tripgether.com

ทริปเชียงราย 3 วัน 2 คืน นอนเต็นท์สุดชิลล์ กิน เที่ยวครบรส งบไม่บาน!!

18,617 ครั้ง
5 พ.ย. 2562

ก้าวเข้าสู่ช่วงปลายปีกันแล้ว!! ใครที่ยังไม่ได้หาเวลาออกไปพักผ่อนรีชาร์จพลังงานดีๆ เห็นทีต้องเตรียมยื่นใบลา แล้วออกไปเติมเต็มชีวิตด้วยเรื่องราวดีๆ กับทริปเชียงราย 3 วัน 2 คืน ที่เก็บครบทุกอรรถรสการท่องเที่ยวทั้ง เรื่องกิน นอน เที่ยว และทำกิจกรรมที่หลากหลาย ที่รับรองว่าทริปนี้คุณได้อะไรกลับมามากมายและคุ้มค่ากับการยื่นใบลาอย่างแน่นอน..ถ้าพร้อมแล้วไปลุยกันเลย


Day: 1 | กรุงเทพ-เชียงราย

จากกรุงเทพไปยังเชียงราย มีวิธีการเดินทางหลากหลายรูปแบบด้วยกันไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ส่วนบุคคล รถสาธารณะ และเครื่องบิน โดยทริปนี้เรามีเวลาไม่ค่อยมากนัก จึงเลือกใช้บริการสายการบินภายในประเทศ จะใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.10 ชั่วโมง ก็มาถึงสนามบินแม่ฟ้าหลวง จากสนามบินเราเดินทางต่อด้วยรถจากไร่รื่นรมย์ ที่คอยอำนวยความสะดวกเรื่องการเดินทางต่างๆ เนื่องจากเราได้เลือกซื้อแพ็คเกจที่พักพร้อมกิจกรรมท่องเที่ยวแบบ 3 วัน 2 คืน ซึ่งในแพคเกจจะรวมบริการรถรับ-ส่งสนามบิน รถนำเที่ยวในเส้นทางต่างๆ (ตามแพ็คเกจ) ที่พัก อาหาร และกิจกรรมภายในไร่รื่นรมย์ ซึ่งในรีวิวนี้เราจะพาเที่ยวแบบสบายๆ ไปกับแพ็คเก็จ กิน เที่ยว ใช้ชีวิตคูลๆ ในแบบออแกนิคไลฟ์สไตล์ที่ไร่รื่นรมย์ 3 วัน 2 คืน

เริ่มต้นจุดแรกที่เรามาแวะเช็คอิน “ไร่สิงห์ปาร์ค” หลังจากเดินทางมาเหนื่อยๆ ขอแวะมานั่งรับประทานอาหารเช้าและกลางวันในมื้อเดียวแบบจุกๆ ที่ไร่สิงห์ปาร์คกันก่อนเลย ที่นี่มีร้านอาหารภายในฟาร์มหลายร้านทีเดียว แต่ถ้าอยากรับประทานอาหารสไตล์ไทยๆ ท่ามกลางบรรยากาศเขียวๆ ของไร่ชาก็ต้องแวะมาที่ร้านนี้เลย “ภูภิรมย์”

CheckinCR-1

ตัวร้านตกแต่งในสไตล์ไทยประยุกต์ผสมผสานสไตล์โมเดิร์นที่ดูทันสมัย ออกแบบอาคารให้เปิดโล่งมีลมเย็นๆ พัดเข้ามาตลอด ให้เราได้นั่งรับประทานอาหารกันแบบชิลล์ๆ

เมนูซิกเนเจอร์ของทางร้านจะมี ไก่ย่างภูภิรมย์ สลัดภูภิรมย์ ปลากะพงทอดซอสตะไคร้ ผัดหมี่ภูภิรมย์ ยำยอดชาทอดกรอบ และเห็ดหอมทอดซีอิ๊ว ร้านภูภิรมย์ เปิดบริการทุกวันเวลา 11.00-22.00 น. โทร. 091 576 0371

ชาเขียวเย็น.. ชื่นใจสุดๆ

รับประทานอาหารกันจนอิ่มหนำสำราญ ก็มานั่งรถเที่ยวชมฟาร์ม หามุมถ่ายรูปเก๋ๆ อัพลงโซเชียลกันสักหน่อย

ก่อนจะเดินทางกันต่อมายัง “วัดร่องขุ่น” วัดสวยคู่บ้านคู่เมืองชาวเชียงราย ที่ออกแบบโดยอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติชาวเชียงราย จิตรกรชั้นแนวหน้าของเมืองไทย

