tripgether.com

7 คาเฟ่ดอกไม้ ร้านชิคๆ สำหรับคนมีสไตล์ นั่งจิบเครื่องดื่มกลางดงดอกไม้รอบกรุง

11,969 ครั้ง
19 มิ.ย. 2562

หากได้นั่งกลางดงฟลาวเวอร์แสนหวาน ส่งกลิ่นหอมอบอวลไปรอบกาย ถ้ายิ่งมีเครื่องดื่มอย่าง ชา กาแฟ มาเคียงข้าง จะช่วยรีชาร์จความสดชื่นได้แบบทวีคูณเลยทีเดียว หลายคนคงคิดว่าอยากสัมผัสบรรยากาศแบบนี้ต้องหนีออกไปจากเมืองที่วุ่นวายไปให้ไกลเสียก่อน คุณเดาผิดแล้ว คาเฟ่กลางดงดอกไม้ที่เราหามาให้ทั้งหมดนี้อยู่ในกรุงเทพทั้งสิ้น! ที่นอกจากจะมีดอกไม้มาประดับประดาเป็นพื้นหลังให้สาวๆ ได้ถ่ายรูปกันแล้ว ยังมีเมนูทั้งเครื่องดื่ม เบเกอรี่ หรือแม้กระทั่งอาหารจานหลัก ที่ใช้ดอกไม้เป็นส่วนผสมอีกด้วย ความเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละร้านจึงโดดเด่นไม่ซ้ำกันเลย หากคุณมีเวลาว่างเราอยากให้คุณเก็บให้ครบทุกร้าน เพราะคุณจะต้องติดใจความหอมของดอกไม้ที่คละเคล้ากับกลิ่นกาแฟของแต่ละร้านได้อย่างไม่รู้ลืมแน่นอน


1.ฟลาวเวอร์ อิน แฮนด์ บาย พี, กรุงเทพฯ
(Flower in hand by P)

ร้านดอกไม้เล็กๆ ในอารีย์ซอย 2 ฟลาวเวอร์อินแฮนด์บายพี ที่เป็นทั้งร้านขายดอกไม้ เป็นสตูดิโอเวิร์คช็อป คาเฟ่เล็กๆ ที่พร้อมให้บริการ และที่สำคัญ ฟลาวเวอร์ออินแฮนด์บายพี เคยเป็นสถานที่ถ่ายทำของซีรี่ย์เรื่อง แหวนดอกไม้ อีกด้วย โดยภายในร้านตกแต่งด้วยโทนสีขาว ตัดกับงานไม้สีเข้มที่ให้ความรู้สึกเป็นกันเอง มีช่อดอกไม้นานาชนิดประดับประดาอยู่ทั่วทุกมุมของร้าน เมนูสุดพิเศษของทางร้านต้องยกให้เบเกอรี่ชิ้นเล็กๆ พอดีคำ ที่นำเอาดอกไม้ทานได้มาเป็นหน้าของขนมเหล่านั้น ซึ่งไม่ต้องบรรยายเลยว่ารสชาติและกลิ่นจะหอมหวานอบอวลแค่ไหน ซึ่งดอกไม้ทานได้จะสลับสับเปลี่ยนหน้าตากันไปตามฤดูกาล มีทั้งคุกกี้ และ Financiers ขนมสไตล์ฝรั่งเศสซึ่งมี Texture ที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ยังมีเมนูเครื่องดื่มกาแฟแบบ Slow Bar และชาร้อนหลากหลายชนิด ที่เข้ากันกับเมนูเบอรี่หน้าตาน่ารักทั้งหลาย

Flowerinhand_01

Flowerinhand_02

Flowerinhand_05

Flowerinhand_03

Flowerinhand_04

Location: อารีย์ซอย 2 เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร
Open-Close: เปิดให้บริการทุกวัน พฤหัสบดี – อังคาร (ปิดทุกวันพุธ) ตั้งแต่เวลา 09.00 – 19.00 น.
Phone: 062 758 2233
Facebook: Flower in hand by P


2.บี สตอรี่ คาเฟ่, กรุงเทพฯ
(B-Story Café)

