tripgether.com

6 เทคนิคขับรถให้ปลอดภัยไร้อุบัติเหตุในช่วงฤดูฝน

2,494 ครั้ง
26 มิ.ย. 2560

ฟอร์ด แนะเทคนิคขับรถให้ปลอดภัยไร้อุบัติเหตุในช่วงฤดูฝน หลายพื้นที่ทั่วประเทศไทยในช่วงนี้ ถูกกระหน่ำด้วยสภาพอากาศแปรปรวน ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมในหลายพื้นที่ สร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินเป็นอย่างมาก ซึ่งสภาพอากาศอันเลวร้ายในฤดูฝนนี้ยังส่งผลต่อการขับรถและความปลอดภัยบนท้องถนนอย่างมากอีกด้วย หากเป็นไปได้ ควรพยายามหลีกเลี่ยงการขับรถในสภาพอากาศเลวร้ายและฝนตกหนัก แต่หากมีความจำเป็นต้องขับรถท่ามกลางสภาพอากาศที่แย่จริงๆ ฟอร์ด แนะนำเทคนิคการขับรถอย่างปลอดภัยไร้อุบัติเหตุในช่วงฤดูฝน พร้อมเกร็ดความรู้ต่างๆ ก่อนออกเดินทาง เพื่อช่วยลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน


1.ลดความเร็วลง เราต่างรู้กันอยู่แล้วว่า เมื่อถนนเปียก พื้นถนนจะลื่นขึ้น และทำให้เราจำเป็นต้องลดความเร็วลง ซึ่งความเร็วสูงสุดที่กำหนดไว้สำหรับถนนเส้นนั้นเป็นความเร็วที่ถูกกำหนดให้ใช้ได้ในสภาพถนนปกติเท่านั้น ไม่ควรใช้ความเร็วดังกล่าว เมื่อต้องขับรถบนพื้นถนนเปียก 

2.เพิ่มทัศนวิสัยระหว่างฝนตก การมองไปข้างหน้าให้ไกลที่สุดเท่าที่เป็นไปได้จะทำให้คุณมีโอกาสดีที่สุดในการรับมือกับเหตุการณ์ใดๆที่อาจเกิดขึ้น “หนึ่งในทางที่ดีที่สุด คือ การขับรถอยู่ในเลนที่ไม่มีรถข้างหน้าบังสายตา และอีกวิธี คือ การขับตามรถคันข้างหน้า (ในระยะห่างที่ปลอดภัย) ที่มีขนาดใกล้เคียงกัน เพื่อที่คุณจะสามารถมองเห็นรถคันข้างหน้า รวมถึง พื้นที่ระหว่างรถคันหน้า อย่าขับตามรถบรรทุกคันใหญ่ๆ ที่บดบังทัศนวิสัยของคุณ นอกจากนั้น การเรียนรู้ที่จะใช้ฟีเจอร์ต่างๆ ในรถของคุณ ยังเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะสามารถช่วยคุณได้

3.ระวังแอ่งน้ำบนถนน แอ่งน้ำเล็กๆ อาจซ่อนหลุมขนาดใหญ่เอาไว้ ยิ่งไปกว่านั้น หากมีน้ำมากพอ ยางรถยนต์อาจไม่สามารถรีดน้ำออกได้ทันและส่งผลให้รถไม่เกาะถนน

4.อย่าขับรถผ่านบริเวณน้ำท่วม อย่าพยายามขับรถผ่านบริเวณน้ำท่วมในระดับที่คุณไม่สามารถเดินผ่านได้ และระวังจุดที่น้ำท่วมขังอยู่บนพื้นถนน เพราะใต้น้ำท่วมขังอาจไม่มีพื้นถนนอยู่ น้ำท่วมอาจพัดเอาพื้นถนนออกไปทั้งหมด และหากน้ำเข้าไปยังวาล์วไอดีและเครื่องยนต์ รถอาจจะดับ และคุณจะติดอยู่ในรถ 

5.ควรระมัดระวังเป็นพิเศษกับถนนที่เต็มไปด้วยสิ่งสกปรก ระมัดระวังเป็นพิเศษกับเศษซากต่างๆ บนพื้นถนน เช่น ก้อนหิน ที่อาจถูกทำให้เคลื่อนที่โดยสายฝน ซึ่งถนนที่เต็มไปด้วยสิ่งสกปรกจะทำให้เกิดความเสี่ยงมากขึ้น โดยถนนจะถูกกัดเซาะและทำให้เปลี่ยนสภาพไปจนอาจทำให้เกิดการเคลื่อนที่หรือสไลด์ของหน้าดิน 

6.เตรียมตัวรับมือกับสิ่งกีดขวางที่มองไม่เห็น อันตรายบนท้องถนนไม่เพียงมีสาเหตุจากธรรมชาติ เช่น ก้อนหินและกิ่งไม้เท่านั้น แต่ยังรวมถึงคนเดินเท้าทั่วไป สัตว์ต่างๆ รวมถึงรถคันอื่นที่ประสบอุบัติเหตุบนท้องถนน “เพื่อหลีกเลี่ยงกับสิ่งเหล่านั้น คุณต้องขับรถให้ช้าพอเพื่อที่จะสามารถสังเกตและมีปฏิกิริยาตอบโต้ได้ทันที จนสามารถหยุดรถได้สนิท ก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุขึ้น” 

 

ไม่ว่าคุณจะเป็นนักขับที่มีประสบการณ์มากแค่ไหน การขับรถในสภาพอากาศที่เลวร้ายบนพื้นถนนเปียก เป็นช่วงเวลาที่คุณต้องให้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ การสร้างเกราะป้องกันตัวเองด้วยความรู้ที่เพียงพอ ตลอดจนเรียนรู้เทคนิคต่างๆ จะช่วยให้คุณรับมือกับเหตุการณ์เหล่านั้นได้ดีขึ้น และเป็นผู้ขับที่มีความรับผิดชอบและคำนึงถึงปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

แม้ว่าคุณจะทำตามข้อแนะนำนี้ทุกข้อแล้ว แต่ในบางสถานการณ์อาจเกิดเหตุไม่คาดคิด ภายใต้ทัศนวิสัยย่ำแย่ ทำให้คุณมีเวลาเตรียมตัวรับมือเพียงน้อยนิด ทั้งนี้ รถยนต์สมัยใหม่มาพร้อมเทคโนโลยีที่ช่วยให้คุณสามารถรับมือกับเหตุการณ์ที่อยู่นอกเหนือความคาดหมายได้ อย่างฟอร์ดหลายๆ รุ่น เช่น ฟอร์ด เรนเจอร์ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ฟอร์ด เอคโค่สปอร์ต และฟอร์ดโฟกัส ที่ติดตั้งด้วยระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (Electronic Stability Program หรือ ESP) ระบบที่ประกอบด้วยเซ็นเซอร์ที่จะวัดความเคลื่อนไหวของรถยนต์ในแนวราบด้วยอัตรา 100 ครั้งต่อวินาทีเป็นอย่างต่ำ “ในกรณีฉุกเฉิน ระบบสามารถปรับเบรกและปรับกำลังของเครื่องยนต์อย่างเหมาะสม เพื่อช่วยรักษาสมดุลของรถ” ก่อนที่ผู้ขับจะรู้ตัวว่าพวกเขาจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือเสียอีก

 


ผู้เขียน

admin tripgether
สัญญาว่าจะเที่ยวให้ดีที่สุด!!

เรื่องที่คุณอาจสนใจ