. (กรณีเคยเดินทางก่อน 2010) สำเนาหน้าวีซ่าจีนที่ใช้เดินทางครั้งล่าสุด (กรณีวีซ่าจีนอยู่ในหนังสือเดินทางเล่มเก่า ขอให้ถ่ายเอกสารหน้าหนังสือเดินทางเล่มเก่าและหน้าวีซ่าจีนที่ใช้เดินทางครั้งล่าสุดแนบมาด้วย)
3. รูปถ่ายสี ขนาด 2 นิ้ว จำนวน 2 ใบ หน้าตรง ไม่สวมหมวก พื้นหลังสีขาว หรือสีฟ้าเท่านั้น
4. ใบจองตั๋วเครื่องบิน
5. ใบจองที่พัก / โรงแรม
6. จดหมายเชิญจากบริษัทหรือหน่วยงานที่ประเทศจีน ( เฉพาะวีซ่าธุรกิจ )
ค่าบริการตามประเภทนี้ (ข้อมูลจาก http://www.visaforchina.org)

2.ตั๋วเครื่องบิน สายการบินที่บินตรงไปยัง Pudong International Airport ที่เซี่ยงไฮ้ก็มีอยู่หลายสายการบิน แต่บีเลือก Thai AirAsia X เพราะเวลาบินดีมากกก ขาไปออกจากกรุงเทพเที่ยงคืน ถึงเซี่ยงไฮ้5.30 น. เที่ยวต่อได้เลย
ส่วนขากลับก็ออกจาก เซี่ยงไฮ้ ไวหน่อยเพื่อกลับมาพักผ่อน เตรียมตัวทำงานในวันรุ่งขึ้นได้

ทริปนี้คือตั้งใจไป เซี่ยงไฮ้ดิสนีย์แลนด์เลยล่ะ ไปแค่ 2 วันพอ แต่ก็รู้สึกได้เที่ยวเยอะนะ เพราะฉะนั้นเอาจริงๆ เซี่ยงไฮ้ ไป 2วัน ซึ่งขาไปเนี่ยขอลอง quiet zone นิดนึง คือบับว่าไฟล์ทดึก และไปจีนอ่ะเนาะ เค้าก็กลัวมีความโช้งเช้งเสียงดัง ขอเซฟๆนิดนึง แต่เธอเอ้ยยย เงียบสงบหลับเต็มต่อ ทอเต็มผืน  ตื่นมาพร้อมความสดใสพร้อมลุยเดี่ยว เที่ยวกระจายเลยจ้า จริงๆ คนจีนก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่เราคิดนะ

นอกจากหลับสบาย อาหารก็อร่อยนะ บีสั่งข้าวหน้าไก่เทริยากิไว้ตั้งแต่ตอนจองตั๋ว เพราะนอกจากจะคอนเฟิร์มว่าได้กินแน่ ไม่มีหมด และราคาถูกกว่าซื้อบนเครื่องด้วย แถมน้ำแร่อีกขวดด้วยฮ่า

Thai AirAsia X เค้ามีวิธีกรอกใบเข้าเมืองให้ลอกด้วยนะ อยู่ในเล่มเมนูอาหารนั่นแล…สบายเรา

ที่ดีงามของ quiet zone อีกอย่างคือสามารถขึ้นเครื่อง ลงเครื่องก่อนได้ ซึ่งเราจะไม่ต้องเจอความมะรุมมะตุ้ม จอแจ จ้องจะแซงคิวของพี่จีน นี่ประทับใจ quiet zone มากกกกจริงๆค่ะ พูดเลย

3.ที่พัก บีพัก 2 คืนเนาะ คืนแรกพักแถว Nanjing Road ชื่อโรงแรม Shanghai Chunshengjiang Hotel คืนละ 1000 บาทเอง อยู่ย่านชุมชน แหล่งช้อปปิ้ง ของกินเพียบ บีนอนคนเดียวเลือกห้อง single bed แต่นอนสบายดีค่ะ ชอบ คุ้ม ส่วนคืนที่สอง ด้วยความที่ต้องขึ้นเครื่องไฟล์ทกลับเร็วมาก เลยมานอนโรงแรมแถวสนามบินซะเลย กันเหนียว บีเลือก Da ZhongPudong Airport Hotel Shanghai แพงหน่อย คืนละ 2,700 บาทเพราะเป็นโรงแรม 4 ดาว แต่ก็เอาสะดวกสบายเนาะ แล้วกว่าจะออกจาก Disneyland กว่าจะถึงโรงแรม คือไม่อยากเดินหาแล้วอ่ะ อยากทิ้งตัวเลย
โรงแรมหาง่ายมากก อยู่ระหว่าง terminal 1 และ terminal 2  เลย  ถ้าออกจาก MRT ก็เดินตามป้าย airport hotel เลยจ้า

