5 สระธรรมชาติน้ำใสกิ๊ง ฟินได้ต่อเพราะน้ำอุ่นด้วย

บางคนอาจจะยังไม่รู้ว่าในไทยจะมีแหล่งท่องเที่ยวแบบธรรมชาติสวยๆ ไม่แพ้เมืองนอกแบบนี้อยู่ด้วย สระน้ำธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติอย่างแท้จริง เป็นสระน้ำใสกิ๊ง ผุดขึ้นในแต่ละพื้นที่ กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ผู้คนทั้งไทยและชาวต่างชาติให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ด้วยความสวยงามตามธรรมชาติที่พบเห็นได้ไม่บ่อยนัก เราจึงได้รวบรวมสระน้ำธรรมชาติมาให้คุณได้รู้จักกัน เมื่อได้เห็นรูปภาพบางส่วนของเราแล้ว อาจทำให้หลายคนตื่นเต้นอยากจะไปดูให้เห็นกับตา อยากไปนอนแช่ให้สบายกาย แต่ก่อนอื่นอยากฝากไว้ว่าช่วยกันรักษาความสวยงามแบบนี้ไว้ให้ดีที่สุดด้วยนะจ๊ะ

---

1.ป่าต้นน้ำบ้านน้ำราด, สุราษฎร์ธานี

ป่าต้นน้ำบ้านน้ำราด บ่อน้ำที่ผุดขึ้นจากเชิงเขาในป่าถูกพัฒนาให้มาเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ หากเดินทางจากตัวเมืองสุราษฎร์ธานี มาถึงแยก อ.คีรีรัฐนิคมแล้วให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ ต.บ้านทำเนียบ มุ่งหน้าไปหมู่บ้านบ้านน้ำราดระยะทางประมาณ 14 กิโลเมตร พอถึงลานจอดรถของป่าต้นน้ำแล้วต้องเดินเท้าเข้าไปอีก 200 เมตร แล้วจะเจอกับบ่อน้ำผุดสีฟ้าใสอมเขียวมรกต ที่มีธรรมชาติรายล้อมรอบแสนอุดมสมบูรณ์ เต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่นานาพันธุ์ ให้คุณได้ลงไปแช่น้ำผ่อนคลายเรือนร่าง ไปกับน้ำใสไหลเย็นเห็นตัวปลาสไตล์ป่าต้นน้ำ สำหรับไฮไลท์ของป่าต้นน้ำบ้านน้ำราดแห่งนี้คือ บ่อน้ำผุดสีฟ้ามรกตใสมากๆ ราวกับกระจก ซึ่งเป็นบ่อน้ำจืดที่มีตาน้ำเป็นหัวใจหลัก พื้นบ่อเป็นทรายตะกอนหินปูนทำให้น้ำใสอยู่ตลอดเวลา บ่อน้ำไม่ลึกมากสามารถนั่งจุ่มเท้า หรือลงไปนั่งแช่นอนแช่ตัวได้สบายๆ แถมน้ำยังเย็นสบายตัวผ่อนคลายสุดๆ ไปเลย

Location: ป่าต้นน้ำบ้านน้ำราด หมู่ที่ 4 ต.บ้านทำเนียบ อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี
Open-Close: เปิดทำการ 09.00-17.00 น.
Fee: ค่าธรรมเนียมสำหรับผู้ใหญ่ 10 บาท/คน, เด็ก 5 บาท/คน

---

2.โป่งน้ำร้อนไทรงาม, แม่ฮ่องสอน

โป่งน้ำร้อนไทรงาม ปาย บ่อน้ำร้อนธรรมชาติที่ตั้งอยู่ห่างจากเมืองปายประมาน 15 กิโลเมตร บรรยากาศรอบๆ เต็มไปด้วยธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ความพิเศษของ โป่งน้ำร้อนไทรงาม คือจะมีลักษณะเป็นแอ่งน้ำขนาดเล็กที่ลดหลั่นเป็นชั้นคล้ายกับน้ำตกเล็กๆ น้ำใสมากๆ จนสามารถมองเห็นพื้นน้ำได้ด้วยตาเปล่าและที่สำคัญเด็กๆ สามารถลงแช่ตัวได้สบายๆ เพราะน้ำลึกแค่เข่า ถึงจะชื่อว่าโป่งน้ำร้อน แต่น้ำที่นี่มีอุณภูมิที่ไม่ร้อนจนเกินไปและเป็นบ่อน้ำร้อนที่มีน้ำผุดขึ้นมาจะแตกแต่งจากบ่อน้ำร้อนอื่นๆ ที่มีน้ำพุพุ่งขึ้นมา นอกจากจะนอนแช่ตัวอย่างสบายอุราแล้ว ยังมีความเชื่ออีกว่าการแช่น้ำร้อนธรรมชาติยังสามารถบำบัดโรคภัยไข้เจ็บได้ เพราะในน้ำมีแร่ธาตุต่างๆ ที่ช่วยบรรเทาจากโรคภัยต่างๆ ได้ หากใครมีโอกาสมาเที่ยว อ.ปาย แล้วลองแวะมาที่นี่ดูสักครั้งเพราะที่นี่เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่จะทำให้ทุกคนรีแลกซ์ร่างกายได้ง่ายๆ กับโป่งน้ำร้อนไทรงามที่เรียกได้ว่าเป็นออนเซ็นสไตล์ไทยแลนด์เลยทีเดียว!

