tripgether.com

10 สิ่งรอบตัวที่ไม่ควรมองข้าม อาจเป็นแหล่งสะสมเชื้อไวรัส COVID-19

2,126 ครั้ง
27 มี.ค. 2563

ช่วงที่เชื้อไวรัส COVID-19 กำลังระบาดอยู่ในขณะนี้ เป็นช่วงเวลาที่พวกเราทุกคนจะต้องหันมาใส่ใจสิ่งรอบข้างให้มากขึ้น เพราะนอกจากเราจะต้องดูแลตัวเองให้ปลอดภัยจากเชื้อไวรัสแล้ว ก็ต้องระมัดระวังแหล่งสะสมเชื้อโรคที่อยู่รอบๆ กายที่บางครั้งเราอาจจะมองข้ามไป วันนี้ทริปเก็ทเตอร์เอาสาระดีๆ มาฝาก ให้เพื่อนๆ กลับไปทำความสะอาด 10 สิ่งรอบตัวที่อาจเป็นแหล่งสะสมเชื้อไวรัส COVID-19

AW_200330_0521


1.โทรศัพท์ สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต

แน่นอนว่าโทรศัพท์มือถือ สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต เป็นเหมือนอวัยวะที่ 33 ของคนในยุคนี้ไปแล้ว ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ต้องพกพาอุปกรณ์เหล่านี้ติดตัวไปแทบจะตลอด 24 ชั่วโมง จะเข้าห้องน้ำ, ออกไปเที่ยว, เดินทางไปยังที่ต่างๆ หรือแม้กระทั่งตอนนอน เราก็ยังเอาเจ้าสมาร์ทโฟนไว้ข้างๆ ตัว และเจ้าอุปกรณ์เหล่านี้ยังเป็นสิ่งที่เราสัมผัสบ่อยที่สุด บ่อยครั้งที่เราจะต้องเอามือถือมาแนบหูและใบหน้า ลองนึกภาพตามดูสิว่าสมาร์ทโฟนคู่ใจซึ่งติดตามเราไปทุกที่จะเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคเอาไว้มากมายขนาดไหน และตัวเราที่สัมผัสสิ่งนี้อยู่ตลอดจะได้รับเชื้อโรคอะไรไปบ้าง 

วิธีทำความสะอาด : ใช้แอลกอฮอล์หรือแอลกอฮอล์เจลที่มีความเข้มข้น 70 – 90% มาเช็ดทำความสะอาด


2.แป้นพิมพ์และเม้าส์

แป้นพิมพ์คีย์บอร์ดเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เรียกได้ว่าสกปรกยิ่งกว่าชักโครกในห้องน้ำซะอีก ถ้าไม่เชื่อลองดูที่แป้นพิมพ์ของคุณสิว่ามีทั้งคราบสกปรก เศษฝุ่น หรือแม้กระทั่งเศษขนมที่คุณเอามานั่งกินเวลาใช้งานคอมพิวเตอร์ บอกได้เลยว่ายิ่งปล่อยแป้นพิมพ์ให้เป้นอย่างนี้นานเท่าไหร่ เท่ากับคุณกำลังเปิดฟาร์มเพาะพันธุ์เชื่อโรคขนาดย่อมไว้ใกล้ๆ ตัว และเมื่อคุณกลับมาใช้งานคอมพิวเตอร์อีกครั้ง เชื้อโรคเหล่านี้ก็จะติดนิ้วมือคุณขึ้นมา แล้วเมื่อคุณนำมือของคุณมาสัมผัสส่วนต่างๆ บนใบหน้า หรือหยิบขนมเข้าปาก ก็จะทำให้คุณได้รับเชื้อโรคเหล่านี้เข้าสู่ร่างกายทันที

วิธีทำความสะอาด : ใช้แอลกอฮอล์หรือแอลกอฮอล์เจลที่มีความเข้มข้น 70 – 90% มาเช็ดทำความสะอาด หรือถ้าสามารถแกะปุ่มคีย์บอร์ออกมาได้ก็ควรแกะออกมาทำความสะอาดด้วย ทำอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง


3.รีโมทต่างๆ ที่อยู่ในห้องนอน

ต่อกันที่รีโมทต่างๆ ที่อยู่ภายในห้องนอนของเรา ไม่ว่าจะเป็นรีโมทแอร์ รีโมททีวี รีโมทเครื่องเสียงต่างๆ เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค ถึงแม้จะไม่เท่ากับมือถือหรือแป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์ที่เราใช้งานบ่อยๆ แต่ก็เป็นสิ่งที่ใครหลายๆ คนมักจะมองข้ามเรื่องความสะอาดไป หรือใครที่ชอบนั่งกินอาหารไปดูทีวีไป กดรีโมทไป ยิ่งต้องควรระวังมากเป็นพิเศษ เพราะเมื่อเราสัมผัสรีโมทและหยิบของกินเข้าปากแล้ว ก็จะทำให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้อย่างง่ายดาย

วิธีทำความสะอาด : ใช้แอลกอฮอล์หรือแอลกอฮอล์เจลที่มีความเข้มข้น 70 – 90% มาเช็ดทำความสะอาด


4.สวิตช์ไฟและปุ่มเปิด – ปิดพัดลม

สวิตช์ไฟและปุ่มเปิด – ปิดพัดลม เป็นอีกหนึ่งจุดที่เราจะต้องสัมผัสทุกๆ วัน และเป็นแหล่งรวมเชื้อโรคที่ทุกคนอาจคาดไม่ถึง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสวิตช์เปิด – ปิดพัดลม ที่หลายคนชอบใช้เท้าในการเปิด นั่นล่ะยิ่งเป็นวิธีเพิ่มแหล่งรวมเชื้อโรคให้มากยิ่งขึ้น

วิธีทำความสะอาด : ใช้แอลกอฮอล์หรือแอลกอฮอล์เจลที่มีความเข้มข้น 70 – 90% มาเช็ดทำความสะอาด


5.ธนบัตรและกระเป๋าสตางค์

ธนบัตรและกระเป๋าสตางค์เป็นอีกหนึ่งแหล่งรวมเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัส เพราะเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าธนบัตรในกระเป๋าสตางค์ของเราผ่านมือใครต่อใครมาบ้าง ถึงแม้ว่าการใช้ธนบัตรจะเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เราสามารถเปลี่ยนวิธีการใช้งานได้ จากที่จะต้องใช้ธนบัตรโดยตรง เปลี่ยนเป็นมาใช้เทคโนโลยีชำระเงินแทน หรือในบางประเทศ เช่นเกาหลีและจีน มีการนำธนบัตรมาฆ่าเชื้อด้วยการผ่านแสงอัลตร้าไวโอเลตกับความร้อน จากนั้นปิดผนึกและพักไว้เป็นเวลา 14 วัน ก่อนจะนำไปหมุนเวียนใช้ต่ออีกครั้ง

วิธีหลีกเลี่ยงการสัมผัสธรบัตร : ช่วงไวรัสโควิด-19 ระบาด แนะนำให้ใช้แอปพลิเคชั่นชำระเงินแทนการสัมผัสธนบัตรโดยตรง


6.หมอน ที่นอน ผ้าห่ม และโซฟา

หมอน ที่นอน ผ้าห่ม โซฟา สิ่งเหล่านี้เป็นแหล่งรวบรวมเชื้อโรคได้เป็นอย่างดี เพราะคราบเหงื่อไคลจากตัวเรามักจะถูกสะสมไว้บนสิ่งเหล่านี้ ปลอกหมอน ผ้าปูที่นอน เราอาจจะเอาไปซักได้ แต่ถ้าเป็นโซฟาเชื่อเลยว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่หลายๆ คนมองข้ามไปอยู่แน่ๆ ทางที่ดีเราควรเช็ดทำความสะอาดอย่างน้อย 3 วันต่อ 1 ครั้ง เพื่อกำจัดเชื้อโรค ถ้าหากเป็นโซฟาแบบผ้าควรดูดฝุ่นและใช้ผ้าชุบน้ำยาฆ่าเชื้อมาเช็ด หรือใช้สเปรย์ทำความสะอาดโซฟาโดยเฉพาะในการทำความสะอาด ส่วน ปลอกหมอน ผ้าห่ม ผ้าปูที่นอน ควรนำไปซักอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง

วิธีทำความสะอาด : ซักด้วยผงซักฟอกปกติ หรือผสมผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อสำหรับการซักผ้า


7.ตู้เย็น

ตู้เย็นอีกหนึ่งแหล่งรวมเชื้อโรคชั้นดีที่เรามักจะมองข้ามไป เพราะหลายๆ คนมักจะเอาสิ่งต่างๆ เข้าไปแช่รวมกันในตู้เย็น ไม่ว่าจะเป็นเครื่องสำอาง น้ำหอมต่างๆ รวมไปถึงอาหารที่กินไม่หมดและปล่อยให้บูดหรือหมดอายุค้างไว้ในตู้เย็น จนกลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของเชื้อราหและเชื้อโรคต่างๆ ยิ่งถ้าเป็นเชื้อโรคที่ชอบความเย็นด้วยแล้ว ก็จะทำให้พวกมันสามารถขยายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็วเลยล่ะ

วิธีทำความสะอาด : ผสมเบกกิ้งโซดา 2 ช้อนโต๊ะ กับน้ำร้อน 1 ส่วน (4 ถ้วยตวง) นำมาเช็ดทำความสะอาด จะช่วยดูดกลิ่นพร้อมทั้งกำจัดเชื้อราและแบคทีเรีย


8.ก็อกน้ำและที่กดชักโครก

ก็อกน้ำ และที่กดชักโครก เป็นอีกหนึ่งแหล่งสะสมเชื้อโรคที่เราไม่ควรมองข้ามอย่างยิ่ง โดยเฉพาะก็อกน้ำที่ซิงค์ล้างจานและก็อกน้ำในห้องน้ำ เพราะทั้ง 2 จุดนี้เป็นจุดที่อยู่ในที่อับชื้นแทบจะตลอดเวลา ทำให้เชื้อแบคทีเรียเติบโตได้อย่างง่ายดาย ส่วนที่กดชักโครกก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เราควรจะทำความสะอาดเป็นประจำเช่นเดียวกัน

วิธีทำความสะอาด : เช็ดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคหรือแอลกอฮอล์ และนำมะนาวกับเบกกิ้งโซดามาขัดเพื่อความเงางาม


9.ลูกบิดประตูและราวบันได

ลูกบิดประตูและราวบันไดคืออีกจุดที่ต้องระวัง เนื่องจากเป็นจุดที่ถูกสัมผัสอยู่ตลอดเวลา ทำให้เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคได้มากที่สุดอีกหนึ่งจุดภายในบ้าน โดยเฉพาะราวบันไดในบ้านที่ผู้สูงอายุที่จำเป็นต้องใช้เพื่อช่วยพยุงตัว ดังนั้นการเช็ดราวจับบันไดให้สะอาด นอกจากจะสวยงามน่ามอง ยังช่วยป้องกันเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายด้วย

วิธีทำความสะอาด : เช็ดทำความสะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคบ่อย ๆ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 – 3 ครั้ง


10.แปรงสีฟัน

ปิดท้ายกันที่ แปรงสีฟัน อีกหนึ่งแหล่งรวมเชื้อโรคอย่างดี จากผลการวิจัยของมหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์ในอังกฤษ พบว่าแปรงสีฟันทั่วๆ ไป เป็นแหล่งอาศัยของเชื้อโรคประมาณ 10 ล้านตัว โดยเฉพาะถ้าใครที่ชอบวางแปรงสีฟันไว้ใกล้กับชักโครก ก็จะทำให้เชื่อโรคต่างๆ ทวีคูณมากยิ่งขึ้น ทางที่ดีไม่ควรวางแปรงสีฟันไว้ในที่อับชื้น เพราะจะทำให้เชื้อโรคเติบโตอย่างรวดเร็ว

วิธีทำความสะอาด : ล้างขนแปรงด้วยน้ำก๊อกหลังจากแปรงฟันเสร็จ, อย่าเก็บแปรงในกล่องปิด, ควรเปลี่ยนแปรงสีฟันทุกๆ 3 – 4 เดือน


ผู้เขียน

admin tripgether
สัญญาว่าจะเที่ยวให้ดีที่สุด!!

เรื่องที่คุณอาจสนใจ