15 วัดสวยทั่วเมืองไทย อิ่มบุญ อิ่มใจ ต้องไปให้ได้สักครั้ง!!
35,008 ครั้ง
8 ก.ย. 2562
35,008 ครั้ง
8 ก.ย. 2562
ไม่ว่ายุคสมัยจะเปลี่ยนไปแค่ไหน แต่วัดยังเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวพุทธศาสนิกชนเสมอมา นอกจากจะเป็นสถานที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจแล้วในสมัยนี้วัดยังมีบริบทเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกด้วย และในเมืองไทยก็มีวัดสวยงามมากมาย ทั้งวัดเก่าแก่และวัดที่สร้างขึ้นใหม่ วันนี้ทริปเก็ทเตอร์เลยเอา 15 วัดสวยจากทั่วเมืองไทยมาฝากเพื่อนๆ ลองตามมาดูกันว่าจะมีวัดไหนสวยสะดุดตากันบ้าง
วัดร่องเสือเต้น วัดสวยแปลกตาที่ตั้งอยู่ที่ ต.ริมกก อ.เมือง จ.เชียงราย ไฮไลท์ของวัดนี้อยู่ที่พระอุโบสถสีน้ำเงินที่สร้างในรูปแบบสถาปัตยกรรมไทยประยุกต์ และนำการใช้สีน้ำเงินมาเป็นสีหลักตัดกับสีทอง และประดับประดาด้วยลวดลายปูนปั้นที่สวยงาม สีน้ำเงินฟ้าหมายถึง ธรรมะของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่เป็นคำสอนที่เป็นจริงตามเหตุผลเปรียบเสมือนท้องฟ้าที่สดใส ภายในยังมีผลงานจิตรกรรมภาพวาดฝาผนังเรื่องราวของพุทธประวัติ ประดิษฐาน พระพทุธรัชมงคลบดีตรีโลกนาถ อยู่ภายในพระอุโบสถอีกด้วย
Location: 308 ม.2 ถ.แม่กก ต.ริมกก อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย
Open – Close: เปิดทำการทุกวันตั้งแต่เวลา 05.00 – 19.00 น.
Facebook: วัดร่องเสือเต้น
วัดถ้ำเสือ วัดเก่าแก่ของ อ.ท่าม่วง ตัววัดตั้งอยู่บนเนินเขาสูงและมีสถาปัตยกรรมที่งดงาม และยังมีพระพุทธรูปปางประธานพรที่ตัวองค์พระประดับด้วยโมเสคสีทองที่ใหญ่ที่สุดใน จ.กาญจนบุรี และยังมีเจดีย์เกศแก้วปราสาทที่สูงสง่าซึ่งเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ นอกจากนี้ยังมีบ่อน้ำทิพย์ บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ใครๆ ก็ต้องมาตักเพื่อความเป็นศิริมงคล ด้านบนของวัดมีลมพัดเย็นๆ และมองลงไปเห็นวิวของทุ่งนาสีเขียวที่ล้อมรอบตัววัดอยู่ด้วย
Location: วัดถ้ำเสือ ต.ม่วงชุม อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี
Open – Close: เปิดทำการทุกวันตั้งแต่เวลา 08.00 – 16.30
วัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าราชานุสรณ์ หรืออีกชื่อหนึ่งที่เรียกกันว่า วัดพระพุทธบาทปู่ผาแดง และสิ่งที่เรียกได้ว่าเป็นไฮไลท์ของวัดนี้ก็คือ เจดีย์สีขาวเล็กๆ ที่สร้างอยู่บนภูเขาสูงเสียดฟ้าท่ามกลางภูเขาสูงชันล้อมรอบ และบนยอดเขานี้ยังมีรอยพระพุทธบาทประดิษฐานอยู่ด้วย นอกจากนี้บนยอดเขายังมีศาลาสวดมนต์ซึ่งจะมีพระพุทธรูปประดิษฐานให้ขึ้นมากราบไหว้ขอพรได้อีกด้วย
Location: หมู่บ้านทุ่งทอง ม.7 ถ.แจ้ห่มเมืองเหนือ ต.วิเชตนคร อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง 52120
Open – Close: จันทร์ – ศุกร์ เวลา 08.00 – 16.00 น. และ เสาร์ – อาทิตย์ เวลา 06.30 – 16.00 น.