4. เปิดโรมมิ่ง สายเซลฟี่ สายโซเชี่ยลอย่าเรา ต้องไม่พลาด ถ้าใครไปจีนแนะนำให้เปิดโรมมิ่งไปค่ะ เพราะถ้าไปซื้อ sim ที่นั่น โดน block ทั้ง LINE ทั้ง Facebook ใจขาดแน่นอน บีเปิดโรมมิ่งของ AIS ไป 2 วัน 900 บาท สัญญาณก็พอใช้นะ อัพรูปได้รัวๆอยู่ ยกเว้นตอนนั่ง metro ขาดผึง!

5.ตั๋วดิสนีย์แลนด์ ไปดิสนีย์แลนด์ก็ต้องซื้อตั๋วดิสนีย์แลนด์สิจ้ะ ซึ่ง ตั๋วดิสนีย์แลนด์เค้าจำกัดการขายต่อวันนะเธอ เต็มก็คือเต็มอย่าไปเล้าหลือ ดังนั้นจองไปก่อน ไม่มีพลาด จองง๊ายง่าย เพียงเข้าไปในเวป https://www.shanghaidisneyresort.com/en/ ช่วง grand opening (ถึง 31 สิงหาคม 2559) ราคาวันเดียวก็ 499 หยวน หรือ 2,681 บาท ส่วนหลังช่วง grand opening วันธรรมดา 370 หยวน / วันหยุดก็ 499 เท่าช่วง grand opening จ้า

6.ปลั๊ก อันนี้บางคนคาดไม่ถึง ในแต่ละประเทศ เค้าจะมีรูปร่างหน้าตาปลั๊กไฟที่ต่างกัน ของที่เซี่ยงไฮ้ขอให้เตรียมแบบ 3 ขาแบบนี้ไปนะคะ

7. วางแผนการเดินทาง ก่อนไป ถ้าเรารู้ว่าอยากจะไปที่ไหนบ้างก็ลองวางแผนการเดินทางไว้บ้างก็ดีเนอะ เพราะที่เซี่ยงไฮ้เนี่ย MRT เค้ามีหลายสายอยู่นะ ประหยัดเวลาหลงไปได้เยอะ และลองเชคเวลาของ MRT ว่าเริ่มกี่โมง หมดกี่โมง แต่ละสายเวลาก็ไม่เท่ากันนะ หากทำแพลนตั้งแต่ไทย ก็ลองเข้าไปที่ http://www.exploreshanghai.com/metro/ ส่วนถ้าอยากดูสายรถไฟที่นั่น ก็โหลด free app “explore shanghai metro map” (โลโก้ตัว m) ไปนะจ้ะ

การเดินทางก็ซื้อจากตู้อัตโนมัติได้เลยค่ะ ใช้ไม่ยาก มีภาษาอังกฤษ เพียงแค่เลือกสายรถไฟ ซึ่งมีทั้งหมด 11 สาย และเลือกสถานีปลายทางก็จะมีราคาขึ้นมา 3หยวนขึ้นไป แล้วแต่ระยะทาง การเปลี่ยนขบวนก็เดินไม่ไกล ไม่เหมือนเกาหลี….สรุป เดินทางง่ายมากกกค่ะ สำหรับ MRT ที่นี่

อ่ะ เตรียมตัวพร้อมแล้วก็ลุยยยยย… ตัดภาพไปที่เซี่ยงไฮ้ Pudong International Airport เวลา 5.30 น. ของวันอังคารที่ 21 มิถุนายน 2559 เมื่อผ่าน ตม.มาได้ด้วยความไม่ยากเย็นเลย ไม่ถงไม่ถามสุขภาพซ้ากกคำ
บีก็นั่ง shanghai MRT เข้าเมือง ไปฝากกระเป๋าที่ที่พักก่อน

