tripgether.com

ปีนังไปให้รู้… ว่าเมืองนี้ไม่ได้มีดีแค่สตรีทอาร์ท + ทริปเที่ยวคาเมรอนไฮแลนด์ เมืองพักผ่อนกลางหุบเขาดอกไม้และไร่ชา

19,120 ครั้ง
9 พ.ย. 2560

ปีนัง เมืองท่องเที่ยวสุดฮิป ที่ใครๆ ก็พูดถึง เพราะนอกจากจะเป็นเมืองเก่า ที่มีสถาปัตยกรรมสวยๆ ให้เราได้ชมกันแล้ว ปีนังยังมีภาพกราฟฟิตี้ ทั่วเมืองให้เราได้ตระเวนเช็คอินและถ่ายรูปเล่นกันอีกด้วย แต่สำหรับรีวิวนี้เราจะพาออกเดินทางในมุมใหม่ เที่ยวให้ทั่วเมืองปีนัง แถมยังพาเที่ยวนอกเมืองไปยังดินแดนไร่ชาที่คาเมรอน ไฮแลนด์กันอีกด้วยนะเออ ถ้าพร้อมแล้วออกไปลุยกันเลย…


Day: 1 | กรุงเทพฯ – ปีนัง – จอร์จทาวน์

เราออกเดินทางด้วยสายการบินแอร์เอเชีย ในช่วงสายๆ ซึ่งจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.45 ชั่วโมง ก็จะเดินทางมาถึงสนามบินปีนังแล้ว (เวลาที่ปีนังจะเร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง) หลังจากถึงสนามบินเราจะเดินทางไปยังจอร์จทาวน์ด้วยรถเมล์สาย E403 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที สำหรับค่ารถโดยสารจะอยู่ที่ 2.70 ริงกิต ซึ่งจะต้องจ่ายตังค์ให้คนขับเลย ไม่มีกระเป๋ารถเมล์เหมือนบ้านเรานะฮะ

หลังจากเดินทางกันมาสักพัก เราก็มาถึงยังตึก Komtar ซึ่งเป็นย่านห้างสรรพสินค้าชั้นนำให้เราได้เดินหาซื้อของใช้จำเป็น ไม่ว่าจะเป็นซิมมือถือ อะแดปเตอร์แปลงไฟ สำหรับคนที่ไม่รีบใช่มือถือแนะนำให้มาหาซื้อซิมที่ตึก Komtar จะได้ราคาถูกกว่าสนามบินเป็นเท่าตัวเลย

หาซื้อของใช้และช้อปปิ้งกันนิดหน่อย เราเดินจากตึก Komtar ไปยังที่พักของเราในคืนนี้ สำหรับการเดินทางไปยังจุดต่างๆ ในปีนังเราจะใช้ Google Map เป็นส่วนใหญ่ เพื่อเช็คเส้นเดินเท้า เส้นทางรถเมล์ และราคาแท็กซี่ เรียกว่าสะดวกทีเดียว

เราใช้เวลาเดินกันเพลินๆ แวะถ่ายรูปตามตึกต่างๆ ก็มาถึงที่พักของเราในคืนนี้แล้วค่ะ ที่ “The Sovereign Hotel” สำหรับที่พักเราได้จองผ่าน Agoda มาในราคาประมาณ 600 บาท เมื่อมาถึงที่พักจะมีเก็บค่ามัดจำคีย์การ์ด 50 ริงกิต และเสียภาษีนักท่องเที่ยว 10 ริงกิต (ภาษีนักท่องเที่ยวจะต้องเสียทุกโรงแรมที่เราเข้าพัก ซึ่งเป็นกฏหมายและข้อบังคับของมาเลย์เซีย)

เก็บกระเป๋าสัมภาระกันเรียบร้อย เราก็ออกเดินทางไปยังจุดต่างๆ ในปีนัง ซึ่งวันนี้เราไม่ค่อยได้วางแพลนเท่าไหร่ เอาแค่ว่าที่ไหนสวยก็จะอยู่แถวนั้นนานกันหน่อย ซึ่งจากที่พักของเราก็สามารถเดินไปเที่ยวได้ทั้ง สตรีทอาร์ท

