tripgether.com

14 จุดเช็คอินสุโขทัย-พิษณุโลก เมืองแห่งประวัติศาสตร์และความสวยงามของธรรมชาติที่ตราตรึงใจ

33,489 ครั้ง
10 ม.ค. 2563

เมืองรองที่สวยบรรยากาศดีไม่แพ้กันอย่าง สุโขทัย-พิษณุโลก สองจังหวัดที่หลายคนต่างชื่นชอบโบราณสถานและประวัติศาสตร์ที่เมื่อได้มาเยือนก็สามารถเรียนรู้และเที่ยวชมความสวยงามของธรรมชาติที่สรรสร้างทั้งเรื่องราวในอดีตที่น่าจดจำให้เราได้ย้อนรอยความงดงามวิจิตรบรรจงของมรดกทางวัฒนธรรมของประเทศชาติที่ไม่ได้มีแต่คำบอกเล่าแต่ยังมีศิลปะวัฒนธรรมที่ทิ้งร่องรอยเอาไว้ให้คนรุ่นหลังอย่างเราได้กล่าวขานถึงความดีงามและมรดกที่ควรทราบถึง อีกทั้งยังทำให้สามารถเล่าต่อกันได้อย่างภาคภูมิใจอีกด้วย หากใครกำลังจะไปเที่ยวสุโขทัยและพิษณุโลก ทริปเก็ทเตอร์ขอแนะนำให้แวะไปถ่ายรูป เรียนรู้ และสัมผัสประวัติศาสตร์กันตามสถานที่เหล่านี้ได้เลย ลุย!!

AW_200110_0008


1.อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย, สุโขทัย
(Sukhothai Historical Park)

อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ตั้งอยู่ตรงข้ามพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ราคำแหง เป็นมรดกทางประวัติศาสตร์ของไทยสมัยเริ่มสร้างอาณาจักรที่ยังหลงเหลืออยู่ และได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็น “มรดกโลก” ซึ่งครอบคลุมพื้นที่โบราณสถานกรุงสุโขทัยศูนย์กลางการปกครองของอาณาจักรสุโขทัยบริเวณภาคเหนือตอนล่างของประเทศไทยในช่วงพุทธศตวรรษที่ 18-19 นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวชมได้ 3 วิธีคือ เดินเท้า ปั่นจักรยาน และนั่งรถรางไฟฟ้า โดยทางอุทยานฯ มีรถจักรยานให้บริการเช่าด้วย แถมภายในอุทยานยังมีมุมชิลล์ๆ สุดเก๋ที่รับรองเลยว่าที่นี่แล้วต้องได้รูปสวยชิคๆ ไปอัพเดทโซเชียลอย่างแน่นอน

CN_Phit-Sukkho-1

CN_Phit-Sukkho-1

CN_Phit-Sukkho-1

CN_Phit-Sukkho-1

Location: อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.สุโขทัย
Open-Close: เปิดให้เข้าชมทุกวัน วันจันทร์-ศุกร์ และวันอาทิตย์ เวลา 06.30-21.00 น.
วันเสาร์ เวลา 06.30-21.00 น. (มีการเปิดไฟส่องโบราณสถาน)
เขตอรัญญิก เปิดทุกวัน เวลา 08.00-16.30 น.
วัดศรีชุมและวัดพระพายหลวง เปิดทุกวัน เวลา 07.30-17.30 น.
Fee: ค่าเข้าชม
• ชาวไทย 20 บาท
• ชาวต่างชาติ 100 บาท
การเข้าชมฟรี
• นักเรียน/นักศึกษาในเครื่องแบบ หรือแสดงบัตรประจำตัว
• หน่วยงานราชการหรือสถานศึกษาที่ส่งหนังสือขอเข้าชมมาล่วงหน้า
• นักบวชทุกศาสนา
• ผู้สูงอายุ ตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป
Phone: 055 697 310
Facebook: อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย


2.อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย, สุโขทัย
(Historical Park Si Satchanalai)

อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย อีกหนึ่งอุทยานแห่งที่ชาติที่ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของโลกร่วมกับ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย และอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร ที่มีสถาปัตยกรรมที่สวยงามและโดดเด่น ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ในเขตของตำบลศรีสัชนาลัย ตำบลสารจิตร ตำบลหนองอ้อ และตำบลท่าชัย ส่วนตัวเมืองโบราณศรีสัชนาลัยตั้งอยู่ในเขตหมู่บ้านพระปรางค์ ตำบลศรีสัชนาลัย แต่เดิมมีชื่อว่า ‘เมืองเชลียง’ แล้วจึงเปลี่ยนชื่อเป็น ‘ศรีสัชนาลัย’ ภายในพื้นที่แห่งนี้ยังมีซุ้มอุโมงค์ต้นไม้ให้เราได้มาเช็คอินเก็บรูปสวยๆ กันได้อีกด้วยนะ

CN_Phit-Sukkho-1

CN_Phit-Sukkho-1

CN_Phit-Sukkho-1

CN_Phit-Sukkho-1

Location: อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย ต.ศรีสัชนาลัย อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย
Open-Close: เปิดให้เข้าชมทุกวันเวลา 08.00-17.00 น.
Fee: ค่าเข้าชม
• ชาวต่างชาติ 40 บาท
• ชาวไทย 10 บาท
Phone: 055 679 211
Facebook: อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย


3.วัดศรีชุม, สุโขทัย
(Wat Si Chum)

วัดศรีชุม หรือวัดฤาษีชุม เป็นโบราณสถานในเขตอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ซึ่งเป็นสถานที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยองค์ใหญ่ซึ่งมีนามว่า “พระอจนะ” เป็นที่เลื่องชื่อถึงความศักดิ์สิทธิ์ มีมนต์เสน่ห์ และมีเอกลักษณ์ชวนให้ผู้คนเข้ามาเที่ยวชมและกราบไหว้สักการะแบบไม่ขาดสาย ซึ่งตามตำนานกล่าวว่า ครั้งหนึ่งเมื่อครั้งองค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชได้ทรงยกทัพไปปราบกบฏที่เมืองสวรรคโลก ได้มีการเรียกชุมนุมเหล่าแม่ทัพนายกองและทหารที่วัดศรีชุมก่อน แต่การทำศึกสงครามในครั้งนี้เหล่าทหารทั้งหลายไม่ค่อยมีกำลังใจในการสู้รบ เนื่องจากเป็นการสู้รบฆ่าฟันกับคนไทยด้วยกันเองและด้วยปฏิญาณไหวพริบของสมเด็จพระนเรศวรจึงจัดพิธีเสี่ยงทายพระพุทธรูปเพื่อปลุกขวัญกำลังใจให้แก่เหล่าทหาร โดยพระองค์ได้เสี่ยงทายว่า หากการรบในครั้งนี้หาจะมีชัยชนะกลับมาขอให้พระอจนะจงกล่าวตอบ แต่หากการรบในครั้งนี้ต้องพ่ายแพ้ก็ไม่ต้องกล่าวตอบสิ่งใด ซึ่งผลการเสี่ยงทายในครั้งนี้คือ พระอจนะได้กล่าวตอบกลับมา เหล่าทหารทั้งหลายจึงได้สดับรับฟัง เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่น่ามาเช็คอินพร้อมถ่ายภาพสวยๆ กับความสสวยงามของสถาปัตยกรรมในวัดนี้

CN_Phit-Sukkho-1

CN_Phit-Sukkho-1

CN_Phit-Sukkho-1

CN_Phit-Sukkho-1

Location: วัดศรีชุม อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ม.3 ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.สุโขทัย
Open-Close: เวลา 09.00-17.00 น.
Fee: ค่าเข้าชม
• ชาวไทย 20 บาท
• ชาวต่างชาติ 100 บาท
Phone: 055 019 690
Facebook: วัดศรีชุม จังหวัดสุโขทัย


4.วัดพิพัฒน์มงคล, สุโขทัย
(Wat Pipat Mongkol)

วัดพิพัฒน์มงคล เป็นวัดที่มีความสำคัญวัดหนึ่งของจังหวัดสุโขทัย แต่เดิมเป็นวัดร้างกลางทุ่งนาพบเพียงรากฐานอุโบสถและเจดีย์โบราณจมอยู่ใต้พื้นดินลึกลงไปตรงใจกลางวัด ซึ่งในปัจจุบันวัดพิพัฒน์มงคลเป็นที่รู้จักกันดีในนามแหล่งศึกษาเชิงพุทธศาสนาและสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ โดดเด่นด้วยโบสถ์เรือนแก้ว วิหารล้านนา ลานศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกบาลีนักธรรมการพัฒนาและการปฏิบัติธรรม ซึ่งถูกก่อตั้งโดยหลวงพ่อพระครูวรคุณประยุต พระอาจารย์พิพัฒน์มงคล เจ้าอาวาสและเจ้าคณะอำเภอทุ่งเสลี่ยมที่ได้ก่อตั้งวัดและพัฒนาถาวรวัตถุธรรมต่างๆ ที่มีเอกลักษณ์และวิจิตรบรรจงตามแบบฉบับของศิลปะโบราณทรงไทยล้านนา น่ามาแชะภาพกับความสวยงามของวัดนี้เสียจริง