คาเฟ่ที่ตกแต่งดั่งเทพนิยายยุโรป บีสตอรี่ ตั้งเด่นอยู่ทางลงบีทีเอสราชเทวีทางออก 4 ภายนอกอยู่ท่ามกลางสวนหย่อมที่ประดับตกแต่งมาอย่างดีเยี่ยม สร้างความผ่อนคลายให้กับแขกผู้มาเยือนหลังจากเจอรถติดนานๆ ตัวคาเฟ่มีสองชั้นด้วยกัน โดยได้รับแรงบันดาลใจในการตกแต่งจากเจ้าของร้าน ที่ต้องการสร้างคาเฟ่ที่มีมุมถ่ายรูปสวยๆ พร้อมดีไซน์ที่โดดเด่นพื้นที่ชั้นล่างถูกตกแต่งมาในสไตล์ โคโรเนียลผสมลอฟท์ ใช้ของตกแต่งแนววินเทจ ที่หากลูกค้าถูกใจก็สามารถซื้อติดมือกลับบ้านไปได้ แถมยังมีดอกไม้ที่คอยแซมเพิ่มความหวานในแต่ละมุมของร้าน ส่วนชั้นสองมีความโปร่งโล่งด้วยเพดานสูง ไม่อัดอัด ตกแต่งด้วยรูปปั้นรูปสัตว์มากมายออกแนวยุโรปนิดๆ สำหรับเมนูของทางร้านมีทั้งเบเกอรี่หอมหวาน เครื่องดื่มหลากหลาย รวมถึงเครื่องดื่มแบบเฮลตี้ สูตรเฉพาะของทางร้านสำหรับคนรักสุขภาพให้ได้ลองกันอีกด้วย นอกจากจะได้แชะภาพในมุมสวยๆ ซึ่งบอกเลยว่าจะได้ภาพแทบทุกมุมของร้านเลยก็ว่าได้ เผลอๆ อาจจะได้ช่อดอกไม้หรือของตกแต่งบ้านติดไม้ติดมือกลับไปด้วยก็ได้นะ

Bstory_01

Bstory_02

Bstory_03

Bstory_04

Bstory_05

Location: 70 ถนน พญาไท แขวง ถนนเพชรบุรี เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร
Open-Close: เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 – 23.00 น.
Phone: 095 7101 777
Facebook: B-Story Cafe


3.วอลฟลาวเวอร์ คาเฟ่, กรุงเทพฯ
(Wallflowers Cafe)

จากร้านดอกไม้ในตรอกซอยเล็กๆ ที่มีชื่อเรียกว่า Oneday Wallflowers ได้ซุกซ่อนคาเฟ่ลับอย่าง วอลฟลาวเวอร์คาเฟ่ ไว้บนชั้นสองของร้านดอกไม้ ตัวร้านอยู่ภายใต้ตึกเก่าสุดคลาสสิค ที่ซ่อนความสวยงามของสวนดอกไม้ไว้ในความลึกลับ วอลฟลาวเวอร์คาเฟ่เป็นทั้งคาเฟ่และโรงคั่วกาแฟ ตกแต่งแนวเรือนกระจกสไตล์ English Cottage ที่มีดอกไม้ ไม้ประดับต่างๆ รายล้อมอยู่ โดดเด่นด้วยบาร์สีทองแดงมันวับเป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนระหว่างบาริสต้ากับลูกค้า การตกแต่งร้านมีความน่าสนใจตรงที่เจ้าของร้านได้นำวิธีการใหม่ๆ มาทดลองกับร้านนี้อย่างการเผาไม้ และการเลือกใช้วัสดุที่ไม่ซ้ำใครมาตกแต่งให้เกิดความโดดเด่นอย่างทองแดง ของวินเทจ รวมทั้งการนำเอาช่อดอกไม้แห้งทั้งเล็กและใหญ่มาประดับอยู่ทั่วร้าน โซนโอเพ่นแอร์ มีความเป็นสวนหย่อมเล็กๆ และเป็นส่วนตัว ลือกใช้การชงกาแฟแบบ Modbar ซึ่งถือว่าเป็นการชงกาแฟที่แปลกใหม่ในบ้านเรา ซึ่งเจ้าของร้านใส่ใจในทุกรายละเอียดตั้งแต่การตกแต่งร้านไปจนถึงรสชาติของกาแฟ เนื่องจากอยู่ชั้นบนของร้านดอกไม้ประกอบกับการแทรกช่อดอกไม้ที่ประดับประดาอยู่ทั่วร้าน ที่นี่จึงได้รับกลิ่นหอมของดอกไม้และกรุ่นกลิ่นกาแฟคละคลุ้งไปในขณะเดียวกัน

Wallflower_02

Wallflower_01

Wallflower_03

Wallflower_05

Wallflower_04

Location: 31-33 ซอย นานา แขวง ป้อมปราบ เขต ป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร
Open-Close: เปิดให้บริการทุกวัน พฤหัสบดี – อังคาร (ปิดทุวันพุธ) ตั้งแต่เวลา 11.00 – 19.00 น.
Phone: 090 993 8653
Facebook: Wallflowers Cafe


4.คาเฟ่ ลา โรเซ่, กรุงเทพฯ
(Cafe la rose)

