เชียงคาน 3 วัน 2 คืน เช็คอินเมืองน่ารักริมโขง ใช้ชีวิต Slow Slow เสพความสุขแบบฟินๆ งบไม่เกิน 2,500 บาท
250,690 ครั้ง
26 ธ.ค. 2560
250,690 ครั้ง
26 ธ.ค. 2560
เชียงคาน เมืองเล็กๆ ริมโขงที่อยากชวนไปเที่ยวไปเช็คอิน เพราะเมืองนี้ไม่ได้มีแค่บ้านเรือนสุดชิคริมน้ำ แต่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมายให้เราได้เช็คอิน ที่รับรองว่าได้ไปแล้วจะต้องตกหลุมรักเมืองเล็กๆ แห่งนี้อย่างแน่นอน ถ้าพร้อมแล้วไปส่องที่เที่ยว ที่พักในรีวิวนี้กันเลย…
วันแรกเราออกเดินทางกันแต่เช้า มุ่งหน้าสู่จังหวัดเลยด้วยรถยนต์ส่วนตัว ซึ่งจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 ชั่วโมง สำหรับการเดินทางไปยังเชียงคาน จ.เลย มีหลายวิธีด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องบิน ซึ่งปัจจุบันมีสายการบิน Low Cost หลายสายเปิดให้บริการไปยังสนามบินจังหวัดเลย ซึ่งจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง หรือถ้าใครอยากเดินทางด้วยรถสาธารณะก็มีรถทัวร์ให้บริการเช่นกัน โดยจะใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 9 ชั่วโมง – 10 ชั่วโมง
ช่วงบ่ายเราเดินทางมาถึงเชียงคาน คืนแรกเราได้เช็คอินกันที่ The Old Chaingkhan เป็นที่พักสไตล์บูติกที่ผสมผสานกับสไตล์ล้านนาได้อย่างลงตัว และด้วยทำเลที่ตั้งที่อยู่ชิดริมโขงและถนนคนเดิน ที่นี่จึงสะดวกสบายเป็นที่สุดสำหรับการไปท่องเที่ยวยังจุดต่างๆ นอกจากนี้ที่พักยังมีจักรยานฟรีให้ยืมปั่นเล่นชมวิวแม่น้ำโขงอีกด้วย
แต่ก่อนที่เราจะไปชมบรรยากาศเมืองเชียงคาน ขอแวะพาไปชมบรรยากาศภายในห้องพักกันก่อน ห้องพักที่นี่จะมีให้เลือกหลายแบบ หลายราคาด้วยกัน แต่ถ้าให้แนะนำห้องที่สวยที่สุดก็คงหนีไม่พ้น ห้องพักวิวแม่น้ำโขง ซึ่งใครสนใจที่พักเชียงคาน The Old Chaingkhan แห่งนี้ ก็สามารถเข้าไปเช็คราคาและห้องว่างได้ที่ Traveloka หรืออยากจะค้นหาที่พักเชียงคานอื่นๆ ก็คลิกไปได้เลย
จองที่พักเชียงคานกับ Traveloka คลิกที่นี่
ภายในห้องพักมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์ เครื่องปรับอากาศ เครื่องทำน้ำอุ่น และอื่นๆ อีกเพียบ นอกจากนี้ยังมีระเบียงส่วนตัวให้นั่งชมวิวเพลินๆ ได้แบบไม่รู้เบื่ออีกด้วย
หลังจากสำรวจห้องพักและเก็บสัมภาระเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาเดินเที่ยวถนนคนเดิน ว่าแล้วก็ขอแวะไปช้อปและชิมเรื่อยๆ กันก่อนเลยจ้า
เมนูแนะนำของเชียงคานกุ้งแม่น้ำโขงย่างไม้ละ 20 บาท
หมูยอนึ่งพร้อมน้ำจิ้มสุดแซ่บ
ปาท่องโก๋ยัดไส้หมูสับราคา 30 บาท
หลังจากอิ่มอร่อย และเพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งที่ถนนคนเดินเชียงคาน คืนนี้ก็ถึงเวลาที่เราต้องรีบพักผ่อนเพื่อเตรียมตื่นเช้ามาตักบาตรข้าวเหนียวกัน โดยชุดตักบาตรสามารถแจ้งกับทางที่พักให้จัดเตรียมไว้ได้เลยค่ะ ชุดละ 50 บาท (รวมชุดผ้าซิ่น)
วันนี้เราตื่นกันประมาณตี 5.30 น. เพื่อเตรียมตัวมาตักบาตร ซึ่งพระจะเริ่มเดินก็ประมาณ 6 โมงเช้า
หลังจากตักบาตรเรียบร้อยก็เดินมาชมวิวหมอกที่ริมโขง ซึ่งอยู่ใกล้กับที่พักของเรามากๆ ค่ะ ซึ่งในช่วงหน้าหนาวแบบนี้ ได้เห็นหมอกลอยเหนือน้ำสวยงาม สบายตาสุดๆ
อิ่มเอมกับบรรยากาศยามเช้าเรียบร้อยแล้ว ก็มานั่งรับประทานอาหารที่ร้านซอยซาว หากใครพักที่ดิโอลด์ เชียงคาน จะมีคูปองอาหารให้มารับประทานอาหารที่ร้านนี้ฟรีค่ะ
เมนูแนะนำ ไข่กะทะ, ข้าวต้ม, ข้าวเปียกเส้น และโจ๊ก