วัดร่องขุ่นสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2540 ซึ่งอาจารย์เฉลิมชัยปรารถนาจะสร้างวัดให้เหมือนเมืองสวรรค์ที่มนุษย์สัมผัสได้ โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ จุดเด่นอยู่ที่อุโบสถสีขาวประดับด้วยกระจกแวววาว วิจิตรงดงามแปลกตา มีปูนปั้นเป็นลายไทยที่งดงามและอ่อนช้อย

ไหว้พระเสร็จก็หามุมสวยๆ ถ่ายรูปกันต่อ

จากวัดร่องขุ่นเราเดินทางกันต่อเพื่อไปยังที่พักของเราในคืนนี้ที่ “ไร่รื่นรมย์” ฟาร์มสเตย์เกษตรอินทรีย์ บนที่กว่า 200 ไร่ (อ่านรีวิวไร่รื่นรมย์ฉบับเต็ม)

ไร่รื่นรมย์ ตั้งอยู่ที่อำเภอเทิง จากตัวเมืองจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงนิดๆ รถจะขับผ่านเส้นทางธรรมชาติ และขุนเขาที่สลับซับซ้อนอย่างสวยงาม ก็พาเรามาถึงยังจุดหมายปลายทางของเราในทริปนี้

เดินทางกันมาเหนื่อยๆ ก็ขอแวะเข้าที่พักเก็บกระเป๋าสัมภาระ ล้างหน้าล้างตากันสักหน่อย โดยเต็นท์ของเราจะเป็นเต็นท์หลังใหญ่ ภายในเต็นท์ถูกออกแบบได้เป็นอย่างดี มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และมีห้องน้ำในตัวอีกด้วยนะ

ห้องน้ำแบ่งโซนเปียกและแห้งได้อย่างดี แถมยังเพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ อีกเพียบ

ชื่นชมบรรยากาศรอบๆ ที่พักกันจนพอสมควร ก็ถึงเวลาอาหารเย็นแล้วค่ะ ซึ่งที่ไร่รื่นรมย์ นอกจากจะเป็นฟาร์มสเตย์ ไร่เกษตรอินทรีย์แล้ว ยังมีฟาร์มคาเฟ่และห้องอาหารให้บริการอีกด้วย โดยเมนูอาหารส่วนใหญ่ของที่นี่จะใช้ผักออแกนิคที่ปลูกเอง

เมนูแนะนำสำหรับมื้อเย็นจะมี ยำก๋วยเตี๋ยวไร่ทุ่ง แกงจืดจิงจูฉ่ายไข่น้ำ ปลาทอดขมิ้น น้ำพริกไข่เค็มเสิร์ฟคู่ผักต้ม และข้าวกล้องหอมนิล


Day: 2 | ขึ้นดอยดูทะเลหมอก สัมผัสความฟินหนึ่งเดียวเชียงราย

เช้านี้เราตื่นกันตั้งแต่เช้าเพื่อเตรียมตัวไปชมแสงแรกที่ยอดภูชี้ฟ้า จุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของเชียงราย แต่เหมือนวันนี้โชคจะไม่ค่อยเข้าข้างเราสักเท่าไหร่ พระอาทิตย์ไม่ขึ้นมาให้เห็นเลย.. ถูกหมอกปกคลุมไปทั่วฟ้าแต่ก็สวยงามไปอีกแบบ แถมช่วงนี้มองไปทางไหนหญ้าก็สีเขียวสด มองสบายตาจนลืมเหนื่อยกันไปเลย

“ภูชี้ฟ้า” ตั้งอยู่บนเทือกเขาดอยผาหม่น สูงจากระดับน้ำทะเล 1,628 เมตร สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี มีสภาพอากาศเย็นสบาย บนยอดภูสามารถชมวิวสวยๆ ที่มองได้ไกลสุดสายตาจนเห็นประเทศลาวได้อย่างชัดเจนเลยทีเดียว

ชื่นชมความสวยงามของธรรมชาติกันอยู่นาน เราก็ลงมารับประทานอาหารเช้ารองท้องกันบนรถ โดยทางไร่รื่นรมย์ได้จัดเตรียมเป็นขนมปังออร์แกนิค เครื่องดื่มสมุนไพรให้เรารับประทาน หรือถ้าใครอยากจัดหนักจัดเต็ม ที่บริเวณลาดจอดรถภูชี้ฟ้าก็มีร้านอาหารชาวบ้านให้บริการ (เสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม)

จากภูชี้ฟ้าเราเดินทางกลับมายัง ไร่รื่นรมย์ เพื่อพักผ่อนและทำกิจกรรมเชิงเกษตร โดยเริ่มต้นจากการทำกิจกรรมเบาๆ อย่างทำไข่เค็มสมุนไพร โดยมีเจ้าหน้าที่ของทางไร่ให้ความรู้และสอนขั้นตอนการทำไข่เค็มอย่างละเอียดทีเดียว

