2 วัน 1 คืน เที่ยวอยุธยา นอนฟิน เช็คอินร้านอร่อย เมืองนี้ไม่ได้มีดีแค่วัด
71,597 ครั้ง
16 ก.ค. 2564
71,597 ครั้ง
16 ก.ค. 2564
พระนครศรีอยุธยา เมืองน่าเที่ยวใกล้กรุงที่เหมาะมากสำหรับคนที่มีวันหยุดน้อย ไม่ว่าจะหยุดเสาร์ – อาทิตย์ หรือหยุดเดียวก็สามารถเที่ยวแบบ One Day Trip ได้ เพราะขับรถจากกรุงเทพ – อยุธยา ใช้เวลาเดินทางแค่ชั่วโมงนิดๆ เท่านั้น ถ้าพูดถึงอยุธยาเชื่อว่าหลายคนจะถึงแต่วัดวาอาราม หรือภาพตามหนังสือเรียนประวัติศาสตร์ ใช่แล้ว! แต่ไม่ใช่ทั้งหมดเพราะเมืองนี้มีทั้งที่พักสวยๆ คาเฟ่บรรยากาศดีๆ และร้านอาหารอร่อยๆ มากมาย ลองมาสักครั้งแล้วจะรู้ว่าเมืองนี้ไม่ได้มีดีแค่วัด กับทริป 2 วัน 1 คืน เที่ยวอยุธยา นอนฟิน เช็คอินร้านอร่อย เมืองนี้ไม่ได้มีดีแค่วัด
วันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ทั้งที จะปล่อยตัวอยู่แต่ในห้องก็อย่างไรอยู่ เลยอยากไปปล่อยตัว ปล่อยใจใกล้ๆ กรุงเทพกันหน่อย ไม่รอช้าเราปักหมุดไปอยุธยากันช่วงสายๆ เริ่มออกเดินทางกันตั้งแต่เวลา 08.00 น. ซึ่งการเดินทางไปอยุธยาใช่เวลาแค่ชั่วโมงนิดๆ เท่านั้น ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าทริปนี้เราเน้นปล่อยใจเที่ยวชิลล์ๆ กิน นอน และไหว้พระ ตามแบบฉบับของการเที่ยวอยุธยา และเมื่อเดินทางมาถึงที่แรกที่เราไปเช็คอินคือ บ้านข้าวหนม
บ้านข้าวหนม คาเฟ่ขนมไทยไซส์มินิที่เรียกได้ว่าเป็นคาเฟ่ที่คนอยุธยาแนะนำว่าต้องมาเช็คอิน กินขนมไทยสูตรดั้งเดิมที่นี่ให้ได้สักครั้ง ตัวร้านหาไม่ยากตั้งอยู่ตรงข้าม กองการประปา นครพระนครศรีอยุธยา หรือปักหมุด Google Map มาก็ได้
เมื่อเข้ามาภายในร้านจะได้สัมผัสกับบรรยากาศของกลิ่นอายความเป็นไทยวินเทจผสมผสานกับสไตล์โมเดิร์นได้อย่างลงตัว เพิ่มกิมมิคน่ารักๆ ด้วยอิฐและเฟอร์นิเจอร์ไม้ ภายในตัวร้านกว้างขวางรับรองว่าสายหวาน สายขนมเดินเลือกเมนูอร่อยกันเพลินอย่างแน่นอน และใช่! เราสองคนก็เป็นสายหวานเหมือนกันว่าแล้วไม่รอช้า สั่งเมนูอร่อยๆ มากินกัน
สำหรับเมนูขนมไทยของที่นี่มีให้เลือกหลากหลายเมนู แต่ละเมนูหากินยาก และบางเมนูหากินได้ที่นี่เท่านั้น แพ็คเก็จต่างๆ ก็น่ารักมาก บอกเลยว่านั่งกินที่ร้านไม่พอ ต้องซื้อกลับติดไม้ติดมือกลับไปด้วย
สำหรับวันนี้เราสั่งเมนู หยกมณี ขนมขี้หนู เครื่องดื่ม กาแฟบ้านข้าวหนม และ ชาเขียวหลงยุค (หลงเสน่ห์กรุงศรีอยุธยา)
และเมนูแนะนำ ที่บอกเลยว่าห้ามพลาดคือ ไอติมหลงยุค ซึ่งเป็นเมนูชูโรงของร้าน ไอติมประยุกต์ชาไทย ชาเย็น ท็อปด้วยทองม้วน ฝอยทอง และถั่วบด ที่สายขนมหวานอย่างเราไม่ควรพลาด
