2 วัน 1 คืน ชวนเที่ยวแบบไม่มึนที่พิดโลก นอนแค้มป์กลางหุบเขา ดูดาวสวย ชมหมอกแน่นแต่คนน้อย!
236,792 ครั้ง
4 ม.ค. 2561
236,792 ครั้ง
4 ม.ค. 2561
ใครที่กำลังมองหาที่เที่ยวแบบไม่ใกล้ ไม่ไกล รีวิวนี้เราจะพาไปลุยเที่ยวที่พิษณุโลก เมืองท่องเที่ยวนอกกระแส แต่มีดีน่าเที่ยวหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติสวยๆ วัฒนธรรมงามๆ รวมถึงเมืองนี้ยังมีอะไรเด็ดๆ อีกมากมายที่น่าชวนเพื่อน พาแฟนไปเปิดมุมมองใหม่ๆ ที่เมืองพิดโลกกันดูค่ะ
จากกรุงเทพฯ เราเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว จะใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง ซึ่งระหว่างทางก็แวะเข้าห้องน้ำ เติมน้ำมัน และพักกินข้าวกันระหว่างทางกันให้อิ่มหนำแบบไม่รีบ ประมาณบ่ายสองนิดๆ เรามาเช็คอินที่จุดแรกที่บ้านมุงเนินมะปราง ซึ่งเป็นแลนด์มาร์คสุดเก๋ไก๋ของพิษณุโลก จนเป็นที่กล่าวขานว่าเป็นกุ้ยหลินเมืองพิษณุโลกเลยทีเดียว
บ้านมุง เนินมะปรางมีอะไรให้เที่ยว? เราขับรถวนเวียนถ่ายรูปเล่นกับทุ่งนา ทุ่งข้าวโพด โดยมี Backgroud เป็นฉากหลังของภูเขาหินปูนรูปร่างแปลกตาที่สูงเสียดฟ้า เรียงรายกันเป็นหน้ากระดาน หรือถ้าใครอยากเช็คอินร้านเก๋ๆ ตอนนี้ก็มีทั้งโฮมสเตย์ ร้านคาเฟ่เล็กๆ ของชาวบ้านเปิดให้บริการเช่นกัน
ถ่ายรูปกันจนเพลิน เผลอแพร้บเดียว! ก็จะสี่โมงเย็นแล้วค่ะ เราเลยขับรถไปยังที่พักของเราในคืนนี้ที่บ้านรักไทยคือ “จัมทรา แคมป์ปิเนส” เป็นที่พักเปิดใหม่สไตล์แค้มป์ปิ้งสุดชิค แนวโบฮีเมียน ตั้งอยู่บนเนินเขาสุดส่วนตัวทีเดียว
เมื่อเข้ามาภายในที่พักบรรยากาศค่อนข้างสงบ เพราะที่นี่มีแค้มป์ให้บริการเพียง 3 หลังเท่านั้น ใครที่สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่นี่เลย “จัมทรา แคมป์ปิเนส”
หรือถ้าใครอยากไปกางเต้นท์นอนชิลล์ๆ ที่นี่ก็มีลานกางเต็นท์รองรับได้ถึง 30 คน คิดราคาเพียงคนละ 100 บาท แต่ต้องเตรียมอาหารมาทำกินเองนะคะในวันธรรมดา จันทร์ – ศุกร์ หากเป็นวันเสาร์ – อาทิตย์ ร้านอาหารภายในแค้มป์จะเปิดให้บริการลูกค้านอกที่ไม่ได้นอนแค้มป์ด้วย
เข้ามาชมบรรยากาศภายในแค้มป์กันบ้าง ด้านในจะตกแต่งในสไตล์โบฮีเมียน มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันทีเดียว มีไฟฟ้าให้แสงสว่างตลอดคืน มีที่ชาร์ต USB มีพัดลม มีผ้าเช็ดตัว สบู่ ยาสระผม จัดเตรียมไว้ให้เป็นอย่างดี และที่สำคัญเตียงที่นี่นุ่มมากระดับ 5 ดาวเลยเธอ!