 

Location: เขตอนุรักษ์ป่าไทรงาม ต.แม่นาเติง อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน
Open-Close: เปิดทำการ 08.00 – 18.00 น.
Fee: ค่าธรรมเนียมเขตอนุรักษ์ป่าไทรงาม 30 บาท/คน, ค่าเข้าโป่งน้ำร้อนไทรงาม 20 บาท/คน

---

3.บ่อน้ำพุร้อนหินดาด, กาญจนบุรี

บ่อน้ำพุร้อนหินดาด อ.ทองผาภูมิ บ่อน้ำพุร้อนที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติที่นิยมมาแช่ตัวเพื่อความผ่อนคลาย บ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้เป็นน้ำแร่บริสุทธิ์ที่ถูกพบโดยทหารชาวญี่ปุ่นตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง และด้วยความที่เป็นน้ำแร่บริสุทธิ์ที่ผุดขึ้นมาจากใต้ดินแห่งนี้ จึงเชื่อว่าเมื่อลงไปแช่แล้วจะสามารถรักษาโรคภัยได้ จากประวัติอันยาวนานสมัยสงครามโลกครั้งที่สองจนตอนนี้บ่อน้ำพุร้อนหินดาด กลางเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นิยมทั้งไทยและชาวต่างชาติ โดยบ่อน้ำพุร้อนจะมีอุณหภูมิความร้อนของน้ำในบ่อประมาณ 45-55 องศาเซลเซียส มีด้วยกันทั้งหมด 3 บ่อ ซึ่งแต่ละบ่อจะมีความร้อนที่ต่างกันออกไป ทั้งแบบร้อนที่สุดและลึกที่สุด แบบร้อนปานกลาง และบ่อเล็กๆ ที่มีความร้อนน้อยที่สุด เด็กๆ สามารถลงไปแช่ได้ บรรยากาศโดยรอบร่มรื่นเต็มไปด้วยต้นไม้และยังมีลำธารไหลผ่านข้างๆ บ่อน้ำร้อนอีกด้วย จะเลือกแช่น้ำร้อนในบ่อหรือจะลงไปแช่ในลำธารเย็นๆ ก็เลือกได้ตามใจชอบ

 

Location: ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 323 ต.หินดาด อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
Open-Close: เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น.
Fee: ค่าธรรมเนียม 20 บาท/คน

---

4.สระบ่อผุด, ปากช่อง

น้ำพุธรรมชาติบ้านท่าช้าง (น้ำผุดปากช่อง) หรือที่เรียกกันว่า สระบ่อผุด ตั้งอยู่ในตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง ที่นี่เป็นตาน้ำขนาดใหญ่ที่มีน้ำไหลตลอดทั้งปี ความพิเศษของที่นี่คือน้ำจะเป็นสีฟ้าใสชนิดที่ว่าไม่ต้องใส่ฟิลเตอร์ ซึ่งเกิดมาจากแคลเซียมคาร์บอเนตสูงหรือมีความเป็นด่างมากนั่นเอง ไม่เป็นอันตรายสามารถลงเล่นน้ำได้ ตัวสระแบ่งออกเป็น 4 ชั้นลดลั่นลงมา มีทั้งบ่อลึกที่ไม่ให้ลงเล่นและบ่อตื้นสำหรับเด็กๆ ส่วนบริเวณด้านหน้ามีร้านขายอาหารมากมาย เหมาะแก่การไปนั่งพักผ่อน หรือใครจะเตรียมของไปปิกนิกก็ชิลล์ได้ไม่แพ้กัน

 

Location: บ่อน้ำพุธรรมชาติบ้านท่าช้าง ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา 
Open-Close: เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.
Fee: ไม่เสียค่าใช้จ่าย

---

5.สระมรกต, กระบี่

สระมรกต สระน้ำสีเขียวมรกตที่เป็นหมุดหมายสำคัญของนักท่องเที่ยวทั้งไทยและชาวต่างชาติ ต่างก็ต้องการไปสัมผัสน้ำใสๆ สีเขียวอมฟ้า ซึ่งกำเนิดมาจากธารน้ำอุ่นในผืนป่าภาคใต้ โดยมีอุณหภูมิประมาณ 30-50 องศาเซลเซียส โดยสระมรกตจะเปิดให้เป็นแหล่งเรียนรู้ทางธรรมชาติ ซึ่งก่อนที่จะมาถึงตัวสระจะมี 2 เส้นทางที่ต้องเดินเท้าเข้ามา เส้นทางปกติจะถึงสระในระยะประมาณ 800 เมตร ส่วนอีกเส้นทางหนึ่งจะเป็นเส้นทางสำหรับศึกษาธรรมชาติเต็มไปด้วยพืชพันธุ์นานาชนิดและสัตว์ที่อาศัยอยู่ตามป่าเขา โดยมีระยะทาง ประมาณ 2 กิโลเมตรนิดๆ และก็มาบรรจบที่สระมรกตจุดหมายเดียวกัน

 

Location: ม.2 ต.คลองท่อมเหนือ อ.คลองท่อม จ.กระบี่
Open-Close: เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. **ปิดพื้นที่ฟื้นฟูในช่วงเดือน พฤษภาคม – ตุลาคม ของทุกปี**
Fee: ค่าธรรมเนียมสำหรับผู้ใหญ่ 20 บาท/คน, เด็ก 10 บาท/คน 

---