tripgether.com

10 จุดเช็คอิน กิน เที่ยว กาญจนบุรี มาทั้งทีต้องเก็บให้ครบ

175,843 ครั้ง
27 ธ.ค. 2562

ถ้าหากพูดถึงจังหวัดน่าเที่ยวที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลกรุงเทพท่ียังคงเต็มไปด้วยธรรมชาติก็คงหนีไม่พ้น จ.กาญจนบุรี ที่มากไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ คาเฟ่ และจุดเช็คอินมากมาย วันนี้ ทริปเก็ทเตอร์ รวบรวมจุดเช็คอิน กิน เที่ยว จ.กาญจนบุรี มาให้เพื่อนๆ ตามไปเช็คอิน ลองตามมาดูกันว่าจะมีที่ไหนบ้าง


1.วัดถ้ำเสือ, กาญจนบุรี

วัดถ้ำเสือ วัดเก่าแก่ของ อ.ท่าม่วง ตัววัดตั้งอยู่บนเนินเขาสูงและมีสถาปัตยกรรมที่งดงาม และยังมีพระพุทธรูปปางประธานพรที่ตัวองค์พระประดับด้วยโมเสคสีทองที่ใหญ่ที่สุดใน จ.กาญจนบุรี และยังมีเจดีย์เกศแก้วปราสาทที่สูงสง่าซึ่งเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ นอกจากนี้ยังมีบ่อน้ำทิพย์ บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ใครๆ ก็ต้องมาตักเพื่อความเป็นศิริมงคล ด้านบนของวัดมีลมพัดเย็นๆ และมองลงไปเห็นวิวของทุ่งนาสีเขียวที่ล้อมรอบตัววัดอยู่ด้วย

watthamsuea-4

watthamsuea-4

watthamsuea-4

watthamsuea-4

Location: วัดถ้ำเสือ ต.ม่วงชุม อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี 
Open – Close: เปิดทำการทุกวันตั้งแต่เวลา 08.00 – 16.30
Phone: 098 490 0316


2.มีนา คาเฟ่, กาญจนบุรี
(Meena Cafe)

มีนา คาเฟ่ คาเฟ่สุดฮอตที่ตั้งอยู่ใน อ.ท่าม่วง มาถึงกาญจนบุรีแล้วใครที่ไม่ได้มาที่นี่ถือว่าพลาดอย่างแรง เพราะความโดดเด่นของคาเฟ่แห่งนี้คือตั้งอยู่ท่ามกลางทุ่งนาและยังสามารถมองเห็นวิววัดถ้ำเสือได้อย่างเต็มตา ตัวร้านตกแต่งสไตล์ลอฟต์ใช้ผนังปูนเปลือยประดับด้วยของตกแต่งวินเทจ แทรกด้วยวัสดุที่มาจากทุ่งนาและไม้ไผ่ได้อย่างลงตัว มีที่นั่งริมกระจกที่สามารถเห็นวิวภายนอกได้แบบ 180 องศา และยังมีให้เลือกทั้งโซนอินดอร์และโซนเอ้าท์ดอร์ สำหรับอาหารเป็นเมนูแบบเรียบง่ายอย่าง ก๋วยเตี๋ยวไข่ออนเซ็น ข้าวกระเพราต่างๆ พิซซ่าบางกรอบ และต้มยำทะเล ไฮไลท์ที่จะต้องแชะภาพรัวๆ ก็คือ สะพานไม้ที่ทอดยาวให้เดินกลางทุ่งนาไปจนถึงซุ้มที่จัดเตรียมเอาไว้สำหรับนั่งชมวิววัดถ้ำเสืออย่างสบายอารมณ์

Meena_Cafe_2019-63

Meena_Cafe_2019-63

Meena_Cafe_2019-40

Meena_Cafe-20

Location: 75/18 ม.3 ต.ม่วงชุม อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี
Open – Close: เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.30 – 19.00 น. (ปิดรับออร์เดอร์ 18.30)
Phone: 085 681 8187, 087 907 1700
Facebook: มีนา cafe’, Kanchanaburi


3.สวนสัตว์ ซาฟารี ปาร์ค & แคมป์ บ่อพลอย, กาญจนบุรี
(Safari Park Open Zoo & Camp Bophloi Kanchanaburi)

