tripgether.com

ชวนดู 10 จุดเช็คอินชิคๆ ที่เที่ยวสวยทั่วไทย

4,907 ครั้ง
9 เม.ย. 2563

ด้วยสถานการณ์การระบาดของเชื้อโควิด-19 ในปัจจุบัน ทำให้เราไม่สามารถออกไปไหนได้โดยสะดวกเหมือนที่ผ่านมา และการต้องอยู่บ้านทุกวันอาจทำให้เกิดความเบื่อหน่าย รู้สึกไม่มีชีวิตชีวา ด้วยเหตุนี้เราจึงต้องพยายามหาวิธีที่จะช่วยลดความตึงเครียดในช่วงเวลานี้ ซึ่งการได้ดูได้ชมสถานที่สวยๆ ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ ทริปเก็ทเตอร์เลยอยากชวนทุกคนมาดู 10 จุดเช็คอินชิคๆ ทั่วไทย ที่รับประกันเลยว่าทั้งสวยและบรรยากาศดี งานนี้ดูกันเพลินๆ ยาวๆ ไปเลย!


1.เดอะ บลู สกาย รีสอร์ท เขาค้อ, เพชรบูรณ์
(The Blue Sky Resort)

เดอะ บลู สกาย รีสอร์ท ที่พักขนาดใหญ่ในเขาค้อที่ล้อมรอบไปด้วยหุบเขาธรรมชาติสุดโรแมนติก การออกแบบมาในสไตล์ยุโรป เมื่อเดินเข้าไปเหมือนหลุดไปยังดินแดนของเจ้าหญิงในนิยาย จะมองมุมไหนก็สวยไปหมด ทั้งสถาปัตยกรรม ธรรมชาติ ดอกไม้ ทุกจุดทำออกมาได้อย่างลงตัว ภายในห้องพักและห้องอาหารออกแบบได้อย่างหรูหราและละเมียดละไม จัดสรรส่วนต่างๆ ได้เป็นอย่างดี โทนสีที่ใช้ก็เข้ากัน เหมาะมากกับการมาพักผ่อน หรือจะแวะเข้าไปใช้บริการในส่วนร้านอาหารก็ได้ บรรยากาศดีขนาดนี้ ถ้ามีโอกาสลองแวะมาเที่ยวชมกันให้ได้นะ

Blueskykhaokoh_1

Blueskykhaokoh_1

Blueskykhaokoh_1


2.พรีโม เพียซซ่า เขาใหญ่, นครราชสีมา
(Primo Piazza)

พรีโม เพียซซ่า จุดเช็คอินที่เป็นอีกแลนด์มาร์คของเขาใหญ่ที่ใครๆ ต้องแวะมาถ่ายรูป กับสถานที่ท่องเที่ยวที่อิงแบบมากจากเมืองนอก โดดเด่นด้วยอาคารที่ออกแบบแนวยุโรป ภายในมีทั้ง คาเฟ่ ร้านอาหาร และที่สำคัญมีสัตว์จากออสเตรเลียรอให้เข้าไปชมความน่ารัก และสามารถให้อาหารอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป้นสัตว์ขนปุยอย่างเจ้าอัลปาก้าคอยาว น้องแกะเมอริโน และดองกี้ลาน้อยจอมซน โดยเมื่อเข้ามาในพรีโม่ เพียซซ่า จะมีบัตรที่สามารถนำไปแลกอาหารสัตว์ได้ เป็นอีกหนึ่งที่ท่องเที่ยวที่น่าพาน้องๆ หนูๆ แวะมาสนุกกับการให้อาหารสัตว์ แถมยังมีมุมเก๋ๆ ได้ฟีลเหมือนกับอยู่เมืองนอกให้ถ่ายรูปเอาไว้ไปอวดเพื่อนกันอีกด้วย

Primopiaza-1

Primopiaza-1

Primopiaza-1


3.แกรนด์แคนย่อน คีรี, ชลบุรี
(Grand Canyon Kiri)

แกรนด์แคนยอน คีรี หรือที่รู้จักในชื่อแกรนด์แคนยอน ชลบุรี เดิมเป็นเหมืองเก่าที่ถูกทิ้งร้าง แต่เมื่อเวลาผ่านไป ธรรมชาติได้ค่อยๆ ปรับเปลี่ยนเกิดเป็นความสวยงามขึ้น จนกลายเป็นอีกสถานที่ที่ใครๆ ต่างอยากมาเที่ยวเล่นถ่ายรูป ลักษณะเด่นของที่นี่คือเป็นแอ่งน้ำสีเขียวมรกตขนาดใหญ่ เนื้อที่ราวๆ 100 ไร่ แถมยังลึกมาก มองลงไปรู้สึกหวาดเสียวไม่น้อย ถ้าเดินเข้ามาเรื่อยๆ ตามรั้ว ผ่านเส้นทางทุ่งหญ้าและลำธาร มองไปไกลๆ จะเจอภูเขาที่คล้ายน้ำแข็งสีเทา คงถูกใจคนชอบถ่ายรูปไม่น้อย เรียกได้ว่าสวยและชิลล์มากๆ เก็บภาพเด็ดๆ กันได้ทุกมุม 