CN_Phit-Sukkho-1

CN_Phit-Sukkho-1

CN_Phit-Sukkho-1

CN_Phit-Sukkho-1

Location: 464 หมู่ 2 ต.ทุ่งเสลี่ยม อ.ทุ่งเสลี่ยม จ.สุโขทัย
Open-Close: เปิดตลอดเวลา
Phone: 055 659 072, 081 280 6330
Facebook: วัดพิพัฒน์มงคล สุโขทัย


5.ทุ่งทะเลหลวง สุโขทัย, สุโขทัย
(Sukhothai Seagrass Field)

เกาะรูปหัวใจ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวชมธรรมชาติและเป็นที่ประดิษฐาน “พระพุทธรัตนสิริสุโขทัย” เป็นพระพุทธรูปสัมฤทธิ์ปางมารวิชัยที่มีความงดงามและวิจิตรบรรจง ซึ่งมีอายุเก่าแก่กว่า 700 ปี แผ่นดินศักดิ์สิทธิ์รูปหัวใจ หรือ เกาะรูปหัวใจ ตั้งอยู่ใจกลางทุ่งทะเลหลวงเกิดขึ้นจากแนวคิดโครงการแก้มลิง ซึ่งเป็นโครงการตามแนวพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้งซ้ำซากในพื้นที่จังหวัดสุโขทัย โดยเริ่มทำโครงการสร้างแหล่งเก็บน้ำขึ้นในปี พ.ศ.2545 จึงใช้บริเวณทะเลหลวงซึ่งเป็นแหล่งเก็บน้ำในอดีตทำการขุดลอกพื้นที่เพื่อผันน้ำเข้ากักเก็บไว้ในพื้นที่ให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ ส่วนการออกแบบเป็นรูปหัวใจนั้นเกิดจากแนวคิดที่ต้องการให้พื้นที่แห่งนี้สื่อถึงความรักและสามัคคีของพี่น้องชาวสุโขทัยนั่นเอง

CN_Phit-Sukkho-1

CN_Phit-Sukkho-1

CN_Phit-Sukkho-1

CN_Phit-Sukkho-1

Location: ทุ่งทะเลหลวง สุโขทัย ม.5 ต.ปากแคว อ.เมืองสุโขทัย จ.สุโขทัย
Open-Close: เปิดบริการ 08.00-17.00 น.
Phone: 055 019 611


6.จุดชมวิวบ้านห้วยต้นไฮ, สุโขทัย

จุดชมวิวบ้านห้วยต้นไฮ เป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชมตั้งอยู่บนเขานารายณ์ แห่งบ้านนาต้นจั่น เส้นทางเดินป่าที่ใครได้มานอนโฮมสเตย์บ้านนาต้นจั่นก็จะได้ทำกิจกรรมเดินไปยังจุดชมวิวในช่วงเช้าและช่วงเย็นสามารถไปรอชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกได้ อีกทั้งยังสามารถชมทะเลหมอกหนาๆ ได้อีกด้วย สำหรับการเดินทางขึ้นไปจุดชมวิวบ้านห้วยต้นไฮนั้น สามารถนั่งรถกระบะตามเส้นทางซึ่งจะมุ่งหน้าขึ้นไปยังเขาราว 2 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 15 นาที จากนั้นรถจะจอดส่งที่ตีนเขานารายณ์แล้วจึงเดินเท้าขึ้นไปตามแนวเขาระยะทางประมาณ 1.5 กิโลเมตร มีเส้นทางชันในบางช่วงใช้เวลาเดินทางราว 40 นาที จึงจะถึงจุดชมวิวบ้านห้วยต้นไฮ

CN_Phit-Sukkho-1

CN_Phit-Sukkho-1

CN_Phit-Sukkho-1

CN_Phit-Sukkho-1

Location: จุดชมวิวบ้านห้วยต้นไฮ บ้านนาต้นจั่น ต.บ้านตึก อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย


7.วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร (วัดใหญ่), พิษณุโลก
(Wat Pra Sri Rattana Mahathat Vora Maha Vihar)

วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร (วัดใหญ่) ตั้งอยู่ในอำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งเป็นวัดสำคัญที่สุดของจังหวัดอยู่ติดริมน้ำน่านฝั่งตะวันออก เป็นวัดหลวงชั้นเอกชนิดวรมหาวิหาร ภายในวิหารเป็นที่ประดิษฐาน “พระพุทธชินราช” หรือชาวพิษณุโลกเรียกว่า “หลวงพ่อใหญ่” ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ ที่มีลักษณะงดงามที่สุดในโลกหล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ขัดเงาเกลี้ยง ซึ่งในทุกๆ ปีจะจัดงานนมัสการพระพุทธชินราชในวันขึ้น 6 ค่ำ ถึงวันขึ้น 12 ค่ำ เดือน 3 (ประมาณปลายเดือนมกราคม) เรียกว่า “งานวัดใหญ่” ซึ่งมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปกราบไหว้ขอพรกันอย่างล้นหลามเลยทีเดียว

CN_Phit-Sukkho-1

CN_Phit-Sukkho-1

CN_Phit-Sukkho-1

CN_Phit-Sukkho-1

Location: 92/3 ถนนพุทธบูชา ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก จ.พิษณุโลก
Open-Close: เวลา 06.30-18.00 น.
Phone: 055 258 966, 055 251 649


8.วัดราชบูรณะ, พิษณุโลก
(Wat Ratcha Burana)

วัดราชบูรณะ ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับวัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร ซึ่งแต่เดิมนั้นมีอาณาเขตติดต่อกันกับวัดนางพญาเมื่อมาถึงในปัจจุบันที่ความเจริญหลั่งไหลเข้ามา จึงมีการตัดถนนเส้นมิตรภาพผ่านบริเวณวัดแห่งนี้ส่งผลให้อาณาเขตนั้นแยกออกจากกัน วัดราชบูรณะยังเป็นวัดที่มีอายุยาวนานนับพันปี ทำให้มีโบราณสถานและโบราณวัตถุหลายอย่างที่น่าสนใจ ทั้งเจดีย์หลวงที่มีทรงแบบลังกาตั้งฐานบนแปดเหลี่ยมเรียงกันเป็นชั้นๆ และมีเจดีย์เล็กๆ ล้อมรอบ สามารถมองเห็นได้จากอีกฝั่งของแม่น้ำ ส่วนพระอุโบสถใกล้ๆ กับหอไตรด้านในเป็นจิตรกรรมฝาผนังเกี่ยวกับเรื่องรามเกียรติ์ และยังเป็นที่ประดิษฐานขององค์หลวงพ่อทองดำที่มีอายุกว่า 700 ปี

CN_Phit-Sukkho-1

CN_Phit-Sukkho-1

CN_Phit-Sukkho-1

CN_Phit-Sukkho-1

Location: วัดราชบูรณะ ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก จ.พิษณุโลก
Open-Close: เวลา 08.00-17.00 น.
Phone: 055 252 742-3, 055 259 907
Facebook: วัดราชบูรณะ เมืองพิษณุโลก


9.ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช, พิษณุโลก
(King Naresuan The Great Shrine)

ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช สถานที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวพิษณุโลกสองแควตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน ตัวศาลเป็นศาลาทรงไทยโบราณสีขาว ภายในเป็นที่ประดิษฐานองค์พระบรมรูปหล่อสมเด็จพระนเรศวรมหาราชมีขนาดเท่าองค์จริงทรงประทับนั่งหลั่งน้ำจากสุวรรณภิงคาร (น้ำเต้าทอง) เพื่อประกาศอิสรภาพให้แก่ปวงชนชาวไทยในปี 2127 ณ เมืองแครง ซึ่งสร้างขึ้นโดยกรมศิลปากรเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2404 

CN_Phit-Sukkho-1

CN_Phit-Sukkho-1

CN_Phit-Sukkho-1

CN_Phit-Sukkho-1

Location: ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ถนนวังจันทน์ ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก จ.พิษณุโลก
Open-Close: เวลา 06.00-19.00 น.