Fee: ค่ารถของเจ้าหน้าที่ ขึ้น – ลง 70 บาท (ไม่อนุญาตให้เอารถส่วนตัวขึ้น)
วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ใครเยือนเขาค้อ ก็ต้องแวะมาสักการะสักครั้งเพื่อความเป็นมงคลต่อชีวิต ตัววัดตั้งอยู่บนภูเขาท่ามกลางบรรยากาศขุนเขาน้อยใหญ่ของเขาค้อ ตำนานกล่าวว่าชาวบ้านได้เห็นลูกแก้วลอยเหนือฟากฟ้าและหายลับเข้าไปในถ้ำบนยอดเขา และเชื่อว่าเป็นพระบรมสารีริกธาตุเสด็จมา เลยถือให้ที่นี่เป็นพื้นที่มงคลและมีความศักดิ์สิทธิ์เลยเรียกกันว่า ผาซ่อนแก้ว ส่วนสำคัญของวัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว ที่เป็นที่จดจำจะมีอยู่ 2 ส่วน คือ อุโบสถพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ และ เจดีย์พระธาตุผาซ่อนแก้ว และไฮไลท์ก็คือ อุโบสถพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ ที่ตั้งเรียงรายไล่ระดับได้อย่างเป็นสัดส่วน ถูกคำนวนและสร้างได้อย่างแม่นยำ
Location: 95 บ้านทางแดง ต.แคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์
Open – Close: เปิดทำการเวลา 08.00 – 17.00 น.
Website: http://www.phasornkaew.org
อุทยานธรรมเขานาในหลวง ต.ต้นยวน อ.พนม จ.สุราษฎ์ธานี วัดแห่งนี้เป็นสถานที่ตั้งเจดีย์ลอยฟ้า พระพุทธศิลาวดี และบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่ก่อสร้างด้วยศิลาแลงจากจังหวัดกำแพงเพชร และยังตั้งอยู่บนยอดเขาหินปูนที่สูงจากพื้นดินเกือบ 300 เมตร และไฮไลท์ที่สำคัญของที่นี่ก็คือซุ้มประตูวัดที่ยามเช้าจะมีแสงจากพระอาทิตย์สอดส่องเข้ากับซุ้มประตูซึ่งถือได้ว่าเป็นความสวยงามระหว่างธรรมชาติและสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น
Location: ม.8 บ้านเขานาใน ต.ต้นยวน อ.พนม จ.สุราษฎร์ธานี
Open – Close: เปิดตั้งแต่เวลา 07.00 – 20.00 น.
Facebook: อุทยานธรรมเขานาในหลวง
มาต่อกันที่ วัดม่วง เดิมทีวัดแห่งนี้เป็นวัดร้างที่สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนปลาย ต่อมาเมื่อเสียกรุงศรีอยุธยาวัดม่วงจึงได้เหลือเพียงซากปรักหักพังจนกระทั้งพระครูวิบูลอาจารคุณได้มาปักกลดธุดงค์และนิมิตเห็นหลวงปู่ขาวและหลวงปู่แดงให้ช่วยบูรณะวัดขึ้นมาใหม่ หลังจากนั้นท่านจึงได้ทำการปฏิสังขรณ์วัดขึ้นมาใหม่ และที่เรียกได้ว่าเป็นไฮไลท์เลยก็คือ ปูนปั้นกลีบบัวที่ล้อมรอบพระอุโบสถและภายในยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนังอีกด้วย และยังมีพระพุทธรูปที่องค์ใหญ่ที่สุดในโลกอย่างพระพุทธมหานวมินทร์ศากยมุนีศรีวิเศษชัยชาญที่สูงเท่าตึก 32 ชั้นสีทองอร่ามทั้งองค์อยู่อีกด้วย และยังมีความเชื่อว่าถ้ามาเคารพสักการะ ท่านจะประทานพรให้เติบโตและเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน
Location: 19 ต.หัวตะพาน อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง
Open – Close: เปิดเวลา 07.00 – 20.00 น.