สวนสัตว์ ซาฟารี ปาร์ค & แคมป์ สวนสัตว์เปิดแห่งแรกใน จ.กาญจนบุรี และยังเป็นสถานที่อนุรักษ์และขยายพันธุ์สัตว์นานาชนิด อีกทั้งยังเป็นแหล่งเรียนรู้วิถีชีวิตสัตว์เช่น ยีราฟ ช้าง ม้าลาย อูฐ เสือโคร่ง สิงโต เสือดาว หมีควาย ลามา นกกระจอกเทศ และกวางนานาชนิด และไฮไลท์ห้ามพลาดของที่นี่เลยก็คือการกอดคอยีราฟถ่ายรูปได้แห่งเดียวในโลก และนอกจากนี้ยังมีการแสดงของสัตว์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโชว์ช้างและจรเข้ และยังมีกิจกรรมป้อนนมลูกเสือโคร่ง เสือดาว และสิงโตอีกด้วย เป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอินกาญจนบุรีที่ต้องมาให้ได้สักครั้ง

DSC00687

DSC00719

DSC00845

DSC00668

Location: 40/2 หมู่5 ต.หนองกุ่ม อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี
Open – Close: เปิดทุกวันเวลา 09.00 – 17.00 น.
Price: ผู้ใหญ่ 200 บาท/คน เด็ก 100 บาท/คน
Phone: 034 678 225, 086 300 0667 
Facebook: สวนสัตว์เปิด ซาฟารี ปาร์ค แอนด์ แคมป์


4.รักษ์คันนา, กาญจนบุรี
(Rakkanna)

รักษ์คันนา คาเฟ่ที่ขึ้นชื่อเรื่องก๋วยเตี๋ยวต้มยำ คอนเซ็ปต์ของร้านคือต้องการให้คนที่มาเที่ยวชมมีความรักษ์คันนามากขึ้น การตกแต่งของที่นี่เน้นใช้วัสดุจากธรรมชาติบรรยากาศเปิดโล่งมีลมพัดโชยตลอดเวลา ให้ความรู้สึกเหมือนนั่งชิลล์ในกระท่อมปลายนา แถมยังมีมุมถ่ายรูปที่หลากหลายอย่าง สะพานไม้กลางทุ่ง ชิงช้า ชั้นดาดฟ้าสำหรับชมวิวหรือถ่ายรูปชิคๆ และสถานีพักใจโซนที่เพิ่งเปิดใหม่ นอกจากจะมีก๋วยเตี๋ยวรสเด็ดแล้วยังมีเครื่องดื่ม เบเกอรี่และขนมไทยให้ลิ้มลองกันกลางบรรยากาศทุ่งนาอีกด้วย เป็นอีกหนึ่งร้านน่านั่งที่ต้องห้ามพลาดเมื่อมาถึงกาญจนบุรี

Rak_Kan_Na_Cafe-17

Rak_Kan_Na_Cafe-17

Rak_Kan_Na_Cafe-17

Rak_Kan_Na_Cafe-17

Location: 88 ม.5 ต.ม่วงชุม อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี
Open – Close: เปิดให้บริการทุกวัน จันทร์ – ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.30 – 19.00 น., วัน เสาร์ – อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 08.00 – 19.00 น.
Phone: 080 061 6888
Facebook: รักษ์คันนา กาญจนบุรี


5.สะพานข้ามแม่น้ำแคว, กาญจนบุรี

สะพานข้ามแม่น้ำแคว อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาตร์ สร้างขึ้นในสมัยสงครามมหาเอเชียบูรพาโดยกองทัพญี่ปุ่นได้เกณฑ์เชลยศึกพันธมิตรจำนวนมากมายมาสร้างทางรถไฟผ่านประเทศพม่าซึ่งจะต้องสร้างข้ามแม่น้ำแควใหญ่ ทำให้การสร้างรางรถไฟมีความลำบากเป็นอย่างมาก ทำให้เชลยศึกหลายชีวิตต้องเสียชีวิตลง ปัจจุบันสะพานแห่งนี้ถูกเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ และเป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอินสำคัญที่ต้องมาให้ได้สักครั้ง

DSC00901

Riverkwabride_5

Riverkwabride_5

Riverkwabride_5

Location: ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี
Open – Close: สามารถเดินชมได้ตลอดทั้งวัน
Phone: การรถไฟแห่งประเทศไทย โทร 02 621 8701 ต่อ 5202
Fee: ไม่เสียค่าเข้าชม


6.เดชทศพักตร์การอาหาร (แพห้อยขาพาชิลล์), กาญจนบุรี
(Dejtosapak Restaurant)

