7 จุดเช็คอิน โลเคชั่นสวยเชียงใหม่ ที่ต้องตามไปเช็คอิน ทริปนี้รับรองเมมเต็ม

19,828 ครั้ง
23 ส.ค. 2562

ไปเที่ยวเชียงใหม่ทั้งทีต้องเตรียมกล้องให้พร้อม พร็อพให้พร้อม ที่สำคัญเมมต้องจัดเต็ม เพราะเชียงใหม่เป็นเมืองที่มีแลนด์มาร์คและมุมถ่ายรูปเยอะมากๆ บอกเลยว่ามาทีไรไม่มีทางที่จะไม่ได้รูปไปอัพโซเชียล! ด้วย 7 จุดเช็คอิน โลเคชั่นสวยเชียงใหม่ ที่ต้องตามไปเช็คอิน ทริปนี้รับรองเมมเต็มที่สวยงามตามธรรมชาติหรือสวนที่ถูกจัดสรรขึ้นมา ที่ดูแล้วจะเป็นฉากหลังได้อย่างดีงามทั้งสิ้น อีกทั้งหลายๆ ที่ มีเน็ตไอดอลมากมายมาสร้าง reference ให้หลายๆ คนมาถ่ายรูปตามกันเป็นแถว ว่าแล้วก็รีบปักหมุดแล้วไป 7 จุดเช็คอิน โลเคชั่นสวยเชียงใหม่ ที่ต้องตามไปเช็คอิน ทริปนี้รับรองเมมเต็ม ลุยถ่ายรูปให้แหลกกันไปเลย!

7 จุดเช็คอิน โลเคชั่นสวยเชียงใหม่ ที่ต้องตามไปเช็คอิน ทริปนี้รับรองเมมเต็ม

1.ไร่ดอกลมหนาว – ม่อนแจ่ม

แหล่งท่องเที่ยวที่ถ่ายรูปสวยเป็นอันดับต้นๆ ของเชียงใหม่เลยก็ว่าได้ ไร่ลมหนาว ตั้งอยู่บนดอยม่อนแจ่ม หรือหมู่บ้านม่อนแจ่ม ที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทั้งที่พัก ที่กิน และจุดเช็คอินสุดฮิต เมื่อใครที่ได้มาเยือนเชียงใหม่จะต้องแวะขึ้นมาชมวิวด้านบนนี้ ด้วยระยะทางที่ไม่ไกลจากตัวเมืองมากนัก เส้นทางที่ไปง่าย และบรรยากาศที่โอบล้อมด้วยป่าเขา จึงทำให้นักท่องเที่ยวหลั่งไหลมากันอย่างไม่ขาดสายโดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว แต่ใครจะรู้ว่าไร่ดอกลมหนาวเขามีทุ่งดอกไม้ให้ถ่ายสวยๆ เกือบทั้งปีเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นดอกเวอร์บีน่า ดอกสแตติสและดอกทานตะวัน บอกเลยว่าสามารถถ่ายรูปชิคๆ อัพโซเชียลให้สดใสขึ้นมาทันใด

Location: บ้านหนองหอยเก่า ต.แม่แรม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่
Recommend: ไร่ดอกลมหนาว ดอกเวอร์บีน่าจะเริ่มเพาะกล้าช่วงเดือน มีนาคม – เมษายน ดอกไม้โตเต็มที่ช่วงเดือน พฤษภาคม – กรกฏาคม และจะสวยที่สุดกลางเดือนมิถุนายน และเว้นช่วงปลูกกล้าใหม่จะสวยที่สุดอีกทีช่วง มกราคม – มีนาคม และช่วงเดือน พฤศจิกายน – ธันวาคม จะเริ่มปลูกดอกสแตติสและดอกทานตะวันและสามารถเที่ยชมได้ในช่วงต้นปี
Fee: ค่าเข้าชมไร่ดอกลมหนาว 20 บาท/คน
อ่านทริปรีวิว >> ม่อนแจ่ม-เชียงใหม่ 3 วัน 2 คืน
ที่พัก >> 13 ที่พักม่อนแจ่ม คัดมาแล้วว่าแจ๋ว