ต่อด้วยกิจกรรมมัดย้อมธรรมชาติ โดยใช้สีต่างๆ จากธรรมชาติ ที่ได้มาจากแก่นฝาง ไม้ประดู่ และดอกดาวเรือง เป็นกิจกรรมเบาๆ แถมยังได้ของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้านไม่ว่าจะเป็นผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ และเสื้อเท่ๆ ไว้ใส่เที่ยวกันต่อแบบเก๋ๆ อีกด้วยนะ

ช่วงบ่ายๆ ก็มีกิจกรรมให้ได้เรียนรู้และสนุกกันต่อกับการโยนข้าว ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวิธีการปลูกข้าว ให้คุณได้เรียนรู้กันตั้งแต่เริ่มเพาะต้นกล้า ปลูกข้าว และสีข้าว

ใส่เสื้อมัดย้อมที่ทำกันเองด้วยนะ

ก่อนจะปิดท้ายกิจกรรมของวันนี้ด้วยของอร่อยๆ กับเซ็ตบาร์บี ให้คุณได้รับประทานอาหารท่ามกลางธรรมชาติ และยังได้สนุกไปกับการปิ้งย่างบาร์บีคิว ในเซ็ตบาร์บีคิวก็มี กุ้ง ไก่ หมู ไส้อั่ว ข้าวโพด มะเขือเทศ หอมใหญ่ กระเจี๊ยบเขียว และผักตามฤดูกาล เสิร์ฟมาพร้อมกับขนมจีน ขนมปังออร์แกนิก และข้าวออร์แกนิคให้คุณได้อิ่มอร่อยแบบจัดเต็มในสไตล์แคมป์ปิ้ง

ช่วงค่ำอากาศกำลังเย็นสบาย นั่งคุยเพลินๆ กินชิลล์ๆ


Day:3 | กิน เที่ยวให้คุ้มก่อนเซย์กู๊ดบายเชียงราย

เช้านี้เป็นวันสุดท้ายที่เราจะอยู่ที่เชียงราย เลยขอตื่นเช้าอีกวันมาปั่นจักรยานเที่ยวรอบฟาร์ม เดินชมแปลงผักในไร่รื่นรมย์ ที่ได้ชื่อว่าเป็นฟาร์มเกษตรอินทรีย์ และพื้นที่เปิดประสบการณ์ให้คนเข้าหาธรรมชาติผ่านการรับรู้ “กิน อยู่ รู้ นอน” ซึ่งทริปนี้เราก็ได้ทำกิจกรรมกันจนครบตามสูตรทีเดียว

ฟาร์มผักของไร่รื่นรมย์ จะปลูกผักที่หลากหลาย มีทั้งแปลงผักจิงจูฉ่าย แครอท ผักสลัด และยังมีผลไม้ ดอกไม้กระจ่ายอยู่ทั่วฟาร์ม

เดินเล่นกันจนเหนื่อยเราก็แวะขึ้นมารับประทานอาหารเช้ากันที่บริเวณห้องอาหาร ซึ่งจะเปิดให้บริการตั้งแต่ 8.00 – 10.00 น.

เมนูเช้าของที่นี่จะเสิร์ฟเป็นเช็ต สามารถเลือกเมนูหลักได้คนละ 1 เมนูด้วยกัน วาฟเฟิลไข่ดาวผักย่าง ข้าวผัดปลาร้าเห็ดกรอบ ไข่กวนเห็ดนางฟ้าภูฐาน และข้าวต้มจิงจูฉ่าย ที่เสิร์ฟมาพร้อมกับขนมปังออร์แกนิก สลัดผัก แยมตามฤดูกาล โยเกิร์ต และเครื่องดื่ม

รับประทานอาหารเช้าอิ่มๆ ก็ขอเดินย่อยกันสักหน่อย

แวะให้อาหารแกะ อาหารแพะกันต่อ

และก่อนที่เราจะเช็คเอ้าท์ออกจากที่พัก ก็ขอแวะมาเติมพลังด้วยอาหารกลางวันอร่อยๆ ก่อนออกเดินทางกันอีกสักมื้อ

มื้อนี้มีเมนูแนะนำเป็น ข้าวยำไร่ทุ่งสไตล์ไร่รื่นรมย์ ยำจิงจูฉ่ายทอดกรอบ สลัดผักย่าง ปอเปี๊ยะไร่รื่นรมย์ และยำมะม่วงโบราณ ไร่รื่นรมย์ โทร. 095 134 8821, 097 087 0085