คาเฟ่ดอกกุหลาบ ที่เพิ่งเปิดใหม่ย่านอารีย์เมื่อต้นปีที่แล้ว คาเฟ่ลาโรเซ่ เดิมเคยทำร้านดอกไม้ขายเฉพาะดอกกุหลาบ ที่มีความพิเศษอย่างสามารถสกรีนคำลงไปในกลีบกุหลาบ หรือดอกไม้เวทมนต์ที่ผ่านกรรมวิธีในการเก็บรักษาซึ่งสามารถคงความหอมได้ถึง 5 ปี โดยไม่แห้งเหี่ยว (มีวางขายในคาเฟ่ด้วย) จนกระทั่งเปิดคาเฟ่ลาโรเซ่ขึ้นมาเพื่อบริการลูกค้าในร้าน ภายใต้คอนเซ็ปต์ The taste of flower เป็นการนำเสนอความงดงามของดอกกุหลาบตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาในร้าน ให้ลูกค้าได้สัมผัสทั้งรูป รส และกลิ่นที่หอมอบอวลของกุหลาบ ตัวคาเฟ่ออกแบบสไตล์ Old Thai Modern Style มาในโทนสีดำ ที่เป็นพื้นหลังให้กับดอกไม้สีสันน่าพิศมัยได้เป็นอย่างดี ตัดกับเฟอร์นิเจอร์ และภาชนะใส่อาหารที่เป็นสีขาว เพิ่มความอ่อนหวาน ภายในร้านจึงให้อารมณ์แบบดาร์คๆ แต่แฝงด้วยความสวยงามของดอกไม้ สำหรับเมนูของที่นี่เป็นอาหารแบบฟิวชั่น ที่ต้องห้ามพลาดก็คือเมนูเครื่องดื่มสูตรเฉพาะที่ทำมาจากน้ำกุหลาบ แถมยังมีไอศกรีมโฮมเมดที่เสิร์ฟมาในรูปแบบของดอกกุหลาบแถมรสชาติก็มีเอกลักษณ์แบบกุหลาบๆ อีกด้วย เชื่อแล้วหรือยังว่า คาเฟ่ลาโรเซ่ เป็นร้านที่หลงใหลในเสน่ห์ของดอกกุหลาบอย่างแท้จริง

Cafelarose_02

Cafelarose_04

Cafelarose_03

Cafelarose_01

Location: 10 แขวง สามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร
Open-Close: เปิดให้บริการทุกวัน อังคาร – อาทิตย์ (ปิดทุกวันจันทร์) ตั้งแต่เวลา 10.00 – 22.00 น.
Phone: 099 198 2571
Facebook: Cafe la Rose


5.ฟลอรอล คาเฟ่ แอท นภสร, กรุงเทพฯ
(Floral Cafe’ at Napasorn)

นภสร ร้านดอกไม้ย่านปากคลองตลาด ขยายพื้นที่ชั้นสองเปิดเป็น ฟลอรอลคาเฟ่แอทนภาสร เพิ่มสีสันให้กับความเก่าแก่ของตึกนี้ให้น่าค้นหาขึ้นมา การตกแต่งคาเฟ่ในแบบวินเทจ ละลานตาไปด้วยของสะสมหายาก อย่างหัวสัตว์สตัฟฟ์ บานกระจก โต๊ะตั่งต่างๆ นานา แทรกตัวด้วยต้นไม้ ดอกไม้สดหลากพันธุ์เพิ่มความสดชื่น ได้กลิ่นอายแบบยุโรป สำหรับเมนูของทางร้านได้มีการคัดสรรชากาแฟจากผู้เชี่ยวชาญมาช่วยดูแลตั้งแต่การเบลนด์ชาดอกไม้ต่างๆ รวมถึงชาสูตรเฉพาะที่ทางนภสรได้เบลนด์เอง นอกจากนี้ยังมีเมนูเบเกอรี่และไอศกรีมโฮมเมดที่สรรหาวัตถุดิบตามฤดูกาลมาเพิ่ม Texture ในแต่ละเมนูให้มีเอกลักษณ์ในตัว ความพิเศษของคาเฟ่แห่งนี้ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ บริเวณชั้นสามของร้านนภสรยังมีของตกแต่งบ้านแนววินเทจที่สะสมโดยเจ้าของร้านมาจัดวางเรียงรายเพื่อเป็นแหล่งแลกเปลี่ยนสำหรับผู้ที่ชื่นชอบอีกด้วย

Napasorn_01

Napasorn_02

Napasorn_03

Napasorn_04

Napasorn_05

Location: 67 ถนนจักรเพชร แขวง วังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
Open-Close: เปิดให้บริการทุกวัน จันทร์ – เสาร์ (ปิดทุกวันอาทิตย์) ตั้งแต่เวลา 10.00 – 22.00 น.
Phone: 093 629 6369
Facebook: Floral Cafe’ at Napasorn