ครัวต้นแม่กลอง หรือ แพห้อยขาพาชิล หรือ เดชทศพักตร์การอาหาร คือร้านเดียวกัน หลายคนอาจจะงงๆ โดยที่มาของชื่อคือ เดิมทีเป็น ครัวต้นแม่กลอง จนปรับเปลี่ยนเป็น เดชทศพักตร์การอาหาร กระทั่งมาเปิดโซนห้อยขา จึงได้ชื่อใหม่ล่าสุด แพห้อยขาพาชิล ที่หลายคนรู้จัก เพราะเป็นชื่อที่บอกถึงบรรยากาศร้านได้ดีที่สุด ทำเลที่ตั้งอยู่บริเวณน่านน้ำที่กว้างขวาง ซึ่งเป็นจุดรวมกันของแม่น้ำ 2 สายคือแม่น้ำแควน้อย แม่น้ำแควใหญ่ จนกลายเป็นแม่ต้นน้ำแม่กลอง ทำให้ที่นี่เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวที่สวยที่สุดก็ว่าได้ ส่วนบรรยากาศภายในร้านตกแต่งแบบเรียบง่าย สไตล์ร้านอาหารบนเรือนแพ แบ่งโซนที่นั่งออกเป็น 2 โซนด้วยกันคือ โซนอินดอร์เหมาะสำหรับช่วงกลางวัน และโซนเอ้าท์ดอร์ ที่ออกแบบให้เป็นที่นั่งแบบห้อยขา จุ่มน้ำกันแบบชิลล์ๆ สำหรับเมนูอาหารของที่นี่เน้นอาหารไทยรสชาติถูกปาก เหมาะแก่การมานั่งห้อยขากินดินเนอร์แบบชิลล์ๆ เป็นที่สุด

Kruamaeklong-8

Kruamaeklong-8

Kruamaeklong-8

Kruamaeklong-8

Location: ท่าน้ำชุกโดน ถ.ต้นตะเคียน ต.บ้านใต้ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี
Open – Close: ร้านเปิดเวลา 10.00 – 21.00 น.
Phone: 081 587 5159
Facebook: เดชทศพักตร์การอาหาร Dejtosapak Restaurant – แพห้อยขาพาชิล


7.น้ำพุร้อนหินดาด, กาญจนบุรี
(Hindard Hot Spring)

บ่อน้ำพุร้อนหินดาด อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี บ่อน้ำพุร้อนที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติที่นิยมมาแช่ตัวเพื่อความผ่อนคลาย บ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้เป็นน้ำแร่บริสุทธิ์ที่ถูกพบโดยทหารชาวญี่ปุ่นตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง และด้วยความที่เป็นน้ำแร่บริสุทธิ์ที่พุดขึ้นมาจากใต้ดินแห่งนี้ จึงเชื่อว่าเมื่อลงไปแช่แล้วจะสามารถรักษาโรคภัยได้ จากประวัติบ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้ถูกค้นพบโดยทหารชาวญี่ปุ่นสมัยสงครามโลกครั้งที่สองที่คุมเชลยศึกมาเพื่อสร้างทางรถไฟสายมรณะและมาพบบ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้โดยบังเอิญและได้สร้างบ่อซีเมนต์ไว้เพื่อลงไปแช่ตัวให้หายจากความเมื้อยล้า ปัจจุบันได้เปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ

Hindadhotspring_2

Hindadhotspring_2

Hindadhotspring_2

Hindadhotspring_2

Location: บ้านกุยมั่ง ม.6 ต.หินดาด อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
Open – Close: เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00 – 22.00 น.
Phone: 034 531 048
Fee: ค่าเข้า 20 บาท/คน


8.ครัวชุกโดน, กาญจนบุรี
(Kruachukkadone)