หลังจากชื่นชมบรรยากาศที่พักกันจนหนำใจ ก็ถึงเวลารับประทานอาหารเย็นพอดีค่ะ โดยอาหารที่นี่จะเป็นชาบู สุกี้ยากี้ แบบบุฟเฟ่ต์ที่คุณสามารถเติมได้ไม่อั้น ราคาจะถูกรวมอยู่กับห้องพักเรียบร้อยแล้วค่ะ ทั้งอาหารเย็น และอาหารเช้า
Welcome Drink
วันนี่เราตื่นกันแต่เช้า เพื่อมารอหมอกหนาๆ หน้าที่พัก แต่เนื่องจากบริเวณที่เราอยู่เป็นช่องระหว่างช่องเขา จึงทำให้มีลมพัดเข้ามาตลอด หมอกจึงลอยมาไม่ถึงสักที คุณจั้มเจ้าของแค้มป์ จึงชวนไปเที่ยวชมหมอกที่บริเวณจุดชมวิวบ้านเผ่าไทย ซึ่งห่างจากที่พักประมาณ 9 กิโลเมตรค่ะ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 – 15 นาทีเท่านั้น
ทางเข้าที่นี่จะค่อนข้างโหดหน่อย รถเก๋งเล็กๆ ไม่แนะนำค่ะค่อนข้างอันตราย เพราะเป็นหลุมตลอดทาง และเมื่อมาถึงก็ไม่ผิดหวังจริงๆ เพราะจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงาม แถมยังมีสายหมอกลอยมาให้เราได้สัมผัสอยู่แค่เอื้อมอีกด้วย
ทะลหมอกไหลมาเรื่อยๆ ให้ชื่นใจ
เราใช้เวลาอยู่ที่จุดชมวิวบ้านเผ่าไทยกันสักพัก ก็เดินทางกลับมายังที่พักเพื่อรับประทานอาหารเช้า ซึ่งเมนูข้าวจะมีข้าวต้มหมู และไข่กะทะให้เราได้อิ่มอร่อย สามารถเติมได้ตลอดอีกด้วย
หลังจากอิ่มกับมื้อเช้าก็ขออาบน้ำ แต่งหน้าแต่งตาเตรียมไปถ่ายรูปเล่นกันต่อ สำหรับห้องน้ำที่นี่จะเป็นห้องน้ำรวมมี 3 ห้องด้วยกัน ไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น
ประมาณสิบโมงเราก็ออกเดินทางกันต่อ โดยจุดต่อไปที่เราจะแวะไปเช็คอินกันคือ บ้านสวนชมวิวหรือที่หลายๆ คนรู้จักกันดีในชื่อต้นไม้รูปหัวใจ ซึ่งจากที่พักเราเดินทางไปเพียง 10-15 นาทีเท่านั้นค่ะ
บ้านสวนชมวิว เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คของเนินมะปราง พิษณุโลกที่ต้องมาชมต้นไม้รูปหัวใจ ที่ตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยวบนเนินเขา ซึ่งที่นี่จะเสียค่าเข้าชมคนละ 10 บาท ด้านในมีร้านอาหาร ร้านกาแฟให้บริการ มีเคเบิ้ลชิงช้าให้นั่งคนละ 20 บาท มีจุดชมวิวบนต้นไม้ให้ถ่ายรูปเล่นกันเพลินๆ แต่เนื่องจากเป็นวันหยุดอาจต้องรอคิวนานหน่อย เพราะสามารถขึ้นได้แค่ครั้งละ 7 คนเท่านั้น
ถ่ายรูปเล่นกันจนเพลิน เราก็เดินทางกันต่อเลยค่ะ ได้ยินมาว่าที่นี่มีฟาร์มกวางให้เที่ยวชม เราจึงเดินทางกันต่อ จากบ้านสวนชมวิวให้ขับรถกลับทางเดิม แล้วเลี้ยวซ้ายขับตามทางไปเรื่อยๆ จนเห็นป้ายฟาร์มภักดี ก็ถึงแล้วค่ะ
ฟาร์มภักดี มีร้านอาหาร ร้านสเต็ก ร้านกาแฟ มีสวนกวางให้เที่ยวชมและให้อาหาร
กวางที่นี่จะมีทั้งหมด 100 กว่าตัว มี 4 สายพันธ์ุด้วยกัน แบ่งออกเป็น 2 โซน คืนโซนกวางหนุ่มและกวางเด็ก โดยโซนกวางเด็กมีดาวเด่นเป็น น้องปีใหม่, สายหมอก และสอยดาว ที่เราสามารถเดินเข้าไปเล่น ลูบหัว และให้อาหารได้แบบใกล้ชิด
น้องปีใหม่
ส่วนอีกฝั่งจะเป็นกวางหนุ่ม ด้านนี้เราต้องให้อาหารจากด้านนอกเท่านั้น
เดินเล่นกันจนเหนื่อย เพราะที่นี่มีพื้นที่กว้างขวางมาก ใครที่อยากมาให้อาหารกวางอย่างใกล้ชิด แนะนำที่นี่เลย หรือถ้าอยากมานอนชิลล์ รอดูดาว และชมสายหมอกก็มีเต้นท์ที่พักให้บริการเช่นกันค่ะ
จากฟาร์มภักดีไปไม่ไกล เราเห็นป้ายแนะนำชวนเที่ยวทุ่งดอกทานตะวันที่ภูผาหมอกรีสอร์ท เลยแวะเข้าไปดูกันสักหน่อยค่ะ แต่เนื่องจากก่อนหน้านี้ฝนตกลงมาอย่างหนัก จึงทำให้ต้นทานตะวันล้มตายหมด แต่ก็ได้แวะเช็คอินร้านคาเฟ่ริมเนินเขา บรรยกาศชิลล์ๆ แทนค่ะ
เป็นร้านกาแฟเล็กๆ ในภูผาหมอกรีสอร์ท มีเมนูเครื่องดื่มให้เลือกสั่งเยอะทีเดียว
สำหรับทริปเที่ยวพิษณุโลกแบบชิลล์ๆ 2 วัน 1 คืน เป็นอีกหนึ่งทริปที่อยากแนะนำให้ลองมาเที่ยวกันดู เพราะนอกจากจะใช้เวลาเดินทางไม่นานมากแล้ว เมืองนี้ยังอากาศดี มีสถานที่ท่องเที่ยวเก๋ๆ ให้เช็คอินเพียบไม่ว่าจะเป็นกุ้ยหลินเมืองพิษณุโลก บ้านมุง เนินมะปราง, ต้นไม้รูปหัวใจ บ้านสวนชมวิว, จุดชมวิวบ้านเผ่าไทย, และฟาร์มกวางสุดโซคิ้ว เอาเป็นว่าทำงานเหนื่อยๆ อยากออกไปชาร์ตแบตแนะนำให้แปะที่นี่ไว้ลิสต์กันดู รับรองว่าจะติดใจ!
ป.ล. ทริปนี้ไม่ค่อยได้เข้าร้านอาหารเท่าไหร่
หิวเมื่อไหร่ก็แวะร้านข้างทาง
จึงไม่ค่อยได้แนะนำร้านอาหารค่ะ ต้องขออภัยล่วงหน้า