จากไร่รื่นรมย์เราเดินทางต่อไปยัง “สวรรค์บนดิน ทีเฮ้าส์ คาเฟ่” พื้นที่เล็กๆ ที่อัดแน่นไปด้วยความรู้เกี่ยวกับชา และยังเป็นฟาร์มสเตย์ขนาดย่อมๆ ที่เหมาะสำหรับการมานั่งจิบชาชิลล์ๆ ยามบ่ายแบบนี้

สำหรับคนที่ชื่นชอบการดื่มชา มาที่นี่ต้องถูกใจอย่างแน่นอน เพราะด้วยบรรยากาศที่ให้ความรู้สึกเหมือนมานั่งดื่มชาที่บ้านเพื่อน ด้วยการต้อนรับที่เป็นกันเอง แถมได้ความรู้จากไอเดียการทำชาที่สกัดจากดอกไม้สมุนไพรต่างๆ จากพนักงานและเจ้าของร้าน สวรรค์บนดิน ทีเฮ้าส์ คาเฟ่ เปิดบริการทุกวันเวลา 08.00-17.00 น. โทร. 081 205 3554

แวะดื่มชากันพอหอมปากหอมคอ..เราก็เดินทางกันต่อไปยัง “วัดห้วยปลากั้ง” ความโดดเด่นของวัดนี้จะมองเห็นองค์เจ้าแม่กวนอิมขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านมาแต่ไกล

ไฮไลท์มาถึงวัดนี้ก็ต้องขึ้นลิฟต์ไปยังชั้น 25 ชมมุมสูงของวัดห้วยปลากั้ง ผ่านประตูมังกร โดยจะเสียค่าเข้าคนละ 20 บาท

นอกจากนี้ภายในวัดยังมีสถาปัตยกรรมที่สวยงามและแปลกตาอย่าง มีโชคธรรมเจดีย์ 9 ชั้นที่มีศิลปะการสร้างแบบจีน ภายในมีเจ้าแม่กวนอิมแกะสลักด้วยไม้ให้เราได้เดินชมและกราบไหว้ขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตอีกด้วย

และปิดท้ายทริปนี้กันที่ “วัดร่องเสือเต้น” ที่ต้องสะดุดตาไปกับอุโบสถสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นไฮไลต์ของวัดนี้เลย

วัดร่องเสือเต้น สร้างขึ้นโดยศิลปินชาวเชียงราย คุณพุทธา กาบแก้ว หรือสล่านก เป็นศิลปะแบบไทยประยุกต์ ด้านหน้ามีพญานาคขนาดใหญ่ปั้นด้วยลวดลายที่อ่อนช้อย แต่งแต้มสีสันสวยงาม ส่วนภายในก็เป็นที่ประดิษฐานพระประธานสีขาวมุกองค์ใหญ่เด่นสง่าตัดกับภาพวาดฝาผนังสีน้ำเงินมีลายเส้นที่ชัดเจนสวยงาม

เป็นอย่างไรกันบ้างกับทริปเชียงราย 3 วัน 2 คืน ที่เราได้พาเที่ยวกันแบบจัดเต็ม ทั้งกินอาหารดีๆ ครบทุกมื้อ เรียนรู้การท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่เปิดมุมมอง และประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ต่างไปจากเดิม และที่สำคัญทริปเชียงรายในช่วงกรีนซีซั่นครั้งนี้ ยังได้สัมผัสอากาศที่เย็นสบาย ได้ชื่นชมศิลปะ วัฒนธรรมได้อย่างเต็มอรรถรสทีเดียว


Location: ไร่รื่นรมย์ อ.เทิง จ.เชียงราย
Price: แพ็คเก็จทริป 3 วัน 2 คืน (รวมรถรับส่งสนามบิน รถนำเที่ยวเส้นทางตามโปรแกรม อาหารทุกมื้อ ห้องพัก และกิจกรรมเชิงเกษตรไร่รื่นรมย์) นอนเต็นท์กระโจมห้องน้ำส่วนตัว ราคาเริ่มต้นที่ 5,100  – 7,650 บาทต่อคน/ นอนเต็นท์กระโจมห้องน้ำรวม ราคาเริ่มต้น 4,800 – 7,250 บาทต่อคน
Phone: 095 134 8821, 097 087 0085
Website: www.rairuenrom.com
Facebook: ไร่รื่นรมย์ | Rai Ruen Rom
Line ID: @rairuenrom (สำหรับสั่งซื้อสินค้า), @rrr.ch (จองห้องพัก กิจกรรมและคอร์ส)
Instagram: rairuenrom


ผู้เขียน

admin tripgether
สัญญาว่าจะเที่ยวให้ดีที่สุด!!

เรื่องที่คุณอาจสนใจ