เปิดแผนผ่อนปรน! กิจกรรมและกิจการ 6 ประเภทที่จะกลับมาเปิดได้ 3 พ.ค. นี้

กการแถลงข่าวของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 วันนี้ (30 เมษายน 2563) เผยว่ามาตรการเคอร์ฟิวยังคงใช้ตามเดิม การเดินทางเข้าออกนอกประเทศ อนุญาตแค่ขนส่งสินค้าและที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น รวมทั้งยังคงงดหรือชะลอการเดินทางเข้าออกต่างจังหวัดโดยไม่จำเป็น และยังคงการควบคุมตามมาตรการต่างๆ อยู่ ขณะเดียวกันก็มีการคลายล็อกดาวน์ ผ่อนปรนกิจการและกิจกรรม 6 ประเภทที่จะได้กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง ดังนี้

---

1.ตลาด

ได้แก่ ตลาดสด, ตลาดนัด, ตลาดน้ำ, ตลาดชุมชน, ถนนคนเดิน และตลาดแผงลอย

ต้องปฏิบัติตามมาตรการของศบค. ดังนี้
     – ให้มีทางเข้า – ออกทางเดียว เพื่อจำกัดจำนวนผู้เข้าใช้บริการ 
     – ต้องมีการเว้นระยะห่าง ตามหลัก Social Distancing 
     – มีจุดคัดกรองผู้เข้าใช้บริการและผู้ค้าขาย 
     – จัดให้มีจุดล้างมือบริเวณทางเข้า – ออก มีการเว้นระยะห่าง 1.5 เมตรในการซื้อสินค้า 
     – ต้องทำความสะอาดตลาด และส้วมสาธารณะ 
     – ทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่อยู่ในตลาด

---

2.ร้านจำหน่ายอาหาร 

ได้แก่ ร้านอาหารทั่วไป, ร้านสุกี้-ชาบู, ร้านเครื่องดื่ม, ขนมหวาน, ไอศกรีม (นอกห้าง), ร้านอาหารริมทาง และร้านรถเข็น หาบเร่

ต้องปฏิบัติตามมาตรการของศบค. ดังนี้
     – สามารถนั่งรับประทานที่ร้านได้ แต่ทางร้านจะต้องทำสัญลักษณ์เว้นระยะห่าง 
     – จัดที่นั่งห่างกัน 1.5 เมตร ตามหลัก Social Distancing
     – ห้ามมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จำหน่ายในร้าน 
     – ต้องเปิด – ปิดตามเวลา พ.ร.ก. ฉุกเฉิน 
     – พนักงานในร้านจะต้องสวมหมวก สวมหน้ากากอนามัย สวมถุงมือ หากมีอาการป่วยไข้ควรให้หยุดงานทันที
     – ร้านสุกี้-ชาบูเปิดได้ แต่ให้นั่งกินคนเดียว/โต๊ะ

---

3.กิจการค้าปลีก – ส่ง

ได้แก่ ซุปเปอร์มาร์เก็ต, ร้านสะดวกซื้อที่มีบริเวณพื้นที่นั่ง/ยืนรับประทาน, รถเร่ หรือรถวิ่งขายสินค้าอุปโภคบริโภค, ร้านค้าปลีกขนาดย่อม/ร้านค้าปลีกชุมชน และร้านขายปลีกธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม

ต้องปฏิบัติตามมาตรการของศบค. ดังนี้
     – ต้องมีการเว้นระยะห่างการยืนชำระเงิน ตามหลัก Social Distancing 
     – มีจุดคัดกรองผู้เข้าใช้บริการและผู้ค้าขาย 
     – ต้องทำความสะอาดพื้นที่ภายในร้าน
     – ทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา
     – ต้องมีจุดล้างมือหรือเจลแอลกอฮอล์
     – พนักงานในร้านจะต้องสวมหมวก สวมหน้ากากอนามัย สวมถุงมือ หากมีอาการป่วยไข้ควรให้หยุดงานทันที