กินพอหอมปากหอมคอเราก็มาหามุมสวยๆ ถ่ายรูปกันก่อนจะปักหมุดไปต่อกันที่ วัดมหาธาตุ อีกหนึ่งวัดไฮไลท์ของอยุธยาตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติพระนครศรีอยุธยา บอกเลยว่าถ้ามาอยุธยาแล้วไม่มาที่วัดนี้ถือว่าพลาดมาก
และไฮไลท์ของวัดมหาธาตุคือ เศียรพระพุทธรูปที่มีอายุมากกว่าร้อยปีที่อยู่ในรากโพธิ์ด้านข้างวิหาร ตามประวัติศาสตร์คาดว่าเศียรพระพุทธรูปน่าจะร่วงหล่นลงมาตั้งแต่สมัยเสียกรุงศรีอยุธยา เมื่อกาลเวลาผ่านไปรากของต้นโพธิ์จึงปกคลุมเศียรพระ ซึ่งเป็นความสวยงามระหว่างศิลปะที่มนุษย์สร้างขึ้นและความสวยงามทางธรรมชาติ
บริเวณรอบๆ มีต้นไม้สูงใหญ่ร่มรื่น นอกจากนี้ยังมี พระปรางค์องค์ใหญ่ เจดีย์แปดเหลี่ยม และวิหารฐานชุกชี ให้ชมอีกด้วย
และไปต่อกันที่ วัดพระงาม วัดเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ทางเกาะด้านทิศเหนือ ซึ่งวัดแห่งนี้มีจุดเด่นอยู่ที่ซุ้มประตูที่อยู่บริเวณทางเข้าวัด ด้วยความที่กาลเวลาผ่านมานับร้อยปีทำให้รากโพธิ์ขึ้นปกคลุมเป็นภาพที่สวยงามและอเมซิ่งสุดๆ
และแน่นอนว่าเราไม่รอช้า เดินชมบรรยากาศและถ่ายรูปกันอย่างเพลิดเพลิน ยิ่งถ้าเพื่อนๆ คนไหนมาถึงในช่วงเย็นก็มีโอกาสได้เห็นแสงพระอาทิตย์ที่สอดส่องผ่านซุ้มประตูแห่งนี้ สมกับชื่อที่ถูกเรียกขึ้นมาใหม่ว่าเป็น ประตูแห่งกาลเวลา
เผลอแป๊บเดียวก็ถึงช่วงกลางวันแล้ว วันนี้เราสองคนขอตัวไปฝากท้องฝากความหิวไว้ที่ คาเฟ่ รีทรีต อยุธยา ที่ตั้งอยู่ภายใน Ayutthaya Retreat คาเฟ่ ร้านอาหาร และที่พัก ที่รีโนเวทเรือนไทยโบราณอายุกว่า 70 ปี ให้กลายเป็นคาเฟ่และร้านอาหารน่านั่งริมสระบัว
บรรยากาศภายในร่มรื่นไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ และมีที่นั่ง มุมพักผ่อนให้เลือกมากมายทั้งโซนห้องแอร์ โซนริมสระบัว ซึ่งแน่นอนว่าเราเลือกนั่งโซนริมสระบัวเพราะบรรยากาศชิลล์สุดๆ
สำหรับเมนูอาหารที่เราสั่งมาวันน้ีมีทั้ง พิซซ่ามาการิต้า ต้มกระทิสายบัว เครื่องดื่ม อุทัยทิพย์ฮันนี่เลม่อน คาราเมลอัญชันสายไหม และเบเกอรี่อย่าง เค้กมะพร้าวอ่อน
นั่งชิลล์ริมน้ำกินเมนูอร่อยๆ อย่างเพลิดเพลิน ด้วยความที่ตัวร้านเป็นเรือนไทย ทำให้เราสองคนได้ฟีลของความเป็นอยุธยาได้เป็นอย่างดี
หลังจากกินเมนูอร่อยๆ กันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็พร้อมเที่ยวกันต่อ เราปักหมุดไปกันท่ี วัดไชยวัฒนาราม วัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา เก่าแก่กว่า 389 ปี เป็นวัดที่สร้างขึ้นโดยพระสรรเพชญ์ที่ 5 โดดเด่นด้วยพระปรางค์ศรีรัตนมหาธาตุ ปรางค์ประธานที่ตั้งอยู่บริเวณตรงกลาง และมีสถาปัตยกรรมแบบศิลปะขอม