ครัวชุกโดน อีกหนึ่งร้านอาหารในตำนานแห่งเมืองกาญจนบุรีเลยก็ว่าได้ ตัวร้านตั้งอยู่บนแพริมแม่น้ำแควและเปิดให้บริการความอร่อยมาตั้งแต่ปี 2537 โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากคุณแม่ที่ทำอาหารอร่อยถูกปากเพื่อนๆ ที่มาเที่ยวที่บ้านและปัจจุบันยังยึดคำของคุณแม่ไว้คือ อย่าขายแพงและต้องมีความจริงใจต่อลูกค้า สำหรับที่นั่งภายในตัวร้านก็มีทั้งโซนอินดอร์และโซนเอ้าท์ดอร์ซึ่งสามารถ/นั่งทานเมนูอร่อยๆ พร้อมชมบรรยากาศริมแม่น้ำไปได้พร้อมๆ กัน สำหรับเมนูอาหารก็มีให้เลือกหลากหลายเมนูซึ่งส่วนมากจะเป็นเมนูแบบไทยๆ และเมนูพื้นบ้านไม่ว่าจะเป็นย หอนกระทะจานร้อน แกงคั่วหอยขม ทอดมันปลากราย ยำตะไคร้กุ้งสด คั่วกลิ้งกระดูกอ่อน และมีอีกหลากหลายเมนูให้อร่อยจนไม่อยากวางช้อน

DJI_0937

DSC00983

DSC01004

DSC00968

Location: 19/236 ถ.ไชยชุมพล ต.บ้านใต้ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี
Open – Close: เปิดทุกวันเวลา 10.30 – 22.30 น.
Phone: 097 446 9464, 092 419 6369
Facebook: ครัวชุกโดน


9.น้ำตกเอราวัณ, กาญจนบุรี
(Erawan Waterfall)

น้ำตกเอราวัณ น้ำตกขนาดใหญ่และมีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติเป็นอย่างมาก ตั้งอยู่ที่ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี และน้ำตกแห่งนี้ยังแบ่งออกเป็น 7 ชั้น คือ ไหลคืนรัง, วังมัจฉา, ผาน้ำตก, อกผีเสื้อ,เบื่อไม่ลง, ดงพฤกษา และชั้นสุดท้ายชื่อว่า ภูผาเอราวัณ ซึ่งทั้ง 7 ชั้นก็จะมีความสวยงามที่แตกต่างกันออกไป เมื่อเดินทางมาถึงตัวน้ำตกจะต้องจอดรถไว้บริเวณที่จอดรถและเดินเท้าเข้าไปอีกประมาน 3 กิโลเมตร ซึ่งจุดนี้จะมีรถกอล์ฟให้บริการรับ – ส่ง (เสียค่าบริการ) เมื่อมาถึงทางเข้าน้ำตกจะใช้เวลาเดินเท้าไป – กลับ ทั้ง 7 ชั้น ประมาน 3 – 4 ชั่วโมง บอกได้เลยว่าคุ้มอย่างแน่นอน

Monbride_6

Monbride_6

Monbride_6

Monbride_6

Location: อุทยานแห่งชาติเอราวัณ ม.4 ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี
Open – Close: เปิดทำการทุกวันเวลา 08.00 – 16.00 น.
Phone: 0 3457 4222, 0 3457 4234
Fee: ค่าเข้า ผู้ใหญ่ 100 บาท/คน เด็ก 50 บาท/คน


10.ต้นจามจุรียักษ์, กาญจนบุรี

ปิดท้ายกันที่ ต้นจามจุรียักษ์ จุดเช็คอินสุดฮิตที่ปัจจุบันได้ทำการปรับปรุงทำทางเดินรอบต้นไม้ให้สวยงามและเดินชมได้อย่างสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น สำหรับต้นจามจุรีย์ยักษ์ถมีขนาดลำต้น 10 คนโอบ และมีอายุมากกว่า 100 ปี รัศมีของต้นประมาน 25.87 เมตร มีเส้นผ่านศูนย์กลางของเงาร่มยามประมาน 51.75 เมตร ความสูงจากยอดสู่พื้นดินประมาน 20 เมตร ด้วยความใหญ่โตจึงทำให้ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเที่ยวชมและถ่ายรูปคู่กับต้นไม้ยักษ์ต้นนี้ เพื่อนๆ คนไหนที่มากาญจนบุรีแล้วลองแวะมาชมงามยิ่งใหญ่ของต้นจามจุรีย์ยักษืสักครั้งรับรองว่าประทับใจอย่างแน่นอน

TonChamChuRi-2

TonChamChuRi-2

TonChamChuRi-2

TonChamChuRi-2

Location: บ้านกสิกรรม ม.5 ต.เกาะสำโรง อ.เมืองกาญจนบุรี จ.กาญจนบุรี
Open – Close: เปิดทุกวันเวลา 06.00 – 18.00 น.
Fee: เข้าชมฟรี


ผู้เขียน

admin tripgether
สัญญาว่าจะเที่ยวให้ดีที่สุด!!

เรื่องที่คุณอาจสนใจ