วัดร่องขุ่น อีกหนึ่งวัดสวยที่สร้างชื่อเสียงให้กับเมืองไทย ที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกต่างเดินทางมาเก็บภาพความสวยงามของวัดแห่งนี้ วัดร่องขุ่นออกแบบและก่อสร้างโดย อ.เฉลิมชัย โฆษิต พิพัฒน์ ที่มีแนวคิดอยากสร้างวัดให้เหมือนดินแดนแห่งสวรรค์ที่มนุษย์สามารถสัมผัสได้ และยังได้รับแรงบันดาลในในการสร้างวัดร่องขุ่นมาจาก ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ และที่เป็นไฮไลท์ก็คงหนีไม่พ้นพระอุโบสถสีขาว ที่สวยงามไปด้วยลวดลายปูนปั้นและเรื่องราวต่างๆ เป็นอีกหนึ่งวัดสวยของเมืองไทยที่ใครมาเห็นก็ต้องร้องว้าว!
Location: ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมือง จ.เชียงราย
Open – Close: เปิดทำการทุกวันเวลา 06.30 – 18.00 น.
Website: www.วัดร่องขุ่น.com
วัดปากน้ำโจ้โล้ วัดที่มีอุโบสถสีทองเป็นไฮไลท์และยังเป็นอุโบสถแห่งเดียวของประเทศไทยที่ทาด้วยสีทองทั้งหลัง ทำให้มีความงดงามและแปลกตาสุดๆ และยังเป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยพระเจ้าตากสินครั้งที่เสด็จนำทัพผ่านเพื่อไปตีเมืองจันทบุรี เหตุที่เรียกว่าวัดปากน้ำโจ้โล้เพราะสมัยก่อนแม่น้ำหน้าวัดมีปลากระพงชุกชุม ซึ่งชาวจีนเรียกปลากระพงว่า โจ้โล้ จึงเป็นที่มาของชื่อวัด ปากน้ำโจ้โล้ ภายในพระอุโบสถยังตกแต่งด้วยสีทองและประดิษฐานพระพุทธรูปเอาไว้ให้กราบไหว้สักการะ นอกจากนี้ทางด้านนอกยังมีพระพุทธรูปปางป่าเลไลก์ใต้ต้นองค์ใหญ่และที่เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์เลยก็คือลวดลายปูนปั้นที่ประดับอยู่บนซุ้มประตูที่ใครเห็นก็ต้องร้องว้าวไปตามๆ กัน หรือใครที่ชอบเรื่องราวในประวัติศาสตร์ก็ต้องไม่พลาดไปชมวัตถุโบราณอย่างเรือสมัยพระเจ้าตากสินซึ่งถูกเก็บรักษาไว้ที่นี่เช่นเดียวกัน
Location: หมู่ 7 ต.ปากน้ำ อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา
Open-Close: เปิดบริการทุกวัน 8.00 – 17.00 น.
Facebook: วัดปากน้ำโจ้โล้ l Wat Paknamjolo
วัดพระธาตุเขาน้อย วัดที่เป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดในตัวเมืองน่าน และประดิษฐานพระพุทธมหาอุดมมงคลนันทบุรีศรีน่าน พระพุทธรูปปางประธานพรบนฐานดอกบัวสูง 9 เมตร หันพระพักตร์ออกสู่เมืองน่าน และยังมีพระธาตุเจดีย์สีขาวศิลปะแบบพม่าผสมล้านนา ภายในวัดยังมีสิ่งที่น่าสนใจอยู่อีกหลายจุดตั้งแต่บันไดนาคสามหัว 303 ขั้น, ศาลาพระเจ้าทันใจ,รอยพระพุทธบาทจำลอง และอีกหลายจุดที่สามารถกราบไหว้ขอพรได้
Location: ต.ดู่ใต้ อ.เมือง จ.น่าน
Open – Close: เปิดทำการทุกวันเวลา 06.00 – 18.00 น.