Thai AirAsia X ลงที่ terminal 2 ซึ่งเป็น terminal ที่เป็นต้นทางของ รถไฟ MRT ที่นี่เลย การเข้าเมืองจะนั่ง MRT สาย 2 หรือ Maglev ซึ่งเป็นรถไฟด่วนก็ได้ แต่ MRT สาย 2 เปิดเร็วกว่าคือ 6โมงเช้า และประหยัดกว่า เราไม่รีบ เราไปอันนี้แหละ ถ้าใครไป  MRT สาย 2 จะมีเปลี่ยนฝั่งรถที่สถานีก่วงหลาน (Guanglan) ส่วนถ้าใครนั่ง Maglev มา ก็ต้องมาต่อรถสาย 2 ที่สถานีหลงหยาง (Longyang) นะจ้ะ

ใครพัก Shanghai Chunshengjiang Hotel ให้ลงที่สถานี nanjing east road station ออก exit 4 เดินไม่ถึง 15 นาทีถึงจ้า แต่ต้องเปิด apple map หรือดูแผนที่ที่บีแปะมาเอาเลยนะคะ อย่าไปเชื่อ google map หลงมาแล้ว พูดเลย เพราะหน้าตาใน agoda กับ รร.ของจริง ไม่เหมือนกันจ้า… อ่ะ…นี่หน้าตา รร.นะคะ

Shanghai Chunshengjiang Hotel ให้ early check in ได้เช้ามากกก 8-9 โมง บีมาเชคอินได้เลย แต่ห้องยังไม่คลีนนะ เค้าก็ให้แม่บ้านมาคลีนให้เลยตอนนั้น ดีจัง ได้อาบน้ำ 1 รอบ สบายตัวก็เดินตัวปลิวไปเที่ยวได้เล้ยยย อ้อ โรงแรมมีค่ามัดจำ key card 10 หยวนด้วยนาจา

บรรยากาศแถว Nanjing รอบๆที่พัก

เห็นอย่างงี้ ตอนกลางคืนสวยนะเธอ

เก็บของ ล้างหน้าล้างตาเสร็จ ที่แรกบีจะไปคือ Yuyuan Garden ซึ่งเป็นย่านทัวร์ริส บรรยากาศจีนๆ ล่ะ คนแยะ ทัวร์เพียบบบบ เดินสำรวจพื้นที่สักพัก หาจุดชิวไม่ได้จริง ๆ ขอลา.. แต่การเดินทาง ง่ายสุดๆ คือ เดินทางจาก nanjing east road station ขึ้น MRT สาย 10 ไป 1  สถานีเท่านั้น ถึงเลย

เราจบโจทย์จีนแล้ว ต่อไปกระทู้นี้จะไม่จีนแล้วนะ พร้อมยัง??? คือส่วนตัวบีชอบไปย่านชิคๆ คลูๆ มินิมอลๆ คนน้อยๆ เพราะชอบตั้งกล้องถ่ายรูปตัวเองไง คือถ้าไปย่านจีน พี่จีนจะแคร์เรามั้ยล่ะ มีหวังเดินชนขาตั้งกล้องล้มไปอี้กกก
ดังนั้นเราก็เลยไปย่าน Shanghai Library Station  กันเนาะ ซึ่งย่านนี้เดินทางจาก Yuyuan Garden ง่ายมาก คือขึ้น MRT สาย 10 ไปแค่ 4 สถานีก็ถึงแล้วจ้า ขึ้นจาก Shanghai Library Station  ก็เลี้ยวขวาเข้าแยกที่เป็น Lawson

เดินตรงเข้าไปเรื่อย ๆ เป็นถนนที่มีต้นไม้โค้งงุ้มตลอดเส้นทางถนน คือชิวมาก

เดินไปเรื่อย ๆ จะเจอร้านชิคๆ  บรรยากาศคูลๆ ตลอดทาง แม้อากาศจะร้อนไม่แคร์ความชิคเราเลยก็ตาม

เย็นย่ำ เราไปลุยบ้านผีกัน ที่งาน shanghai scream งานนี้คือเหมือนเทศกาลบ้านผีสิงอ่ะแก คือตอนนี้ GTH (ซึ่งตอนนี้เปลี่ยนเป็น GDH แล้วอ่ะนะ) เค้ามาสร้างบ้านผี จากหนัง GTH 3 เรื่อง คือชัตเตอร์, เคาท์ดาวน์ และ พี่มากพระโขนง กันที่นี่