ท่าเรือ Jetty จะเป็นชุมชนชาวจีนริมน้ำในปีนัง

ซึ่งในช่วงเย็นๆ ถึงค่ำๆ จะมีร้านอาหารฟู้ดส์ทรัคให้เราได้เลือกชิมหลายร้านทีเดียว

เมนูนี้คล้ายๆ หอยทอดบ้านเราราคา 10 ริงกิต

ลิตเติ้ลอินเดีย ย่านคนอินเดียในปีนัง

Majlis Bandaraya Pulau Pinang


Day: 2 | ปีนัง – คาเมรอนไฮแลนด์ 

สำหรับเช้านี้เราตื่นมารับประทานอาหารเช้าของโรงแรม และในช่วงประมาณ 8 กว่าๆ จะมีรถตู้มารับเราเดินทางไปยังคาเมรอนไฮแลนด์  สำหรับตั๋วเราได้หาซื้อที่แถวตึก Komtar ในราคา 35 ริงกิต โดยจะมีรถตู้มารับเราถึงที่พักและพาไปส่งยังที่พักในคาเมรอนไฮแลนด์ สำหรับเวลาเดินทางจากปีนังไปคาเมรอนไฮแลนด์จะใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง โดยจะมีจุดจอดพักให้เราได้เข้าห้องน้ำ 1 ครั้ง แล้วก็จะเป็นการเดินทางยาวๆ ถึงคาเมรอนไฮแลนด์เลยฮะ

ช่วงบ่ายๆ เราก็เดินทางมาถึงที่พักของเราในคืนนี้ ซึ่งคืนแรกเราเลือกพักกันที่ Strawberry Park Resort ซึ่งเป็นที่พักสไตล์ยุโรปคลาสสิค มีห้องพักให้เลือกหลายห้องทีเดียว และสำหรับที่พักในครั้งนี้เราได้จองผ่าน Agoda มาก่อนราคาประมาณ 2,350 บาทต่อคืนรวมอาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ต์

บรรยากาศภายในห้องกว้างขวาง มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันทีเดียว แถมยังมีมุมพักผ่อน มุมให้ถ่ายรูปเยอะอีกด้วย 

สำหรับการเดินทางไปยังที่เที่ยวต่างๆ ต้องใช้บริการแท็กซี่ ราคาก็แพงใช่ได้เลย บางจุดเราจึงใช้วิธีการเดินเล่นเรื่อยๆ ชมวิวกันเรื่อยๆ โดยแพลนของวันนี้เราจะไปเที่ยวชมที่เที่ยวใกล้ๆ ที่พักของเราและไปแถว Brinchang

ไอติมสตอร์วเบอรี่

Brinchang จะมีร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก

ระหว่างทางกลับไปที่พัก

ส่วนอาหารเย็นเราก็สั่งจากโรงแรมรับประทานกัน มีเมนูแนะนำเป็นพิซซ่าสตอร์วเบอรี่พาร์ค


Day: 3 | คาเมรอนไฮแลนด์

วันนี้เราตื่นกันสายหน่อย และลงมารับประทานอาหารเช้าในช่วง 10 โมงก่อนที่ห้องอาหารจะปิด ถึงแม้จะลงมาช้า แต่ไลน์อาหารของที่นี่ก็ยังแน่น และเติมให้อยู่ตลอดทีเดียว หลังจากกินข้าวเช้ากันเรียบร้อยแล้ว เราก็เข้าห้องพักเก็บสัมภาระเพื่อเช็คเอ้าท์ตอนเที่ยง การเดินทางวันนี้เราจ้างแท็กซี่พาเที่ยวแบบเหมา 3 ชั่วโมง 90 ริงกิต

โดยที่แรกที่เราไปเช็คอินคือไร่ชา BOH ไร่ชาพื้นที่สุดกว้างขวางกว่า 10,000 ไร่ ที่เราสามารถมองเห็นวิวไร่ชาบนเนินเขาเล่นระดับได้แบบสุดสายตาทีเดียว 

นอกจากไร่ชาสวยๆ แล้ว ที่นี่ยังมีร้านคาเฟ่บนเนินเขาวิวสวย ที่เราได้จิบชา ดื่มกาแฟ และกินเค้กอร่อยๆ สไตล์คาเมรอนไฮแลนด์กันแบบเพลินๆ

เมนูแนะนำให้ลองชีสเค้กที่โรยหน้าด้วยพริกแห้งและปลากรอบ อร่อยแบบแปลกๆ ดีฮะ

หลังจากนั้นก็ถ่ายรูปกันเพลินๆ ตามจุดต่างๆ ก่อนจะขึ้นรถแท็กซี่ เพื่อไปยังที่เที่ยวต่อไปของเรานั่นคือ Rose Valley สวนดอกไม้ริมทาง สำหรับที่นี่จะมีค่าเข้าคนละ 5 ริงกิต ข้างในสวนจะดอกไม้หลากหลายสายพันธุ์ทีเดียว