วัดจุฬาภรณ์วนาราม วัดชื่อดังของจังหวัดนครนายกที่มีจุดเด่นเป็นซุ้มอุโมงค์ไม้ไผ่ที่โค้งงอเข้าหากัน บรรยากาศภายในวัดก็เต็มไปด้วยความร่มรื่น เงียบสงบ และได้สัมผัสถึงลมเย็นๆ จากธรรมชาติ และที่สำคัญขับรถจากกรุงเทพไม่เกิน 2 ชั่วโมงก็ได้มาสัมผัสบรรยากาศป่าไผ่ที่คล้ายกับป่าไผ่อะราชิยามะของประเทศญี่ปุ่น สำหรับอุโมงค์ไม้ไผ่ทางเข้าวัดก็มีความยาวประมานเกือบ 300 เมตรและยังมีสวนหย่อมให้เราได้ให้อาหารปลาอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีพระอุโบสถที่กำลังทำการก่อสร้างใหม่ซึ่งภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยทรงเครื่องกษัตริย์ซึ่งหาชมได้ยาก ถ้าหากมาเที่ยวนครนายกกันแล้วลองแวะมาทำบุญที่วัดจุฬาภรณ์วนารามกันก่อนรับรองว่าอิ่มทั้งบุญแถมได้รูปสวยๆ กลับไปเพียบ
Location: ต.บ้านพริก อ.บ้านนา จ.นครนายก
Open – Close: เปิดเวลา 06.00 – 18.00 น.
เปลี่ยนบรรยากาศมาชมความงามของวัดสวยที่รับอิทธิพลจากฝั่งตะวันตกกันบ้างที่ วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร วัดนี้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2419 ตั้งอยู่บนเกาะกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งจะต้องนั่งกระเช้าข้ามฝั่งสามารถชมวิวแม่น้ำกันแบบเต็มตา ภายในบรรยากาศร่มรื่น ถูกคลุมไปด้วยเงาของร่มไม้และสวนสวยเหมือนหลุดเข้ามาในต่างประเทศ เพราะรอบๆ เต็มไปด้วยตึกสวยสีสดใสสไตล์ยุโรป ส่วนมุมไฮไลท์ต้องยกให้กับความงามของอุโบสถ ที่ออกแบบโดยใช้ศิลปะแบบโกธิค ภายในงดงามด้วยกระจกสี หน้าต่าง และแท่นที่ประดิษฐานพระพุทธนฤมลธรรโมภาสอันวิจิตร และรอบๆ ยังมีสถาปัตยกรรมสวยให้พักผ่อนถ่ายรูปกันอีกเพียบ
Location: ต.บ้านเลน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา
Open-Close: เปิดให้เข้าชมทุกวัน 8.30 – 16.30 น
Fee: ไม่มีค่าเข้าชม / กระเช้าข้ามฝากไม่มีค่าบริการ มีกล่องรับบริจาค
วัดบ่อแก้ว อ.นาหมื่น จ.น่าน สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองของ อ.นาหมื่น โดดเด่นด้วยการสร้างแบบศิลปะล้านนา ตัวพระอุโบสถของวัดเป็นสีขาวทั้งหลังประดับประดาไปด้วยลวดลายปูนปั้นที่วิจิตรงดงามตา และยังประดับด้วยกระจกสีต่างๆ ซึ่งตัดกับตัวพระอุโบสถสีขาวได้เป็นอย่างดี และนอกจากนี้ตัววัดยังตั้งอยู่ท่ามกลางทุ่งนาสีเขียว และด้านข้างพระอุโบสถยังประดิษฐานพระธาตุบ่อแก้ว และมีประเพณีสรงน้ำพระธาตุทุกวันเพ็ญเดือน 8 เหนือ ตรงกับวันวิสาขะบูชาอีกด้วย
Location: ต.บ่อแก้ว อ.นาหมื่น จ.น่าน
Open – Close: เปิดทำการเวลา 08.00 – 17.00 น.