หลังจากกินอาหารเช้าเรียบร้อย ก็จัดเตรียมเก็บกระเป๋าเพื่อเดินทางต่อไปยังภูทอก และสถานที่ท่องเที่ยวใกล้ๆ เชียงคานค่ะ สำหรับแพลนในวันนี้เราจะไปนอนกันที่เคียงภูแค้มป์ปิ้ง ซึ่งเป็นที่พักทางขึ้นภูทอกนั่นเอง แต่ก่อนที่จะเข้าที่พักก็ขอแวะเที่ยวที่แก่งคุดคู้ ซึ่งเป็นอีกจุดแลนด์มาร์คของเชียงคาน
แก่งคุดคู้ อยู่ห่างจากเชียงคานประมาณ 5 นาที สามารถเดินเล่นชมวิวสวยเรียบริมโขง และนั่งเรือชมวิวสองฝั่งแม่น้ำโขงระหว่างประเทศไทย และส.ป.ป ลาว ค่าเรือเหมาลำละ 800 บาท ใช้เวลาในการเที่ยวชมประมาณ 40 นาที
และเมื่อมาถึงแก่งคุดคู้ก็ต้องไม่พลาดแวะไปเที่ยวชมภูควายเงิน หรือ วัดพระพุทธบาทภูควายเงิน ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ที่ชาวเลยให้ความเคารพนับถือ
ซึ่งนอกจากจะได้ไหว้รอยพระพุทธบาทแล้ว ที่นี่ยังมีกระต่ายจำนวนมากให้เราได้ให้อาหารแบบใกล้ชิดอีกด้วย
หลังจากแวะเที่ยวแลนด์มาร์คของเชียงคานไปหลายที่ เราก็เตรียมเข้าที่พัก “เคียงภูแค้มป์ปิ้ง” ซึ่งอยู่ห่างจากเชียงคานประมาณ 10-15 นาทีเท่านั้น
เคียงภูแคมป์ปิ้ง เป็นที่พักสวย บรรยากาศสบายๆ ริมเขา มีห้องพักให้เลือกหลายแบบ หลายสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นห้องพักสำหรับกลุ่มใหญ่ 10 คน และห้องพักสำหรับเพื่อนสนิท และคู่รักริมบึงน้ำ
อีกทั้งที่นี่ยังมีลานกางเต็นท์ให้บริการอีกด้วย
สำหรับภายในห้องพัก ตกแต่งอย่างเรียบง่าย สะอาดสะอ้าน มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน มีโทรทัศน์ เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น เครื่องทำนำ้อุ่น และอื่นๆ อีกเพียบ
หรือถ้าใครอยากทำกิจกรรม ที่นี่ก็มีเรือถีบให้ปั่นเล่นอีกด้วยนะเออ ช่วงดึกถ้าอยากปิ้งย่าง ก็มาสามารถหาซื้อของมาทำกินกันได้เลย ที่นี่มีอุปกรณ์ให้ครบ และที่สำคัญที่พักแห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้ทางขึ้นภูทอกเพียง 500 เมตรเท่านั้น
วันนี้เราตื่นแต่เช้าเมื่อเตรียมขึ้นภูทอก ไปชมวิวทะเลหมอก ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คนที่ห้ามพลาดของเชียงคาน โดยนักท่องเที่ยวจะต้องซื้อบัตรขึ้นภู เที่ยวแรกตั้งแต่ 5.30 น. ราคาไป-กลับ 25 บาทต่อคน เมื่อมาถึงบริเวณลาดจอดด้านบนให้เดินต่อไปอีกประมาณ 100 เมตร จะเป็นจุดชมวิวทะเลหมอกภูทอก
ประมาณ 7 โมงเช้าหมอกจะเริ่มบางตาลง ก็สามารถลงมาหาของกินด้านล่างได้ ซึ่งจะมีทั้งหมูปิ้ง ข้าวต้ม โจ๊ก หมูยอปิ้ง หลายร้านให้เลือกทีเดียว รับประทานอาหารเช้าเสร็จก็สามารถเดินกลับที่พักได้เลย เพราะทางขึ้นภูทอกอยู่ห่างจากที่พักของเราเพียง 500 เมตรเท่านั้น
ช่วงสายก็ถึงเวลาที่เราจะเตรียมตัวเดินทางกลับกรุงเทพฯ และก่อนที่จะกลับเราได้แวะเที่ยวเทศกาลคริสต์มาสภูเรือ ซึ่งได้จัดสวนต้นคริสต์มาสไว้ได้อย่างสวยงามทีเดียวค่ะ
หากใครที่กำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวสุดชิลล์ รับลมหนาว เชียงคาน เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่ต้องแนะนำ เพราะนอกจากจะเป็นเมืองอากาศดีแล้ว เชียงคานยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่หากหลาย มีอาหารอร่อยๆ ให้เลือกชิม และที่สำคัญเมืองนี้ยังมีผู้คนที่น่ารัก ค่อยต้อนรับเราอยู่เสมอ เอาเป็นว่าถ้าเบื่อๆ เหงาๆ อยากชวนไปเที่ยวเชียงคานกันดูรับรองว่าคุณจะต้องแฮปปี้อย่างแน่นอน
รายละเอียดค่าใช้จ่าย
ค่าน้ำมันรถทั้งไปและกลับประมาณ 1,700 บาท
ค่าที่พักดิโอลด์ เชียงคาน 1 คืน 1,800 บาท
ค่าที่พักเคียงภูแค้มป์ปิ้ง 1 คืน 600 บาท
ค่าอาหาร ของกินจุ๊บจิ๊บประมาณ 1,200 บาท
ค่ารถขึ้นภูทอก 25 บาท
รวม 5,325 บาท (หารกับเพื่อนอีก 2 คน ประมาณคนละ 1,775 บาท)
Tripgether