One day trip กรุงเทพ | กิน เที่ยว แชะ! นั่งเรือกินเที่ยว 4 ท่าใน 1 วัน
19,635 ครั้ง
26 ม.ค. 2564
19,635 ครั้ง
26 ม.ค. 2564
วันหยุดชิลล์ๆ แบบนี้ ทริปเก็ทเตอร์ขอพาทุกคนมา กิน เที่ยว แชะ! นั่งเรือกินเที่ยวเลียบแม่น้ำเจ้าพระยากรุงเทพ 4 ท่าใน 1 วัน เก็บครบทุกจุดเช็คอิน ทั้งเที่ยวตลาด เที่ยวคาเฟ่ เที่ยววัด ปิดท้ายด้วยร้านนั่งชิลล์บนดาดฟ้า จะน่าไปตามรอยแค่ไหนเลื่อนลงมาดูเลยจ้า~
เปิดประเดิมกันที่ ท่าวังหลัง จะมาทางรถหรือมาทางเรือก็ได้ แต่ครั้งนี้เราเลือกที่จะนั่งเรือชิลล์ๆ สูดอากาศยามเช้าของกรุงเทพมากัน ย่านวังหลังแห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องของกินเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เพราะมีร้านอาหารหลากหลายแนวให้เลือก ไม่ว่าจะชอบแบบสตรีทฟู้ด ร้านอาหารญี่ปุ่น หรือร้านขนมต่างๆ บอกเลยว่าแต่ละร้านนั้น เด็ด ฉ่ำ มงลงแทบทุกร้าน! นอกจากนี้ยังมีร้านเสื้อผ้ามือสอง ของมือสองต่างๆ แทรกอยู่ตามตรอกซอกซอยเล็กๆ อีกด้วยนะ เรียกได้ว่าใครมาแล้วอิ่มท้องแถมได้ของติดไม้ติดมือกลับไปทุกคนแน่นอนจ้า
เรามาเริ่มกันที่ร้าน อรทัยซูชิ วังหลัง ร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดังที่เปิดมานานหลายสิบปี ตัวร้านแบ่งออกเป็น 2 โซน คือโซนซื้อกลับบ้าน และโซนนั่งกินที่ร้าน วันนี้มาถึงอรทัย ซูชิทั้งที เราเลยขอสั่งกินที่เลยสักหน่อยกับ ซูชิชุด D ราคา 89 บาท จัดเต็มมาทั้งซูชิ 5 หน้า และทาโกะยากิอีก 6 ชิ้น และเมนูข้าวแนะนำเลยอย่าง ข้าวหน้าแซลมอนย่าง+น้ำซุป ราคา 139 บาท แต่ถ้าใครอยากสั่งกลับบ้านก็สามารถเลือกเมนูได้ที่หน้าร้านได้เลยนะคะ อรทัยซูชิวังหลัง ที่อยู่ 102 ตรอกวังหลัง แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพ เปิดทุกวันเวลา 9.00 – 19.00 น. เบอร์โทร 02 117 9260
ซื้อกลับบ้านหน้าร้านได้เลย~
หรือจะนั่งหม่ำในร้านก็ได้
กินอิ่มแล้วเราก็มาเดินย่อยดูเสื้อผ้ากันต่อ ตลาดวังหลังแห่งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งแหล่งเสื้อผ้า และของมือสอง ใครไปสายวินเทจแนะนำเลยจ้า ราคาถูกน่าช้อปมาก~
มาต่อกันที่ร้านเบเกอรี่เก่าแก่ชื่อดังอย่าง วังหลังเบเกอรี่ ร้านนี้อยู่คู่วังหลังมากว่า 40 ปี มีขนมปังหลากหลายไส้ให้เลือก อบสดใหม่ตลอดเวลา ยิ่งเดินเข้าใกล้ร้านมากเท่าไหร่ยิ่งได้กลิ่นหอมของขนมปังที่อบร้อนๆ มากขึ้นเท่านั้น เป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ของร้านวังหลังเบเกอรี่เลยล่ะค่ะ เนื้อขนมปังของที่นี่จะมีความนุ่มเป็นพิเศษ ให้ไส้มาแบบจัดเต็ม ชิ้นใหญ่ ราคา 50 บาทเท่านั้น วังหลังเบเกอรี่ ที่อยู่ ห้องที่ 13 ตรอกวังหลัง แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพ เปิดทุกวันเวลา 8.00 – 19.30 น. เบอร์โทร 02 866 1649
ปิดท้ายย่านวังหลังกันที่ร้าน N10café คาเฟ่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ตั้งอยู่ในโรงแรม BAAN WANGLANG มีบริการทั้งเครื่องดื่ม และขนมหวานอย่างเบเกอรี่ต่างๆ เมนูแนะนำมาแล้วต้องลองคือ Iris Buster ราคา 125 บาท และขนมหวานอย่าง Lemon Mousse Pie ราคา 140 บาท บรรยากาศภายในร้านแบ่งออกเป็น 2 โซน คือ Indoor ในคาเฟ่ห้องแอร์เย็นฉ่ำ มีมุมถ่ายรูปชิคๆ อยู่เพียบ หรือใครอยากออกไปนั่งชิลล์ที่โซน Outdoor ริมน้ำก็คือฟีลดีไปอีกแบบ มาวังหลังแล้วมองหาร้านนั่งชิลล์ล่ะก็ปักหมุดที่นี่เลยจ้า N10café ที่อยู่ 342 ซอยวัดระฆัง แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพ เปิดทุกวันเวลา 9.00 – 20.00 น. เบอร์โทร 02 412 7234 อ่านรีวิวที่กินวังหลังเพิ่มเติมได้ที่ >> 7 ร้านเด็ดวังหลัง
คาเฟ่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา
โซน Indoor
จบจากท่าวังหลัง เราก็นั่งเรือด่วนเจ้าพระยามาต่อกันที่ ท่าวัดอรุณราชวราราม ในราคาคนละ 15 บาท วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร หรือที่รู้จักกันในนาม ‘วัดแจ้ง’ หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า ‘วัดอรุณ’ เป็นวัดโบราณสร้างในสมัยอยุธยา ที่ชื่อวัดแจ้งเพราะว่าสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงตั้งราชธานีที่กรุงธนบุรีและได้เสด็จมาถึงหน้าวัดนี้ตอนรุ่งแจ้ง
ที่นี่โดดเด่นในเรื่องสถาปัตยกรรมที่วิจิตรสวยงามและตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองไทยมาอย่างยาวนาน นอกจากจะเป็นที่เคารพบูชาของคนไทยแล้ว ที่นี่ยังเป็นสถานที่ถ่ายรูปยอดฮิตของสาวๆ ทั้งหลายอีกด้วย เพราะมีมุมถ่ายรูปสวยๆ กับสถาปัตยกรรมและกระเบื้องวัดที่สร้างขึ้นอย่างประณีตวิจิตรแบบสุดๆ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ที่อยู่ 158 ถนนวังเดิม แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพ เปิดทุกวันเวลา 8.00 – 17.30 น.