เอาจริง ๆ ทาง GTH เค้าเคยไปสร้างบ้านผีที่งาน Sentosa Spooktacular ที่สิงคโปร์ ช่วงฮาโลวีนเมื่อ 2 ปีที่แล้วแล้วล่ะ ก็มีเสียงลือ เสียงเล่าอ้างมาว่าน่ากลัวมาก ครานี้มีโอกาสได้มาเซี่ยงไฮ้ ช่วงที่เค้าจัดงาน เลยขอมาแสดงความเป็นแฟนหนังไทยซะหน่อย (แม้ว่าจะคืนนี้ฉันต้องนอนคนเดียวก็ตาม ฮือ) บีชอบบ้าน พี่มากพระโขนง เพราะได้ล่องเรือได้บรรยากาศเหมือนในหนังด้วยจ้า.. แต่น่ากลัวที่สุดต้องยกให้บ้านชัตเตอร์ คือกรี๊ดคอแตก ใครไม่กลัวผี มานี่….เธอต้องม๊า ส่วนบ้านเคาท์ดาวน์ ก็แนวๆ เก๋ๆ ตอนเข้า ต้องใส่แว่นสามมิติเข้าไปด้วย นอกจากเรื่องความหลอกหลอนของพี่ที่บับ….อินเนอร์แรงมากแล้ว รายละเอียดที่เค้าทำมันสุดจริงๆ บีไปเล่นบ้านผีมาเยอะอ่ะ พูดตรงพวก mansion7 , bloody hospital, Ripley Haunted Advanture พูดเลยว่าที่นี่ คือเค้าตั้งใจทำมาก งานละเอียด งานดี ใครที่มีโอกาสมาเซี่ยงไฮ้ ตั้งแต่ 1 มิถุนายน ถึง  4 กันยายน ปีนี้ ก็แวะมาชื่นชมบ้านผีจากหนังไทยของเรากันเนอะ ปีไทยนี่หลอนสุดในโลกแล้วจริง ๆ สิงแม่มทุกอย่าง จัวววว…. ใครกลัวก็มาเช้าหน่อยได้นะ เค้าเปิดตั้งแต่ 10โมงเช้า ถึง 4 ทุ่มเลย

งานจัดที่ Pulupulu game arena  บัตรราคา 158 หยวน การเดินทางก็ลงสถานี nanpu bridge ออก exit 1 เดินต่ออีกประมาณ 15 นาทีถึง

โดนผีหลอกอย่างหนำใจแล้วก็ไปดู The Bund  กันเถอะ ถ้าไม่ได้ถ่ายรูปตรงนี้ เดี๋ยวเพื่อนไม่เชื่อแน่เลยว่ามาถึงเซี่ยงไฮ้แล้ว จากบ้านผี เรากลับสถานี East Nanjing  ที่เป็นโรงแรม แต่คราวนี้ออกประตู2 ออกมาจะเจอสี่แยก ให้ร้านForever 21 อยู่ขวามือ และเดินตรงไปเรื่อยๆแป้บเดียวก็จะถึงBund  แล้วค่ะ

The bund เป็นถนนที่มีว่าที่บ่าวสาว มาถ่ายรูป pre wedding เยอะมากๆๆๆ ก็มันสวยนี่นา

ถ่ายรูปเสร็จสม อารมณ์หมายก็เดินกลับโรงแรมค่ะ นอนเอาแรง พรุ่งนี้เราตื่นเช้าไปดิสนีย์แลนด์กันนะ


วันที่ 2 ตื่นแต่เช้า เชคเอ้าท์ เพราะเราจะไปดิสนีย์แลนด์แต่ไก่โห่ แล้วจะลากกระเป๋าเดินทางไปด้วย คืนนี้ต้องไปนอนแถวสนามบิน เริ่มจากการเดินทาง Shanghai Disneyland สามารถนั่งรถไฟใต้ดินสาย 11 ไปถึงได้เลยนะจ้ะ ที่สถานีก็ตกแต่งตัวตัวการ์ตูนมิกกี้เม้าส์และผองเพื่อน โซคิ้วท์ทีเดียว