บรรยากาศภายในสวนดอกไม้

และสำหรับคนที่แพ้ยุง แนะนำให้ทายากันยุงก่อนเข้ากันสักนิดฮะ เพราะที่นี่ยุงเยอะมาก

เราใช้เวลาอยู่ที่นี่กันสักพัก ก็ออกเดินทางไปยังที่เที่ยวต่อไปที่ “Cameron Lavender Garden” อีกหนึ่งสวนดอกไม้สวย ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเช็คอินกัน ราคาค่าเข้าจะอยู่ที่คนละ 10 ริงกิต ภายในสวนจะมีดอกวาเลนเดอร์นำเข้ามาจากฮอกไกโดปลูกเป็นแปลงยาวไล่ระดับบนเนินเขา มีจุดถ่ายรูปน่ารักๆ มีร้านไอติมลาเวนเดอร์ให้เราได้อิ่มอร่อย

ถัดไปจะเป็นโซนร้านอาหารและมุมถ่ายรูปกับปราสาทสีม่วง และยังมีแปลงสตอร์วเบอรี่ ให้เราได้เดินชมอีกด้วย 

สำหรับที่นี่จะมีพื้นที่จัดการได้สวยทีเดียว มีโซนของฝาก และร้านอาหารหลายร้านทีเดียว

หลังจากแวะชิมและถ่ายรูปเล่นกันจนเพลิน เราก็เตรียมออกเดินทางไปยังที่พักของเราในคืนนี้ ซึ่งก็ถึงเวลาเช็คอินพอดีฮะ สำหรับที่นี่จะเช็คอินบ่ายสามโมง และเช็คเอ้าท์เที่ยง และที่พักในคืนนี้ของเรา  “KEA Garden” ที่พักพร้อมสวนดอกไม้แสนสวย แถมบริเวณด้านหน้าทางเข้าที่พักยังเป็นจุดช้อปปิ้ง เลือกซื้อเลือกหาอาหารพื้นเมืองอีกด้วย…

ช่วงเย็นเราจึงเดินเล่นใกล้ๆ ที่พัก ซึ่งเป็นไร่ดอกไม้ ผัก ผลไม้ของชาวบ้าน สวยงามไปอีกแบบ

ส่วนเรื่องอาหารการกินจะมีห้างสรรพสินค้าใกล้ๆ หรือถ้าอยากชิมอาหาร Local ด้านหน้าทางเข้าที่พักก็มีให้เลือกอร่อยหลายร้านทีเดียว


Day: 4 | คาเมรอนไฮแลนด์ – ปีนัง – กรุงเทพฯ 

วันนี้เรานัดแท็กซี่ให้ไปส่งที่สถานีขนส่งแถว Tanar Rata ในช่วง 9 โมงเช้า เพื่อเดินทางกลับไปปีนัง และนั่งเครื่องกลับกรุงเทพฯ ในช่วงเย็น หากใครที่มีเวลาเที่ยวอีกหนึ่งวัน แนะนำให้หาซื้อตั๋วไปเที่ยวกัวลาลัมเปอร์ก็ได้อีกฟีลลิ่งหนึ่ง แต่เนื่องจากเวลาของเราไม่พอ ทริปนี้เลยขอตีตั๋วกลับปีนังเพื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯกัน

เมื่อมาถึงปีนังรถบัสจะไปส่งเราที่ สถานีบัตเตอร์เวิร์ค เราสามารถนั่งเรือเฟอรี่ชมวิวทะเล แล้วมานั่งรถเมล์สาย E403 ไปยังสนามบิน ซึ่งจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงนิดๆ

ค่าเรือเฟอรี่คนละ 1.20 ริงกิต

 

ใครที่กำลังวางแผนไปเที่ยวปีนัง รีวิวนี้ได้แนะนำที่เที่ยวทั้งในเมืองปีนังและนอกเมืองไว้หลายที่ ทีเดียว และที่สำคัญการเดินทางในปีนังยังสะดวกสบาย มีรถสาธารณะให้บริการทุกเส้นทาง มีสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ ให้เราสามารถเดินเที่ยวได้แบบเพลินๆ อีกด้วย

 


ผู้เขียน

admin tripgether
สัญญาว่าจะเที่ยวให้ดีที่สุด!!

เรื่องที่คุณอาจสนใจ