Grandcanyonchon_1

Grandcanyonchon_1

Grandcanyonchon_1


4.ป่าต้นน้ำบ้านน้ำราด, สุราษฎร์ธานี
(Pa Ton Nam Ban Nam Rad)

ป่าต้นน้ำบ้านน้ำราด แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของสุราษฎร์ธานี เป็นบ่อน้ำผุดที่ขึ้นจากเชิงเขาในป่า ล้อมรอบด้วยธรรมชาติแสนอุดมสมบูรณ์ เต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่นานาพันธุ์ฃ ไฮไลท์ของที่นี่คือบ่อน้ำผุดสีฟ้าใสอมเขียวมรกที่ใสมากๆ ราวกับกระจก เป็นบ่อน้ำจืดที่มีตาน้ำเป็นหัวใจหลัก ส่วนพื้นบ่อเป็นทรายตะกอนหินปูน ทำให้น้ำใสอยู่ตลอดเวลา บ่อน้ำไม่ลึกมากสามารถนั่งจุ่มเท้า หรือลงไปนั่งแช่นอนแช่ตัวได้สบายๆ ได้สูดอากาศบริสุทธิ์ แถมน้ำยังเย็นสบายตัว ผ่อนคลายสุดๆ ไปเลยล่ะ

Phatonnam-1

Phatonnam-1

Phatonnam-1


5.ชาสารักไทย, แม่ฮ่องสอน
(Chasarakthai)

ขาสารักไทย หมู่บ้านแห่งนี้มากมายด้วยมนต์เสน่ห์ ทั้งโลเคชั่นที่อยู่กลางหุบเขา แถมยังมีทะเลสาบตรงใจกลาง รวมถึงวัฒนธรรมแบบจีนยูนนานแันเป็นเอกลักษณ์ ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ต่างประเทศ ภายในหมู่บ้านเต็มไปด้วยร้านขายของฝากซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นชาและผลไม้อบแห้ง และร้านอาหาร รวมถึงที่พักก็มีให้เลือกมากมายสำหรับคนที่อยากมาค้างคืน ที่นี่โดดเด่นมากตรงความสวยของวิวทิวทัศน์ ซึ่งพอได้มาสัมผัสเองก็ต้องบอกเลยว่าจริง สายน้ำ หมู่บ้านที่ทอดยาว ท้องฟ้า ทั้ง 3 องค์ประกอบนี้ทำให้เกิดภาพที่ลงตัว แบบที่ใครได้มาเห็นก็ต้องหลงรัก

Chasarakthai-1

Rakthaiview-2

Chasarakthai-1


6.ไร่ชาลุงเดช, เชียงใหม่
(Rai Cha Lung Detch)

ไร่ชาลุงเดช ตั้งอยู่บนเนินเขาลูกเล็กๆ ที่โอบล้อมไปด้วยไร่ชาแบบขั้นบันได เมื่อเดินทางมาถึงจะมีบ้านหลังใหญ่ซึ่งเป็นโรงน้ำชา และจุดชมวิวไว้ต้อนรับนักเดินทาง นอกจากนี้ยังมีบ้านพักไว้รองรับนักท่องเที่ยอีก 4 ห้อง กับ 2 หลัง โดยห้องทั้ง 4 ห้องจะเป็นเรือนแถวอยู่บริเวณชั้นล่างของบ้านพักหลังใหญ่ให้เลือกพักได้ตามความต้องการ โดยลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการสามารถลงไปถ่ายรูปเก็บบรรยากาศที่บริเวณไร่ชาได้ ส่วนอาหารก็จะเป็นแบบง่ายๆ ที่ลุงเดชและคุณป้าจะเป็นคนคอยจัดเตรียมให้เราด้วยตัวเอง ต้องบอกว่าลุงเดชและคุณป้าเจ้าของไร่ชา ทั้งน่ารัก คุยเก่ง และอัธยาศัยดีมากๆ

Uncle_Dech_Tea1

Uncle_Dech_Tea1

Uncle_Dech_Tea1


7.วัดถ้ำเสือ, กาญจนบุรี
(Wat Thum Sua)