วัดไชยวัฒนาราม เปิดให้เข้าชมตั้งแต่ 07.30 – 16.00 น. ค่าเข้าคนละ 10 บาทเท่านั้น เมื่อเดินเข้ามาจะได้พบกับความยิ่งใหญ่และอลังการ
อีกหนึ่งไฮไลท์คือ ระเบียงคต ที่เรียงรายไปด้วยพระพุทธรูปกว่าร้อยองค์ เราสองคนเดินหามุมถ่ายรูปกันอย่างเพลิดเพลิน บอกเลยว่าไม่ว่าจะหันกล้องไปที่มุมไหนก็ได้รูปสวยๆ อย่างแน่นอน
ชมสถาปัตยกรรมโบราณกันไปพอหอมปากหอมคอแล้ว ไปชมสถาปัตยกรรมสมัยใหม่กันที่ เดอะ ไวน์ อยุธยา กันบ้าง เราไม่รอช้ารีบปักหมุดมาที่ร้าน เดอะ ไวน์ อยุธยา ร้านอาหารที่ได้รับรางวัลสถาปัตยกรรมระดับโลก ซึ่งคอนเซ็ปต์ของร้านที่ต้องการนำเสนอไวน์ทุกรูปแบบ ซึ่งต้องบอกก่อนว่าที่นี่ไม่ได้มีแค่ไวน์อย่างเดียว ยังมีทั้งอาหารไทย อาหารตะวันตก เครื่องดื่มกาแฟ และเบเกอรี่
ภายในแบ่งโซนออกเป็นหลายโซน เพื่อเพิ่มมุมมองใหม่ๆ และลูกเล่นให้กับตัวร้านด้วยบันไดวนที่มีลักษณะคล้ายกับที่เปิดไวน์เป็นทางเดินขึ้นไปสู่มุมต่างๆ ของร้าน
สำหรับมื้อนี้เราสั่งเครื่องดื่มและเบเกอรี่มากินแบบชิลล์ๆ มีทั้ง คาปูชิโน่ร้อน บลูเบอร์รี่ชีสเค้ก และพานาคอตต้าสตรอว์เบอร์รี่ เน้นเสพบรรยากาศและงานสถาปัตยกรรมของร้าน บอกเลยว่าแค่เดินทางมาถึงที่นี่ก็คุ้มแล้ว
เมื่อมองออกไปด้านนอกร้านยังสามารถมองเห็นวิวของแม่น้ำเจ้าพระยาได้อีกด้วย
หลังจากที่เดินทางเที่ยวและตะลุยคาเฟ่อยุธยามาครึ่งวัน ก็ได้เวลาเช็คอินเข้าที่พัก ซึ่งวันนี้เราจะเข้าพักกันที่ ศาลาบางปะอิน ที่พักสุดหรู ตกแต่งด้วยสไตล์บูติกรีสอร์ท ตั้งอยู่บนโลเคชั่นสุดพิเศษตรงปลายแหลมของเกาะ ให้อารมณ์เหมือนได้พักบนเกาะส่วนตัวกลางแม่น้ำเจ้าพระยา คอนเซ็ปต์ของที่พักก็ปังสุดๆ ผสานแนวคิด Historical Getaway ประวัติศาสตร์และธรรมชาติอยู่ร่วมกันได้อย่างลงตัว
เมื่อเดินทางมาถึงบอกเลยว่าเราสองคนตื่นเต้นมากๆ หลังจากท่ีเช็คอินเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราต้องเดินข้ามสะพานสีแดงข้ามไปยังฝั่งเกาะซึ่งเป็นที่ตั้งของที่พักถือเป็นไฮไลท์ที่เราสองคนประทับใจตั้งแต่ครั้งแรกที่เดินทางมาถึง
เราเลือกพักที่ห้อง river view pool villa วิลล่าริมแม่น้ำเจ้าพระยาขนาดพอเหมาะ เน้นการใช้โทนสี ขาว เทา และน้ำตาล เป็นสีที่ดูสบายตาน่าพักผ่อน
ภายในห้องพักมีบรรยากาศปลอดโปร่ง จัดวางเฟอร์นิเจอร์ไม้โทนสีอบอุ่น และที่สำคัญมีให้เลือกทั้งห้องพักเตียง King sized และ Twin beds และครบครันไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย
ห้องน้ำตกแต่งอย่างหรูหรา และได้รับแรงบันดาลใจจากสปา