10.เนินมะปราง, พิษณุโลก

เนินมะปราง หนึ่งในโลเคชั่นยอดฮิตรายล้อมไปด้วยภูเขาหิน แต่เดิมเป็นป่าดงดิบที่เต็มไปด้วยต้นไม้และสัตว์ป่า ซึ่งห่างไกลจากผู้คนมีเพียงผู้มีอาชีพนายพรานเท่านั้นที่เข้ามาล่าสัตว์และหาของป่า ในตัวอำเภอเนินมะปรางแต่เดิมเป็นหมู่บ้านเก่าแก่ตั้งมาประมาณ 42 ปี ซึ่งในปัจจุบันมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่งดงามน่าสัมผัสอย่าง เขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำผาท่าพล ซึ่งเป็นภูเขาหินปูนยอดสูงสุด 236 เมตร มีหน้าผาทะลุไปอีกด้านหนึ่งของภูเขาได้ และมีบ้านเรือนที่คลาสสิกน่าไปถ่ายรูปชิคๆ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่ต้องแวะมา!!

CN_Phit-Sukkho-1

CN_Phit-Sukkho-1

CN_Phit-Sukkho-1

CN_Phit-Sukkho-1

Location: ต.บ้านมุง อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก


11.จุดชมวิวบ้านเผ่าไทย, พิษณุโลก
(Phaothai Village Viewpoint)

จุดชมวิวบ้านเผ่าไทย ตั้งอยู่ในหมู่บ้านเผ่าไทย ต.ชมพู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นจุดชมวิวทะเลหมอกสีขาวหนานุ่มเป็นสถานที่ที่สามารถชมความสวยงามที่สุดของอำเภอเนินมะปราง ที่สามารถมองเห็นแนวภูเขาและท้องทุ่งนาอันเขียวขจีที่สลับซับซ้อนกันกับเรือนชาวบ้านอันไกลสุดลูกหูลูกตา นอกจากนี้ในบริเวณบ้านเผ่าไทยยังมีที่พักแบบโฮมสเตย์ให้ได้มาพักผ่อนหย่อนใจกันหลากหลายแห่ง หรือใครที่ชอบกางเต็นท์นอนสัมผัสอากาศเย็นๆ ก็มีลานกางเต็นท์ให้นอนชิลล์กันด้วยนะ

CN_Phit-Sukkho-1

CN_Phit-Sukkho-1

CN_Phit-Sukkho-1

CN_Phit-Sukkho-1

Location: จุดชมวิวบ้านเผ่าไทย ม.8 ต.ชมพู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก
Phone: 098 912 3949
Facebook: จุดชมวิวบ้านเผ่าไทย – Phaothai Village Viewpoint


12.โรงเรียนการเมืองการทหาร, พิษณุโลก
(Political And Military School)

โรงเรียนการเมืองการทหาร ตั้งอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าประมาณ 4 กิโลเมตร เป็นพื้นที่ป่ารกทึบที่เปี่ยมไปด้วยร่องรอยแห่งประวัติศาสตร์การเมืองเรื่องของความต่างอุดมการณ์ ด้วยสภาพภูมิศาสตร์ทางธรรมชาติในสมัยนั้นเปรียบเสมือนป้อมปราการของการสู้รบทางประวัติศาสตร์ จึงทำให้ในช่วง พ.ศ.2511-2515 ที่พรรคคอมมิวนิสต์ได้นำมาเป็นฐานที่ตั้งในการวางแผนและพักฟื้นจากการสู้รบ สถานที่แห่งนี้จึงจะพาเราไปย้อนรอยอดีตของโรงเรียนการเมืองการทหารสำหรับให้การศึกษาแนวคิดของคอมมิวนิสต์ ซึ่งจะประกอบไปด้วยบ้านฝ่ายพลเรือน บ้านฝ่ายพลาธิการ ฝ่ายสื่อสาร และสถานพยาบาล รวมทั้งหมด 31 หลัง แต่ละหลังเป็นบ้านเล็กๆ กระจายอยู่ตามพื้นที่อย่างเป็นระเบียบ ภายในบ้านจะมีแคร่สำหรับนอน และโต๊ะเขียนหนังสือทำด้วยไม้กระดานหยาบๆ บ้านบางหลังพุพังไปตามกาลเวลาเพราะถูกปล่อยร้างมานาน ซึ่งในปัจจุบันนี้กลายเป็นสถานที่จอดแวะเที่ยวถ่ายรูปชิคๆ กับความเขียวขจีและต้นเมเปิ้ลที่เมื่อร่วงหล่นลงมาเต็มพื้นที่ก็จะเห็นเป็นสีแดงสวยงามดีทีเดียว