วัดถ้ำเสือ วัดเก่าแก่ของ อ.ท่าม่วง ที่มีพระพุทธรูปปางประธานพรที่ใหญ่ที่สุดใน จ.กาญจนบุรี และยังมีเจดีย์เกศแก้วปราสาทที่สูงสง่าซึ่งเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ นอกจากนี้ยังมีบ่อน้ำทิพย์ บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ใครๆ ก็ต้องมาตักเพื่อความเป็นศิริมงคล ด้านบนของวัดมีลมพัดเย็นๆ มองลงไปเห็นวิวของทุ่งนาสีเขียวที่ล้อมรอบตัววัด เรียกว่าบรรยากาศดีทั้งในวัดและนอกบริเวณวัดเลย

DSC01

DSC01

DSC01


8.จุดชมวิวพาสาน, นครสวรรค์
(Pasan)

โครงการ พาสาน เกิดขึ้นโดยชาวนครสวรรค์และเทศบาลนครสวรรค์ ที่มาร่วมกันปรึกษาหารือเกี่ยวกับการสร้างจุดสำคัญให้กับพื้นที่เกาะยม ต้นแม่น้ำเจ้าพระยา ตามด้วยริเริ่มระดมทุนจากการเรี่ยไรเงินบริจาค ซึ่งได้รับการร่วมมืออย่างเต็มที่จากชาวบ้าน และการประกวดที่โจทย์มาจากชาวนครสววรค์เอง นั่นก็คือ ‘โครงการประกวดแบบต้นแม่น้ำเจ้าพระยา’ จนได้ผู้ชนะการประกวดที่ออกแบบได้ตรงตามโจทย์ที่วางไว้ ด้วยแนวคิดที่ว่า ผสาน + เชื่อมโยง การออกแบบอาคารที่เปรียบเสมือน “แม่น้ำสี่สายมารวมกันเป็นหนึ่ง และทำหนัาที่เป็นสื่อกลางให้ผู้คนได้ชมการผสานกันของแม่น้ำ” จนที่นี่กลายเเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ให้ผู้คนได้มาแวะเวียนและชื่นชม

Pasan1

Pasan1

Pasan1


9.จุดชมวิวกังหันลม, ภูเก็ต
(Windmill Viewpoint)

จุดชมวิวกังหันลม เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่ได้รับความนิยมมากของภูเก็ต เพราะเป็นจุดชมวิวใหม่ ตั้งอยู่ระหว่างหาดในหานและแหลมพรหมเทพ ที่ตั้งของจุดชมวิวกังหันลมยังเป็นที่ตั้งของสถานีไฟฟ้าพลังงานทดแทน ภายใต้การดูแลของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต และจากการที่มีกังหันลมเป้นเอกลักษณ์ จึงถูกนำมาเรียกเป็นชื่อของสถานที่แห่งนี้นั่นเอง นอกจากเป็นจุดชมวิวที่สวยงามแล้ว ที่นี่ยังเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่ชอบทำกิจกรรมท้าทาย เพราะจะเห็นนักท่องเที่ยวนำเครื่องร่อนและร่มพาราเซลมาเล่นท้าลมชมวิวสวยๆ ให้เราได้ชมและลุ้นกับกิจกรรมเหล่านี้ไปด้วย

Kanghanlomphuket1

Kanghanlomphuket1

Kanghanlomphuket1


10.เกาะแสมสาร, ชลบุรี
(Koh Samae San)

เกาะแสมสาร ตั้งอยู่ในเขต อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยเป็น 1 ใน 9 เกาะในโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องจากพระราชดำริฯ จึงเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ภายใต้การดูแลของทหารเรือ เกาะแสมสารเหมาะสำหรับไปเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับ มีเรือโดยสารของทหารเรือคอยอำนวยความสะดวก ค่าเรือคนละ 300 บาท นอกจากนี้บนเกาะยังมีกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นจุดดำน้ำดูปะการัง, พายเรือคายัค, นั่งเรือกระจกท้องแบนชมปะการัง ส่วนความสวยงามของที่นี่ก็ไม่แพ้ที่ไหนๆ หากใครได้มาครั้งแรกต้องกลับไปซ้ำเป็นครั้งที่สองอย่างแน่นอน

Koh Samaesarn-1

Koh Samaesarn-1

Koh Samaesarn-1


 


ผู้เขียน

admin tripgether
สัญญาว่าจะเที่ยวให้ดีที่สุด!!

เรื่องที่คุณอาจสนใจ