---

4.กีฬา สันทนาการ

ได้แก่ กิจกรรมในสวนสาธารณะ อย่างเช่น เต็นรำไทเก็ก, สนามกีฬากลางแจ้งที่เป็นการออกกำลังกาย โดยไม่ได้เล่นเป็นทีม และไม่มีการแข่งขัน ได้แก่ เทนนิส ยิงปืน ยิงธนู จักรยาน กอล์ฟ และสนามซ้อม

ต้องปฏิบัติตามมาตรการของศบค. ดังนี้
     – ต้องมีจุดคัดกรองอุณหภูมิ และจัดให้มีระยะห่าง 5 เมตรในจุดพื้นที่ส่วนกลางที่ใช้ร่วมกัน 
     – จัดให้มีการเข้าออกทางเดียว เพื่อจำกัดจำนวนคนอย่างเหมาะสม 
     – บริการร้านอาหารหรือคลับเฮ้าส์จะต้องปฏิบัติตามมาตรการที่ระบุไว้เช่นกัน 
     – ต้องมีการนัดคิวเข้าใช้บริการ และจดบันทึกรายชื่อผู้เข้าใช้บริการ
     – ทุกคนจะต้องสวมหน้ากากอนามัยและทำความสะอาด
     – ห้ามเล่นกีฬาประเภททีม เช่น ฟุตบอล ซอฟบอล วอลเลย์บอล บาสเกตบอล และกีฬาที่ต้องใกล้ชิดกัน

---

5.ร้านตัดผม เสริมสวย

ต้องปฏิบัติตามมาตรการของศบค. ดังนี้
     – อนุญาตเฉพาะ ตัด สระ ไดร์ 
     – ต้องทำความสะอาดฆ่าเชื้อทุกๆ 2 ชั่วโมง 
     – การจะเข้ารับบริการจะต้องจองคิวล่วงหน้า ไม่อนุญาตให้มีการนั่งรอภายในร้าน 
     – ช่างตัดผมจะต้องสวมหน้ากากอนามัยและ Face Shield 
     – ที่สำคัญจะต้องจดบันทึกรายชื่อผู้เข้าใช้บริการทุกราย
     – ระหว่างสระผมผู้เข้าใช้บริการจะต้องสวมหน้ากาก เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ

---

6.อื่นๆ 

ได้แก่ ร้านตัดขนสัตว์ ร้านรับเลี้ยงรับฝากสัตว์

ต้องปฏิบัติตามมาตรการของศบค. ดังนี้
    – ต้องจัดให้มีจุดคัดกรอง
    – ยกเว้นการให้บริการสำหรับผู้ Walk In โดยให้จองคิวนัดหมาย และกำหนดรอบเวลาเปิด
    – นำสัตว์เข้าร้านได้ครั้งละ 1 คน/สัตว์ 1 ตัว
    – ต้องทำความสะอาดฆ่าเชื้ออุปกรณ์
    – ต้องทำบันทึกตารางเวลาเป็นหลักฐาน
    – บันทึกรายชื่อการติดต่อผู้เข้ารับบริการทุกราย

มาตรการเหล่านี้เป็นมาตรการหลักๆ ที่ทาง ศบค. เน้นย้ำให้ปฏิบัติ โดยอาจจะมีมาตรการเสริมอื่นๆ เกิดขึ้นได้อีกหลังจากนี้ และตั้งแต่วันแรกที่มีการกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งนั้น จะมีการประเมินความเสี่ยงต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ประเทศกลับเข้าสู่ภาวะวิกฤตซ้ำอีกครั้ง ดังนั้นประชาชนทุกคนจะต้องให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตัวตามมาตรการต่างๆ ที่ทาง ศบค. ได้ประกาศมา และควรติดตามข่าวสารมาตรการเพิ่มเติม เพื่อเป็นการป้องกันตนเองและสังคมไม่ให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก

---