2.ไร่ชาลุงเดช – แม่แตง

ไร่ชาลุงเดช ไร่ชาผืนสุดท้ายของดอยม่อนเงาะที่นี่เป็นทั้งคาเฟ่วิวหลักล้านและที่พักสุดสโลว์ไลฟ์ สำหรับโซนคาเฟ่ก็ดัดแปลงมาจากลานตากใบชาของลุงเดช ที่หันหน้าออกสู่วิวภูเขาและด้านล่างเป็นวิวไร่ชายิ่งถ้ามาเที่ยวในช่วงฤดูหนาวที่นี่ก็มีอากาศหนาวอุณหภูมิสิบต้นๆ พร้อมกับสายหมอกออกมาให้เราได้ชมกันแบบฟินๆ สำหรับเมนูอาหารของที่นี่ก็นำใบชาในไร่มาเป็นส่วนประักอบไม่ว่าจะเป็น ยำปลากระป๋องใบชา ไข่เจียวยอดชา และมีของหวานอย่างเค้กและเครื่องดื่มอร่อยๆ ให้เราได้ชิมกันอีกด้วย และที่ต้องห้ามพลาดเลยก็คือน้ำชาร้อนๆ ที่หอมกรุ่นมาดื่มคลายความหนาวบอกเลยว่าฟินสุดๆ นอกจากนี้ที่นี่ยังมีห้องพักสุดเก๋ที่มีวิวไร่ชาอยู่หน้าบ้าน รับรองเลยว่ามาเที่ยวและพักผ่อนที่นี่เหมือนได้มาหยุดเวลาไว้จนหายเหนื่อยเลยล่ะ

Location: ไร่ชาลุงเดช 91/1 หมู่ 2 ต.เมืองก๋าย อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
Open – Close: ร้านเปิดเวลา 08.00 – 17.00 น.
Phone: 081 163 3765, 062 392 4299
Price: ราคาห้องพัก 500 – 800 บาท
Facebook: ไร่ชาลุงเดช

3.สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ – แม่ริม

สวนพฤกษศาสตร์ แหล่งเรียนรู้และแหล่งอนุรักษ์พืชพันธ์ไม้ต่างๆ เอาไว้ ภายในสวนพฤกษศาสตร์มีบริเวณกว้างขวางมาก แบ่งโซนไว้อย่างเป็นสัดส่วน ซึ่งเมื่อเข้ามาถึงทางเข้าแล้วเจ้าหน้าที่จะแจกแผนที่ให้เพื่อความสะดวกต่อการไปชมในแต่ละบริเวณ แต่หากอยากได้รูปสวยๆ จะต้องไปในโรงเรือนพืชทนแล้ง เป็นจุดถ่ายรูปที่สายฮิปสเตอร์และไอดอลต่างๆ ไปถ่ายกันเยอะมาก นอกจากนี้ยังมีโรงเรือนกล้วยไม้ โรงเรือนพันธุ์บัว และอีกมากมายที่เป็นแหล่งเรียนรู้ชั้นดีของเหล่านักเรียนนักศึกษา อีกทั้งยังมี Canopy Walkway ทางเดินลอยฟ้าสำหรับเดินชมนกชมไม้ บอกเลยว่าได้มาเที่ยวที่สวนพฤกษศาสตร์นอกจากจะได้ความรู้แล้วยังได้รูปสวยๆ กลับไปอีกเพียบ คุ้มราคาจริงๆ

Location: ทางหลวงหมายเลข 1096 (แม่ริม-สะเมิง) ประมาณ 12 กม.ต.แม่แรม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ อยู่ทางซ้ายมือ
Open – Close: เปิดทำการเวลา 08.30 – 17.00 น.
Phone: 053 841 234
Fee: ค่าธรรมเนียม ผู้ใหญ่ 40 บาท นักเรียนและนักศึกษา 20 บาท เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี และผู้ใหญ่อายุเกิน 60 ปี เข้าชมฟรี รถยนต์คันละ 100 บาท

4.ประตูท่าแพ

อีกหนึ่งสถานที่ประวัติศาสตร์ของเมืองเชียงใหม่ ประตูท่าแพ มีเรื่องราวให้น่าค้นหาอีกมากมายอยู่คู่เมืองเชียงใหม่มากว่าหลายร้อยปีแล้ว ใครที่มาเที่ยวเชียงใหม่จะต้องไม่พลาดเช็คอิน ปัจจุบันประตูท่าแพกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มักจะมีนักท่องเที่ยวมาถ่ายรูป มีร้านอาหารมาตั้งขายใกล้ๆ มีคาเฟ่สำหรับนั่งพักผ่อน และยังเป็นพื้นที่สาธารณะที่นอกจากจะมีผู้คนมานั่งเล่นเดินเล่นกันแล้ว ในบางวันจะมีการแสดงดนตรีของเหล่านักดนตรีอาสาที่จะมามอบเสียงเพลงขับกล่อมให้กับผู้คนบริเวณนั้น แถมในทุกวันอาทิตย์จะมีถนนคนเดินท่าแพที่แสนจะคึกคักทอดยาวไปจนถึงในเมืองเชียงใหม่เลยทีเดียว เป็นทั้งฉากหลังภาพพรีเวดดิ้ง บัณฑิต และฉากในละครหรือหนังไปหลายต่อหลายเรื่องแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ประตูท่าแพ เป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์และเสน่ห์ของเมืองล้านนาแห่งนี้อีกด้วย