อิ่มบุญกันเป็นที่เรียบร้อย เราก็นั่งเรือจากอนุสรณ์ท่าเรือคุณแม่เผือก คนละ 4 บาท ข้ามฟากไปยังท่าเตียน เพราะเราจะแว้บไปเช็คอินที่คาเฟ่มะม่วงสุดชิคกับร้าน Make me mango หรือใครจะมาทาง Mrt ก็สามารถลงที่สถานีสนามไชย ทางออก 1 ได้นะคะ
ที่นี่เป็นคาเฟ่เล็กๆ แต่มี 3 ชั้นให้เลือกนั่งชิลล์ตามใจชอบ มีมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองเป็นพระเอกชูโรง และมีหลากหลายเมนูให้เลือกชิม ทั้งเครื่องดื่มและขนมหวาน วันนี้มาทั้งทีเราเลยขอสั่งเมนูขายดีอย่าง Mango Bingsu ราคา 265 บาท บิงซูนมท็อปปิงด้วยมวิปครีม และม่วงน้ำดอกไม้ เสิร์ฟมาคู่กับมะม่วงน้ำดอกไม้ทั้งลูกที่หั่นมาแบบพอดีคำ ไอศกรีมมะม่วง ซอสมะม่วง และนมข้นหวาน Make me mango ที่อยู่ 67 ซอยท่าเตียน แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพ เปิดวัน ศุกร์ – พุธเวลา 10.30 – 20.00 น. (ปิดวันพฤหัสบดี) เบอร์โทร 02 622 0899
แวะเช็คอินคาเฟ่ท่าเตียนสุดชิคกันเสร็จแล้วเราก็มาปิดท้ายกันที่ท่าพระอาทิตย์ เดินผ่านสวนสาธารณะสันติชัยปราการก็จะเจอกับร้าน แจ่มจันทร์ บาร์ & บิสโทร รูฟท็อปบาร์ย่านพระอาทิตย์ชื่อดังที่เปิดมานานหลายสิบปี บรรยากาศด้านบนสามารถมองเห็นวิวกรุงเทพยามค่ำคืนได้แบบ 180 องศา ร้านตั้งอยู่ชั้นบนโรงแรม Jam Hostel สามารถมองเห็นวิวป้อมพระสุเมรุ และสะพานพระราม 8 ได้อีกด้วย
สวนสาธารณะสันติชัยปราการ
ปิดท้ายค่ำคืนด้วยเมนูแนะนำอย่าง กุ้งทอดราดซอสมะขาม ราคา 165 บาท และ เวอร์จิ้น โมจิโต้ ราคา 140 บาท จิบเครื่องดื่มไปชมวิวกรุงเทพยามค่ำคืนไปเป็นอะไรที่โรแมนติกมากๆ ค่ะ แจ่มจันทร์ บาร์ & บิสโทร ที่อยู่ ถนนพระสุเมรุ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพ เปิดทุกวันเวลา 18.00 – 01.00 น.
จบกันไปแล้วนะคะกับ One day trip กรุงเทพ | กิน เที่ยว แชะ! นั่งเรือกินเที่ยว 4 ท่าใน 1 วัน ใครอยากไปตามรอยแบบเราในช่วงนี้ก็อย่าลืมใส่แมสเว้นระยะห่างกันน้า และถ้าใครไม่อยากพลาดทริปกินเที่ยวดีๆ แบบนี้ก็อย่าลืมกดติดตาม กดไลค์ กดแชร์เพจ ทริปเก็ทเตอร์ กันด้วยนะคะ แล้วเจอกันใหม่ทริปหน้าบ๊ายบาย!~
สรุปค่าใช้จ่าย One day trip นั่งเรือกินเที่ยว (1 คน)
ค่าเรือ 4 ท่า: 49 บาท
ค่าอาหาร และเครื่องดื่มร้านอรทัยซูชิ: 258 บาท
ค่าขนมปัง วังหลังเบเกอรี่ 3 ชิ้น: 150 บาท
ค่าเบเกอรี่ และเครื่องดื่ม N10café: 265 บาท
ค่าบิงซูร้าน Make me mango: 265 บาท
ค่าอาหาร และเครื่องดื่มแจ่มจันทร์ บาร์ & บิสโทร : 305 บาท
รวมทั้งหมด 1,292 บาท