CN_Phit-Sukkho-1

CN_Phit-Sukkho-1

CN_Phit-Sukkho-1

CN_Phit-Sukkho-1

Location: โรงเรียนการเมืองการทหาร ต.เนินเพิ่ม อ.นครไชย จ.พิษณุโลก
Phone: 086 933 4045, 088 165 1797


13.ลานหินปุ่ม, พิษณุโลก
(Lan Hin Pum)

ลานหินปุ่ม ตั้งอยู่ห่างจากอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าประมาณ 4 กิโลเมตร อยู่ริมหน้าผามีลักษณะเป็นลานหินผุดขึ้นมาไล่เลี่ยกันสูงประมาณ 1 ฟุต คาดว่าเกิดจากการสึกกร่อนตามธรรมชาติของหินทางฟิสิกส์และเคมีประกอบกับการขัดเกลาของกระแสลมและสายฝน ทางด้านประวัติศาสตร์ลานหินแห่งนี้ยังเป็นพื้นที่สำหรับพักฟื้นของพรรคคอมมิวนิสต์ ด้วยพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ที่เป็นหน้าผาจึงมีลมพัดเย็นสบายเหมาะแก่การมาพักผ่อน แต่ในปัจจุบันนั้นถูกไฟป่าไหม้หมดจึงเหลือเพียงหลักฐานบ่งชี้เพียงบางส่วนเท่านั้น จึงรักษาพื้นที่แห่งนี้ไว้เป็นแหล่งท่องเที่ยวและศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ผู้คนจึงมักจะไปเพื่อถ่ายภาพกับทิวทัศน์อันสวยงามของที่นี่

CN_Phit-Sukkho-1

CN_Phit-Sukkho-1

CN_Phit-Sukkho-1

CN_Phit-Sukkho-1

Location: ลานหินปุ่ม ต.เนินเพิ่ม อ.นครไชย จ.พิษณุโลก
Phone: 086 933 4045, 088 165 1797


14.ภักดีฟาร์ม, พิษณุโลก
(Pakdee Farm)

ภักดีฟาร์ม แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรบนพื้นที่กว่า 40 ไร่ เป็นฟาร์มกวางที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาเยี่ยมชมบรรยากาศอันผ่อนคลายและเรียนรู้การทำเกษตร ภายในบริเวณนี้โอบล้อมไปด้วยขุนเขาและสนามหญ้า ยิ่งมาเที่ยวในช่วงฤดูหนาวแล้วก็ต้องฟินไปกับบรยากาศอันหนาวเย็นที่มาพร้อมทิวทัศน์อันสวยงามและธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ อีกทั้งยังมีกิจกรรมให้เพลิดเพลินอย่าง ป้อนอาหารกวาง ถ่ายรูปสวยๆ ตามมุมต่างๆ รวมถึงคาเฟ่ที่พร้อมเสิร์ฟเมนูซิกเนเจอร์ปรุงสดใหม่จากวัตถุดิบชั้นดีมีทั้งสเต็ก ผัดเผ็ด และยำให้ได้ลิ้มลองกัน และหากใครอยากได้ของที่ระลึกเท่ๆ ติดไม้ติดมือกลับบ้านก็มีทั้งเข็มขัดและรองเท้าที่แปรรูปจากหนังกวางอีกด้วย 

CN_Phit-Sukkho-1

CN_Phit-Sukkho-1

CN_Phit-Sukkho-1

CN_Phit-Sukkho-1

Location: ภักดีฟาร์ม 8/2 ม.9 บ้านซำตะเคียน ต.วังนกแอ่น อ.วังทอง จ.พิษณุโลก
Open-Close: เปิดบริการทุกวัน 9.00-19.00 น.
Phone: 081 845 2993
Facebook: Pakdee Farm

 


ผู้เขียน

ampampaamp
นัก(หัด)เขียน ที่ฝันอยากใช้ชีวิตเรียบง่าย เงียบสงบ กับธรรมชาติ ,ชื่นชอบเรื่องไลฟ์สไตล์ การแต่งบ้าน เบเกอรี่ พอๆ กับการท่องเที่ยว แต่มักใช้เวลาว่างหมดไปกับการนอนดูซีรีส์

เรื่องที่คุณอาจสนใจ