ออกจากสถานีก็เดินๆๆๆไปตามทาง  จะเจอน้ำพุสัญลักษณ์ของ Disneyland ด้านหน้าทางเข้า ที่เซี่ยงไฮ้ เค้าเลือกใช้มิกกี้เมาส์ตัวต้นฉบับแรกเริ่มในชื่อตอน Steamboat Willie ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มิกกี้เมาส์ปรากฏตัวมาทำเป็นรูปปั้นประกอบน้ำพุ

ในเดือนมิถุนายน ถึงสิงหาคม วันจันทร์ ถึงพฤหัส Disneyland เปิด 09:00 to 21:00 ส่วนศุกร์ถึงอาทิตย์ เปิด 08:00 to 22:00 นะจ้ะ ทางเข้าเค้าก็ตรวจกระเป๋าเนาะ แล้วพอเค้าเห็นบีมีกระเป๋าเดินทาง ก็พาไปที่ฝากเลยจ้า ที่ฝากกระเป๋า ไม่ได้เป็นแบบ coin locker ดังนั้น ไม่มีเต็มเนาะ ค่าฝาก 50หยวน ต่อวัน จะมาเอาของเข้า-ออก กี่ครั้งก็ได้ นี่ก็ดีกว่า coin locker ตรงนี้ แต่มารับคืนภายใน 4 ทุ่มก็พอ

ฝากกระเป๋าแล้ว….เข้าได้เลยจ้า เพราะ Ticket ที่จองมาจากเวป ปริ้นมาแล้วเดินไปทางเข้าได้เลย ไม่ต้องไปแลกเป็น ticket จริงให้ยุ่งยาก เพราะพนักงานที่ทางเข้า จะพิมพ์ booking no. เรา แล้วเปลี่ยนเป็นบัตรจริงให้ตรงนี้เลย

บัตรนี้เก็บไว้เวลาถ่ายรูปกับตัวการ์ตูนแล้วอยากมาสั่งปริ้นสวยงาม และเอาไว้เวลาจะออกจาก park แล้วเข้ามาใหม่ แต่ถ้าคิดว่า การถ่ายรูปเสียงตังไม่ใช่เวย์ชั้น และชั้นจะออกตอนกลับทีเดียว ก็ช่างมันเลยจ้า เพราะการจะเล่นทุกอย่างเดินสวยๆเข้าไปได้เลย ไม่ตรวจบัตร

เซี่ยงไฮ้ ดิสนีย์แลนด์ เป็นที่ดิสนีย์แห่งที่ 6 ของโลกต่อจาก
Disneyland Resort, Anaheim, California, USA
Walt Disney World Resort, Orlando, Florida, USA
Tokyo Disneyland Resort, Tokyo, Japan
Disneyland Resort Paris, Paris, France
Hong Kong Disneyland Resort, Hong Kong, China
ซึ่งHong Kong Disneyland ลูกค้าส่วนใหญ่ก็เป็นชาวจีนนี่แหละ เค้าเลยมาเปิดๆ ที่ shanghai ต้อนรับชนชาวจีนกันเลย แต่แกเอ้ย….มันไม่ได้ กะหล๊งโป๊ง เซินเจิ้นนาจา งานดี งานละเอียดทีเดียวเชียว ส่วนชนชาวจีนที่มาเที่ยว ก็ไม่ได้เข้าไปยืนเหยียบต้นไม้ ปีนรั้ว อึบนพื้นแบบที่เคยได้ยินข่าวนะ มารยาทโอเคอยู่ ถ้าไม่นับเรื่องแซงคิวบ้าง โหวกเหวก กระจองอแงนิดหน่อยอ่ะนะ 

อ่ะ มาทำความรู้จักกันเป็นพาร์คๆ โซน โดยมีทั้งหมด 6 โซน
Mickey Avenue
Adventure isle
Fantasyland
Gardens of Imagination
Tomorrowland
Treasure cove

โซนแรกเมื่อผ่านประตูเข้ามาก็คือ Mickey Avenue ซึ่งจะเป็นแหล่งรวมของร้านค้า ร้านของที่ระลึก ช้อปเพลินสิคะ

โซนต่อไปAdventure isle  เป็นโซนที่มีเครื่องเล่นที่บีชอบที่สุดคือ Soaring Over the Horizon เป็นเครื่องเล่นที่เราเหมือนได้บินไปชมสิ่งมหัศจรรย์ต่าง ๆ ในโลก ผ่านการนำเสนอแบบโรงหนัง 4DX มีลม มีกลิ่นแบบที่เล่นไปร้องว้าวไป คือเหมาะกับคนชอบเที่ยวแบบบีจริง ๆ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยการต่อคิวยาวเกือบ 2 ชั่วโมง