Location: ถนน มูลเมือง ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่

5.อุทยานหลวงราชพฤกษ์

อุทยานหลวงราชพฤกษ์ เป็นอุทยานที่ใหญ่ที่สุด มีพื้นที่กว่า 500 ไร่ เป็นแหล่งรวบรวมพรรณไม้นานาชนิเทั่วทุกมุมโลก โดยภายในบริเวณพื้นที่อุทยานจะมีการจัดแสดง ตกแต่งสวนตามเอกลักษณ์ของหลากชาติพันธุ์ เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยว และที่จะต้องไม่พลาดเข้าไปเยี่ยมชมก็คือ หอคำหลวง สถาปัตยกรรมแบบล้านนาที่มีความงดงามที่สุดสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกีรยติ แด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 อีกทั้งภายในยังมีโรงไม้ดอก โดมไม้เขตร้อน สวนเกษตรทฤษฎีใหม่ เรือนร่มไม้ อาคารกล้วยไม้ และอีกเยอะแยะมากมาย เรียกได้ว่าเดินเที่ยวชมกันทั้งวันเลยทีเดียว หากได้มาในช่วงหน้าหนาวจะมีการจัดแสดงที่น่าตื่นตาตื่นใจยิ่งขึ้น ใครที่ได้มาเที่ยวเชียงใหม่มีเวลาเหลือๆ ต้องแวะมาสักหน่อยแล้วล่ะ

Location: อุทยานหลวงราชพฤกษ์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่
Open – Close: เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 08.00 – 18.00 น.
Phone: 053 114 110 5
Website: อุทยานหลวงราลพฤกษ์
Fee: ค่าธรรมเนียม ผู้ใหญ่ 100 บาท, เด็ก 70 บาท, เด็กส่วนสูงต่ำกว่า 100 ซม. เข้าชมฟรี

6.สวนสนบ่อแก้ว – ฮอด

จุดแวะถ่ายรูปหลักของถนนสาย ฮอด – แม่สะเรียง สวนสนบ่อแก้วเป็นลักษณะป่าสนที่เรียงรายเป็นแถวยาว เป็นพื้นที่สำหรับทดลองปลูกสนชนิดต่างๆ ซึ่งมีหลากหลายพันธุ์ ทั้งไทยและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น ออสเตรเลีย แอฟริกา และไต้หวัน เกิดเป็นต้นสนนับพันที่เรียงรายต่อแถวกันเป็นแนวยาว เป็นฉากหลังสำหรับการถ่ายรูปฮิปๆ ชั้นดีได้เลย นอกจากนี้ยังมีอากาศที่ชื้นและเย็นตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในช่วงปลายฝนต้นหนาว อาจจะมีหมอกมาปกคลุมยิ่งเพิ่มความฉ่ำยิ่งขึ้นไปอีก ที่สำคัญ สวนสนบ่อแก้ว ได้รับสมญานามว่าเป็น นามิ เมืองไทย ไม่ต้องไปไกลถึงเกาหลีก็ได้รูปสวยๆ แบบโคเรียสไตล์ได้นะ

Location: ต.บ่อหลวง อ.ฮอด จ.เชียงใหม่

7.สะพานแขวนเขื่อนแม่กวง – ดอยสะเก็ด

สะพานแขวนเขื่อนเแม่กวง ที่ใครๆ ต่างก็เรียกว่า สะพานเชื่อมใจ เป็นสะพานที่เชื่อมแม่น้ำกวงไปยังบ้านป่าสักงาม ที่เพิ่งสร้างแล้วเสร็จเมื่อไม่นานมานี้ โดยมีลักษณะเป็นสะพานคู่ขนานกันสองเลน ปัจจุบันเปิดให้สัญจรเฉพาะรถเล็กเท่านั้น ผู้คนนิยมมาถ่ายรูปบนสะพานแขวน เพราะมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของสะพานโครงเหล็ก และทัศนียภาพของเขื่อนแม่กวง รายล้อมไปด้วยขุนเขาน้อยใหญ่ สาเหตุที่เรียกสะพานเชื่อมใจ เพราะเป็นลักษณะสะพานแฝดมองดูเป็นเหมือนคู่รักที่เคียงคู่กัน และมักจะมีคู่รักหลายคู่มาคล้องกุญแจล็อคไว้ด้วยกัน เพื่อเป็นพยานแห่งรักแสดงความรักที่ยั่งยืนยาวนาน โรแมนติกสุดๆ ไปเลย หรือหากใครยังไม่มีคู่ก็ไม่ต้องนอยด์ไป เพราะสามารถเดินทางมาถ่ายรูปชิคๆ เฟี้ยวๆ ได้กับอีกแลนด์มาร์คหนึ่งในเชียงใหม่แห่งนี้