วัดโสธรวรารามวรวิหาร หรือที่เราคุ้นหูกันในชื่อ วัดหลวงพ่อโสธร วัดคู่บ้านคู่เมืองฉะเชิงเทราและยังเป็นวัดที่ชาวฉะเชิงเทราให้ความเคารพสักการะ ซึ่งสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อพุทธโสธร ซึ่งภายในพระอุโบสถหลวงพ่อโสธรองค์จริงสามารถเข้าไปกราบไหว้ได้แต่ต้องแต่งกายให้สุภาพ ภายในพระอุโบสถหลังใหม่ยังตกแต่งด้วยจิตกรรมฝาพนังที่งดงามตั้งแต่ตัวพื้นพระอุโบสถ เสา ผนัง จนไปถึงเพดาน บอกเล่าเรื่องราวของสีทันดร มหาสมุทร จตุโลกบาล พรหมโลก และดวงดาว และที่สำคัญพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงประกอบพิธียกฉัตรทองคำอีกด้วย มาถึงเมืองแปดริ้วแล้วจะต้องไม่พลาดมากราบไหว้ขอพรหลวงพ่อพุทธโสธรเพื่อความเป็นศิริมงคลแก่ชีวิต
Location: ถ.เทพคุณากร ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา
Open-Close: เปิดบริการทุกวัน วันธรรมดา 7.00 – 16.30 น. / วันเสาร์-อาทิตย์ 7.00 – 17.00 น.
Facebook: วัดโสธรวราราม วรวิหาร l Wat Sothornwararam Worawihan
วัดห้วยปลากั้ง อีกหนึ่งวัดชื่อดังของ จ.เชียงราย ที่ตัววัดตั้งอยู่บนเนินเขา โดดเด่นด้วย พบโชคธรรมเจดีย์ เจดีย์สูง 9 ชั้นที่มีรูปทรงทางสถาปัตยกรรมสวยงามและแปลกตามีลักษณะเป็นทรงแหลมซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากเจดีย์ของจีนผสมผสานกับความเป็นล้านนาได้อย่างลงตัว บริเวณรอบๆ ยังมีเจดีย์ 12 ราศีอีกด้วย ภายในเจดีย์พบโชคธรรมเจดีย์ยังประดิษฐานพระพุทธรูปและพระอรหันต์ปางต่างๆ และนอกจากนี้ยังมีเจ้าแม่กวนอิมที่แกะสลักจากไม้จันหอมองค์ใหญ่ ใครที่อยากขอพรเรื่องการงาน การเงิน สุขภาพ และความรัก แนะนำเลยว่าต้องมาที่นี่
Location: 553 ม.3 ต.ริมกก อ.เมือง จ.เชียงราย
Open – Close: เปิดทำการทุกวันเวลา 07.00 – 18.00 น.
Facebook: พระอาจารย์พบโชค ติสฺสวํโส
วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร ที่เป็นอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรมหาวิหาร และยังเป็นวัดที่ประดิษฐานองค์พระปฐมเจดีย์ซึ่งถือว่าเป็นสถูปที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และองค์พระปฐมเจดีย์ที่เราเห็นกันอยู่ในปัจจุบันนั้นเป็นองค์ที่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 โปรดเกล้าฯ ให้สร้างครอบองค์เดิมไว้ สำหรับภายในยังมีสิ่งที่น่าสนใจมากมายอย่าง พระร่วงโรจนฤทธิ์พระพุทธรูปปางประทานอภัย ประดิษฐานอยู่ในซุ้มทางทิศเหนือของเจดีย์ นอกจากนี้แล้วในทุกๆ ปี จะมีเทศกาลนมัสการองค์พระปฐมเจดีย์งานจะจัดขึ้นช่วงวันขึ้น 12 ค่ำ เดือน 12 ถึง วันแรม 5 ค่ำ เดือน 12 รวม 9 วัน 9 คืน อีกด้วย
Location: ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม
Open – Close: เปิดทุกวันเวลา 07.00 – 20.00 น.