วิวระหว่างรอคิว มีท้องฟ้าจำลองให้ดูเพลินๆ

โซนต่อไป เราจะเข้าสู่ดินแดนเทพนิยาย  นั่นคือโซน Fantasyland

ซึ่งปราสาทเทพนิยายที่ Shanghai Disneyland นี้ มีความสเปเชี่ยลกว่า Disneyland ที่อื่น ๆ เพราะเป็นปราสาทดิสนีย์ที่สูงที่สุด (สูง 60 เมตร) และของประเทศอื่น ๆ ตัวประสาทจะเป็นประสาทของเจ้าหญิงองค์ใดองค์นึง เช่นซินเดอเรลล่า, เจ้าหญิงนิทรา แต่ที่เซี่ยงไฮ้ ดิสนีย์แลนด์ ไม่ได้เป็นของเจ้าหญิงองค์ใดองค์หนึ่ง แต่เป็นของเจ้าหญิงดิสนีย์ทุกองค์เลยจ้า….ยิ่งใหญ่ไปอี้ก และสเปเชี่ยลไปกว่านั้น  ปราสาทของดิสนีย์แลนด์บางแห่งก็เข้าไปข้างในไม่ได้ แต่ที่นี่มีเครื่องเล่นแนว walkthrough ชื่อ Once upon a time adventure ที่เราสามารถจะเดินไปดูเรื่องราวของเจ้าหญิงสโนไวท์ ผ่านเทคนิคการนำเสนอที่สุดเจ๋งได้ด้วย

ด้านล่างของปราสาท มีโถงขนาดใหญ่ ที่ผนังโดยรอบ มีกรอบรูปโมเสกใน concept เจ้าหญิง4ฤดู และพร้อมโคมไฟระย้าหรูหราเหมือนเราได้เข้าไปในปราสาทของเจ้าหญิงจริง ๆ

นอกจากปราสาทฟรุ้งฟริ้ง โซนนี้มีสวนเขาวงกตด้วยนะ คือ Alice in WonderMaze อ่านชื่อก็รู้ได้ว่า ธีมมาจาก Alice in Wonderland มีขุ่นแม่ ยืนเด่นเป็นสง่าหน้าใหญ่(ใจโต) รอให้ชักภาพอยู่จ้า

ในโซน Fantasyland ก็มีเครื่องเล่นมากมาย แต่ก็เป็นเครื่องเล่นแนวหน่อมแน้ม เด็กน้อยอ่ะนะ แล้วบีก็เคยเล่นแล้วที่ HK Disneyland ก็เลย skip ไป ตัวอย่างเครื่องเล่นเด็กน้อย โซนนี้ ก็เช่น Many adventures of Winnie the Pooh เป็นการนั่งไหน้ำผึ้งไปดูเรื่องราวของน้องหมีพู, Hunny Pot Spin

ส่วนที่บีเล่นก็มีนะคือ เครื่องเล่น Peter Pan’s Flight อันนี้ดี… เป็นการนั่ง เรือสำเภาลอยฟ้า ไปดูเรื่องราวของ Peter Pan แต่บอกเลยว่าภาพนั้น ดูทันสมัยมาก มีความเสมือนจริง และว้าวสุด ๆ ค่ะ

และอีกอันที่บีเล่นคือ Voyage to the crystal grotto คือการนั่งเรือ ชมรูปปั้นและน้ำพุจากการ์ตูนเรื่องต่างๆของดิสนีย์ คือเป็นเครื่องเล่นใสๆ วัยรุ่นชอบมาก ๆ นี่ถ้าไม่เห็นว่าคิว 5 นาทีนี่ จบกันนะ เฮ้

โซนต่อมาคือ Gardens of Imagination เป็นพื้นที่กลางสวนสนุกที่เป็นจุดเชื่อมต่อของทุกโซน

