วันนี้ทริปเก็ทเตอร์เอาข้อมูลและสาระสำคัญที่เชื่อว่าเป็นประโยชน์ต่อทุกคน และเชื่อว่าหลายๆ คนช่วงนี้วิตกกังวลว่าตัวเองติดเชื้อโควิดแล้วหรือยัง แต่สำหรับคนที่ติดโควิดแล้วยังมีคำถามต่อไปอีกว่าตอนนี้ตนเองอยู่ในกลุ่มไหน? อาการหนักหรือไม่? และมีภาวะเชื้อลงปอดหรือยัง มาดูกันดีกว่าว่ามีวิธีเช็คอาการโควิดลงปอดอย่างไร
โควิดลงปอด อาการเป็นอย่างไร ดูแลตนเองอย่างไร? เมื่อเชื้อโควิด-19 ลงปอด!
เดินไปมา ลุกยืนหรือลุกนั่ง 3 ครั้ง หรือ กลั้นหายใจ 10 – 15 วินาที หากทำแล้วเหนื่อย และวัดออกซิเจนในเลือดได้ต่ำกว่า 94 ลงไป ให้สงสัยว่าเชื้อโควิดลงปอดไว้ก่อน
เมื่อโควิด-19 ลงปอดแล้ว มีวิธีการดูแลตนเองอย่างไร
แนะนำให้ “นอนคว่ำ” ระหว่างรอเตียง
- การนอนคว่ำ เพื่อให้ปอดไม่มีการกดทับ และทำงานได้ดียิ่งขึ้น โดยวิธีการนอนคว่ำให้กอดหมอนไว้ที่หน้าอก เพื่อให้นอนสบายขึ้น
- ผู้ป่วยบางคน หากนอนคว่ำไม่ได้ หายใจไม่ออก ให้นอนกึ่งตะแคงกึ่งคว่ำ 45 องศามาทางเตียง
- กรณีที่ตั้งครรภ์ให้นอนตะแคงด้านซ้าย เพราะจะทำให้น้ำหนักของมดลูกไม่ไปกดเส้นเลือดดำใหญ่ ทำให้เลือดไหลเวียนได้สะดวก
ขยับขาบ่อยๆ เพื่อป้องกันการเกิดลิ่มเลือด
- พยายามเคลื่อนไหวขาบ่อยๆ เพื่อให้เลือดไหลเวียน และป้องกันการเกิดลิ่มเลือด เช่น ยืดงอขา หรือยืดเหยียดปลายเท้า เป็นต้น
ดื่มน้ำมากๆ รับประทานอาหารให้เพียงพอ
- ควรดื่มน้ำมากๆ ประมาณ 2 – 2.5 ลิตรต่อวัน แต่อย่าดื่มมากเกินไปเพราะจะส่งผลเสียทำให้เกลือแร่ในร่างกายเจือจางลง
- หากยังสามารถรับประทานอาหารได้ ให้พยายามรับประทานให้เพียงพอ
- ในกรณีที่รับประทานอาหารไม่ได้เลย ให้ดื่มน้ำเกลือแร่ทดแทน โดยเลือกเกลือแร่ประเภท เกลือแร่สำหรับผู้ป่วยท้องเสีย Oral Rehydration Salt (ORS) ซึ่งจัดเป็นผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ มีปริมาณเกลือแร่ เช่น โซเดียม (Sodium) เป็นหลัก ไม่สามารถใช้เกลือแร่สำหรับผู้ที่เสียเหงื่อจากการออกกำลังกายได้ เพราะอาจทำให้อาการหนักมากยิ่งขึ้น
รับประทานยาประจำตัวอย่างสม่ำเสมอ
- ไม่ควรงดการรับประทานยาประจำตัว อย่าขาดยา
- หากมีโรคประจำตัวที่ต้องรับประทานยาขับปัสสาวะอยู่ แล้วดื่มน้ำไม่ได้ ตรงนี้ให้งดยาไปก่อน
- หากรับประทานยาโรคความดันโลหิตสูงอยู่ ควรวัดความดันบ่อยๆ ถ้าพบว่าความดันต่ำกว่า 90/60 ควรงดยาความดันโลหิตสูง เพราะเราไม่ต้องการให้ความดันต่ำไปกว่านั้น ถ้าความดันต่ำมากจะอันตราย อาจช็อกหรือหมดสติได้
- หากรับประทานยาโรคเบาหวานอยู่ ควรตรวจน้ำตาลสม่ำเสมอๆ ตรวจ 4 เวลาแล้วจดไว้ ถ้าพบว่าน้ำตาลต่ำประมาณ 100 และทานอาหารไม่ได้ ทานได้น้อย ควรงดฉีดอินซูลิน หรืองดยากลุ่มที่ลดน้ำตาลในเลือด เพราะถ้ามีภาวะน้ำตาลต่ำในขณะที่ป่วยโควิดจะเป็นอันตรายได้
เตรียมยาพาราเซตามอล ไว้รับประทานเวลามีไข้
- ถ้ามีไข้ ให้รับประทานยาพาราเซตามอลเท่านั้น หากเริ่มมีไข้ต่ำๆ ให้รับประทานพาราฯ ได้เลย อย่ารอให้ไข้สูงหรือหนาวสั่น เพราะจะยิ่งทำให้ร่างกายอ่อนแอ *แต่ไม่แนะนำให้รับประทานยาลดไข้กลุ่ม NSAID เช่น ibuprofen, naproxen, mefenamic acid (Ponstan), diclofenac (Voltaren) เพราะอาจทำให้ไตวายได้*
- ยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจร/กระชายขาว รับประทานได้แต่ต้องทานตามปริมาณกำหนดของกรมการแพทย์แผนไทย *หากทานเกินปริมาณกำหนดอาจทำให้ตับวายได้*
- ส่วนผู้ป่วยโรคตับ ห้ามรับประทาน เพราะอาจทำให้ตับวายได้ หรือผู้ที่แพ้ยาพาราเซาตามอล แนะนำให้เช็ดตัวเพื่อลดไข้
ถ้าเหนื่อยมาก อย่าเข้าห้องน้ำ
- หากมีอาการเหนื่อยมาก อย่าไปเข้าห้องน้ำ เพราะการเบ่งถ่าย และลุกนั่งอาจทำให้เป็นลมหมดสติ หรือหัวใจหยุดเต้นได้ ควรขับถ่ายบริเวณข้างเตียงเลยดีที่สุด ใช้กระโถน กระดาษ หรืออะไรที่หาได้
- หากจำเป็นจะเข้าห้องน้ำ ห้ามล็อกประตูเด็ดขาด และควรบอกคนอื่น ๆ ในครอบครัวด้วย เนื่องจากมีหลายรายที่เหนื่อยแล้วไปเข้าห้องน้ำ เกิดเป็นลมและหัวใจหยุดเต้น
หมั่นติดต่อญาติ ครอบครัว หรือคนใกล้ชิดอย่างสม่ำเสมอ
ข้อมูลจาก : นายแพทย์ธนีย์ ธนียวัน อาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคปอด การปลูกถ่ายปอด และวิกฤติบำบัด สหรัฐอเมริกา
ขอบคุณบทความจาก : https://www.sikarin.com/health/โควิดลงปอด
บทความที่เกี่ยวข้อง
ตอนนี้อยู่ในระดับไหนแล้ว? ประเมินระดับความรุนแรงอาการของผู้ป่วยโควิด-19
Home Isolation ติดเชื้อโควิด-19 ต้องกักตัวที่บ้านทำอย่างไร?