6.เดอะ บลูมมิ่ง แกลเลอรี่, กรุงเทพฯ
(The Blooming Gallery)

จิบชาในเรือนดอกไม้ที่ เดอะบลูมมิ่งแกลเลอรี่ ย่านทองหล่อ คาเฟ่ชาสไตล์ยุโรปจากเจ้าของผู้หลงรักในธรรมชาติ ดอกไม้ เสน่ห์ของขา และศิลปะแบบเดียวกัน เกิดเป็นคาเฟ่ที่ต้องการให้คนกรุงแวะเข้ามาจิบชาเพิ่มความสดชื่นในระหว่างวัน บรรยากาศภายในคาเฟ่เต็มไปด้วยความสวยงามของดอกไม้ โดยการตกแต่งได้แรงบันดาลใจมาจากศิลปะแนว Impressionist ซึ่งสอดคล้องกับคอนเซ็ปต์ของทางร้านอย่างเหมาะเจาะ โดยตัวคาเฟ่ตกแต่งสไตล์รัสติกที่มีความเท่ห์ซึ่งสามารถผสมผสานกับสวนดอกไม้ได้อย่างเข้ากัน กลายเป็นความสวยหวาาน ในส่วนของเมนูที่นี่มีความพิเศษคือ การสอดแทรกดอกไม้และความหอมของชาลงไปในแทบจะทุกเมนูทั้ง เครื่องดื่ม เบเกอรี่ ของทางเล่น และอาหารจานหลัก รวมทั้งเมนูเบเกอรี่โฮมเมดที่ต้องลอง โดยทั้งหมดทั้งมวลนี้เกิดจากแรงบันดาลใจที่ได้จากการไปเยือนต่างประเทศแล้วนำเอาศิลปะและวัฒนธรรมที่โดดเด่นมาประยุกต์จนเกิดเป็นคาเฟ่ที่เป็นพื้นที่พักผ่อนแบบ Hidden Space ในกรุงเทพแห่งนี้

Theblooming_03

Theblooming_01

Theblooming_05

Theblooming_04

Location: 8 ทองหล่อ 88/1 ซอย ทองหล่อ 8 แขวง คลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร
Open-Close: เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 – 22.00 น.
Phone: 02 063 5508
Facebook: The Blooming Gallery


7.เบเกอร์ แอนด์ ฟลอริสต์, กรุงเทพฯ
(Baker x Florist)

เบเกอร์แอนด์ฟลอริสต์ ตกแต่งด้วยสไตล์โมรอคโค ภายในสวนหย่อม ตัวร้านมาจากการรีโนเวทตึกเก่าโดยปรับเปลี่ยนผนังให้เป็นห้องกระจกเพื่อความโปร่งสบายรับแสงภายนอก การเลือกตกแต่งด้วยสีเหลืองตัดกับสีขาวให้ดูโดดเด่นน่านั่ง มีมุมไฮไลท์ที่เมื่อมาถึงแล้วต้องมาถ่ายรูปให้ได้คือที่นั่งที่เป็นเหมือนซุ้มตกแต่งด้วยหมอนหลากสีสัน โดยที่ภายในร้านมีการนำทั้งดอกไม้แห้งและสด มาประดับอยู่ทั่วทุกมุมของร้าน เพิ่มชีวิตชีวาได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญทางร้านมีเมนูซิกเนเจอร์น่าลองอย่างหลากหลาย ซึ่งแต่ละเมนูถูกใช้ดอกไม้สดหรือแห้งมาเป็นส่วนประกอบอยู่แทบทุกเมนู แถมเมนูเค้กที่เป็นตัวตนของทางร้านต่างก็ดึงเอาสไตล์และสีสันของดอกไม้มาเป็นวัตถุดิบหลักรังสรรได้อย่างน่าทาน ดังนั้นที่นี่จึงขึ้นชื่อเรื่องการทำเค้กสุดพิเศษ ที่พร้อมเสิร์ฟความน่ารักให้กับคุณอยู่ทุกเวลา

Baker_04

Baker_02

Baker_05

Baker_03

Baker_01

Location: 66 ถนน พระราม 9 ซอย 41 แขวง สวนหลวง แขวงสวนหลวง กรุงเทพมหานคร
Open-Close: เปิดให้บริการทุกวัน พุธ – จันทร์ (ปิดทุกอังคาร) ตั้งแต่เวลา 06.00 – 18.00 น.
Phone: 090 669 5624
Facebook: Baker x Florist


ผู้เขียน

admin tripgether
สัญญาว่าจะเที่ยวให้ดีที่สุด!!

เรื่องที่คุณอาจสนใจ