มีเครื่องเล่น คือ Dumbo the flying elephant และ Fantasia Carousel หรือม้าหมุนนั่นเอง และมี Marvel Universe ซึ่งตอนแรกมีพุ่งเข้าไป หมายจะเจอเครื่องเล่นแมน ๆ เจ๋ง ๆ ปรากฏว่าเป็นการเข้าไปต่อคิวถ่ายรูปกับเหล่าซุปเปอร์ฮีโร่ และให้เราเข้าไปยืดเส้น ยืดสาย จำลองการต่อสู้ เหมือนเราเป็น 1 ในทีม super hero จ้ะ แต่ก็เหมาะกับสายถ่ายภาพนะ คงชอบโซนนี้ล่ะ

โซนต่อไป Tomorrowland มีเครื่องเล่นเจ๋ง ๆ ดังนี้

Buzz Lightyear Planet Rescue คือเครื่องเล่นที่เราจะต้องขึ้นไปอยู่บนยาน  สามารถบังคับยานให้หมุนไปมา ตามใจเราได้ แล้วยังใช้ปืนเลเซอร์ที่มีในยาน ยิงเก็บคะแนนเพื่อแข่งขันกับเพื่อนร่วมยานของเรา นอกจากชมภาพสวย ๆ ก็ได้มีอะไรทำเก๋ ๆ เป็นกิมมิคกันด้วย ไม่อยากจะคุยว่าบีได้ตั้ง 2 แสนกว่าคะแนนแหละ

Stitch Encounter อันนี้เป็นการเข้าไป interact กับคุณ stitch ซึ่งเค้าก็จะมีคาแรคเตอร์ กวนๆ ขำๆ แหละ อันนี้บีเคยเล่นที่ HK Disneyland แล้วประกอบกับ ที่นี่ก็ soundtrack จีนล้วน บายดีกว่าจ้า

(ภาพจาก shanghaidisneyresort)

เครื่องเล่นสุดท้าย ตัวพีค คิว 2 ชั่วโมงคือ TRON Lightcycle Power Run เป็นเครื่องเล่นแนวรถไฟเหาะ ถ้าอยากพีคมาก ๆ ต้องเล่นตอนเย็น ๆ ค่ำๆ หน่อยนะคะ เปิดไฟแล้วสวยแจ่มเหมือนอยู่ในหนังเลยล่ะ

โซนต่อมา คือTreasure Cove หรือแทบจะเรียกว่าเป็นโซนของPirates of the Caribbean ก็ว่าได้

และเครื่องเล่นPirates of the Caribbean: Battle of the Sunken Treasure ในโซนนี้ ก็จ๊าบบบบมากจริง ๆ บีเล่นไป 2 รอบอ่ะค่ะคุณ คือเราจะนั่งเรือผจญภัยตามล่าขุมทรัพย์ใต้ทะเลพร้อมชมภาพการต่อสู้ใต้ทะเลที่สุดแสนตระการตา พูดเลยว่างาน visual ของ Shanghai Disneyland นั้น ประทับจิตบีมากจริงๆ

ส่วนเครื่องเล่นExplorer Canoes ก็คืองานลงเรือ ส่วนกันพายแคนูค่ะ จบ ไม่มีอะไร บัยส์ ไม่เล่นจ้ะ

นอกจากนั้นยังมีสวน Garden of twelve friends หรือสวน 12 นักษัตรตามแบบจีน โดยนำตัวการ์ตูนดิสนีย์ที่เป็นสัตว์ 12 ชนิดมาจัดทำในรูปแบบโมเสกประดับตกแต่งในสวนด้วย เก๋ไก๋กันไป

ส่วนอาหารการกินไม่ต้องห่วงค่ะ มีร้านอาหารเป็นธีมๆ อยู่ทุกโซน อาหารส่วนใหญ่ 60-80 หยวน ป๊อปคอร์นระหว่างทาง 30 หยวน เอาเข้าไปกินระหว่างรอคิวเครื่องเล่นได้อี้กกก…นี่ไม่ชินเลยจริงๆ พี่จีนนี่ชิวมาก

นอกจากส่วนของ park แล้ว ที่นี่ยังมี Disney Town ที่ใหญ่โตมาก มีร้านอาหาร ร้านค้าเด่น ๆ ดังมาเพียบ

อย่าง LEGO ที่นี่ก็ถือว่าเป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุดในโลกเลย ใครเป็น big fan ของ LEGO ต้องกรี๊ดแน่ๆ

สาว ๆ ที่เปียกฝน มาซื้อมาสคาร่าเติมได้ที่ Sephora นาจา

และโซนนี้ ก็ยังเป็นที่ตั้งของโรงละคร Lion King ที่โด่งดังระดับ broadway อีกด้วย

และสุดท้าย ถ้าไม่อยู่รอดูพลุ ก็เหมือนเที่ยวที่ Disneyland ไปจบ การแสดง Ignite the Dream – A Nighttime Spectacular of Magic and Light น่าจะต้องมาดูที่บอร์ดเอาเองนะคะ ว่าในแต่ละวันจะมีกี่โมง
ส่วนวันที่บีไป ฝนตกไปครึ่งวัน มาหยุดตกเอาบ่ายสามแล้ว แต่การแสดงก็มีในเวลา 20.30 น. ไม่ต้องไปยืนจับจองที่เป็นชั่วโมงแบบประเทศอื่นเลยค่ะ เพราะที่นี่ พื้นที่เค้ากว้างมาก มีที่ให้ดูพลุเต็มไปหมด
การแสดงก็จะเป็น การแสดงประกอบแสง สี เสียงบนปราสาทเหมือนเวลาไปดูยุทธหัตถี (เดี๋ยวๆๆๆๆ) โดยจะเป็น story ของเจ้าหญิงทุกนาง เป็น soundtrack จีนทั้งหมด ยกเว้นเจ๊เอลซ่า ที่ร้องเพลง let it go เป็นภาษาอังกฤษ ส่วนพลุก็อลังอเลือง ไม่แพ้ที่ประเทศอื่นเลยจ้า

เรียกได้ว่า ขนาดบีไปตั้งแต่เปิด (9.00 น.) ยันปิด พลุจบ ก็ยังรู้สึกว่าเดินไม่หมด เล่นไม่ครบเลยอ่ะ เซี่ยงไฮ้ดิสนีย์เค้ายิ่งใหญ่ สมที่กล่าวอ้างไว้จริงๆ ส่วนการถ่ายรูป อ่ะพูดตรง ๆ ว่าไม่กล้าเอาขาตั้งกล้องไปวางล่ะ กลัวพี่จีนไม่แคร์ มาตัดหน้ากล้องบ้าง ชนขาตั้งล้มบ้าง ก็เลยวานพี่จีนถ่ายรุปให้ซะเลย ที่ตรงไหนมี staff ก็วาน staff ที่ตรงไหนไม่มี staff ก็วานคนมาเที่ยวนี่แหละ เหย….ก็ไม่เลวนะ ทุกคนทำได้ดี ปรบมือรัวววว อ่ะต่อ…ดูพลุจบ รีบไปเอากระเป๋าเดินทางที่ฝากไว้ แล้วลี้เลยจ้า….คืนนี้ต้องไปนอนโรงแรมใน airport เพราะพรุ่งนี้ไฟล์ทเช้ามากกก 6.50 น. งี้ MRT จาก Disney ไป airport 80 นาทีนะจ้ะ ก็ทำเวลานิดนึงเพราะ MRT บางสายก็หมด 4 ทุ่ม เอ๋….วิ่งดิวิ่ง

โรงแรม ZhongPudong Airport Hotel Shanghai ที่จะนอนวันนี้หาง่ายมาก เพราะอยู่ระหว่าง terminal 1 กับ  2เลย พอถึงห้องสลบเลยจ้า….เอาจริงนี่นอนไม่คุ้ม 2,700 บาทเลยนะ เชคอินดึกมากกก เชคเอ้าท์เช้ามากกกก ฮือออ อ้อ…มีค่ามัดจำ keycard 200 หยวนนะ

ณ ตอนนี้ทุกคนคงตัดสินใจได้แล้วว่า จะไป หรือไม่ไปดีที่ shanghai Disneyland ส่วนบีนั้น พูดเลยว่า “จะกลับไปอีก” คราวนี้จะชวนเพื่อนไปเยอะ ๆ และแน่นอน จะไปนั่ง Quite zone ของ Thai AirAsia Xอีก ….ติดใจจริงๆ นะเอ้า!

 

 ขอบคุณรีวิวจากสมาชิกพันทิปคุณอมยิ้มของ BeeBugs


ผู้เขียน

admin tripgether
สัญญาว่าจะเที่ยวให้ดีที่สุด!!

เรื่องที่คุณอาจสนใจ