เดินทางเที่ยวตากแดดร้อนมาทั้งวัน เราสองคนไม่พลาดที่จะลงไปแช่น้ำที่สระว่ายน้ำส่วนตัวบริเวณระเบียงหน้าห้อง พร้อมจิบเครื่องดื่มชิลล์ๆ
แช่นำ้ไปดูวิวแม่น้ำเจ้าพระยาไป บอกเลยว่าทั้งชิลล์และฟินสุดๆ
บรรยากาศบริเวณรอบๆ ที่พักยังร่มรื่นและเต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ ตอบโจทย์ทั้งความหรูหราและความสะดวกสบายสุดๆ
ที่สำคัญมีมุมถ่ายรูปให้เลือกเยอะมากๆ จะหันกล้องไปทางไหนก็ได้มุม ได้รูปสวยๆ อย่างแน่นอน บอกเลยว่าก่อนมาพักที่นี่ต้องเคลียร์เมมโมรี่กล้องให้พร้อมเลยล่ะ
หลังจากเดินเล่น หามุมถ่ายรูปในที่พักจนพอใจแล้ว ก็ได้เวลาของมื้อเย็น สำหรับมื้อเย็นวันน้ีเราปักหมุดไปกันที่ ร้านอาหารเรือนสายน้ำ ร้านอาหารริมแม่น้ำเจ้าพระยาชื่อดังของย่านบางปะอิน ท่ีเปิดมาแล้วกว่า 12 ปี
ร้านอาหารเรือนสายน้ำ นอกจากจะโดดเด่นด้วยเรื่องของบรรยากาศแล้วยังโดดเด่นด้วยเรื่องของรสชาติอาหาร ซึ่งจะเป็นอาหารพื้นบ้าน วันนี้เราสั่งเป็นเมนู กุ้งแม่น้ำเผา ต้มยำปลาม้า เขียวหวานเนื้อผัดแห้ง บอกเลยว่ามื้อนี้เราขอจัดเต็ม เพราะเพื่อนๆ หลานคนคงรู้กันดีอยู่แล้วว่าอยุธยา จังหวัดนี้ขึ้นชื่อเรื่องรสชาติอาหารที่อร่อย
นั่งกินไปชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาและเรือที่สัญจรผ่านไปผ่านมาบอกเลยว่าชิลล์สุดๆ ยิ่งบรรยากาศช่วงพระอาทิตย์ตกดินแสงไฟที่ประดับในตัวร้านให้ความอบอุ่น โรแมนติกสุดๆ
หลังจากกินจนอิ่มพุงแล้วเราสองคนก็เดินทางกลับมาถึงที่พักในช่วงค่ำ บรรยากาศยามค่ำคืนของ ศาลาบางปะอิน ก็สวยงามและโรแมนติกไม่แพ้กัน
เช้าวันที่สองของทริปเที่ยวอยุธยา เราตื่นกันตั้งแต่เช้า เพราะหลังจากกินมื้อเช้าเสร็จเราจะไปล่องเรือชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งเป็นบริการสุดพิเศษจากทางที่พัก บรรยากาศยามเช้าของ ศาลาบางปะอิน ทั้งสงบ ร่มรื่น และผ่อนคลายสุดๆ
สำหรับอาหารเช้าของ ศาลาบางปะอิน มีให้เลือกเป็นเมนูอะลาคาร์ท และเช้านี้เราเลือกเป็น ข้าวต้มหมู (Chao Phraya Boiled Rice Moo) และ Smoked Salmon Eggs Benedict และยังมีเมนูอื่นๆ ให้เลือกอีกมากมาย นอกจากนี้ยังเสิร์ฟ ลาบไก่ ขนมปัง ผลไม้สด น้ำผลไม้ สลัดผัก และเครื่องดื่มชากาแฟ อีกด้วย
กินมื้อเช้าเสร็จแล้วก็ได้เวลาไป ล่องเรือชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นบริการสุดพิเศษของที่พัก ที่จะพาเราล่องเรือดูวิถึชีวิตริมแม่น้ำเจ้าพระยา ไปจนถึง วัดนิเวศน์ธรรมประวัติ ใช้เวลาไป – กลับประมาน 1 ชั่วโมง
วัดนิเวศน์ธรรมประวัติ วัดที่ตั้งอยู่บนเกาะกลางน้ำเกาะเดียวกันกับที่พักศาลาบางปะอิน หากขับรถมาจะต้องข้ามกระเช้าข้ามแม่น้ำมายังฝั่งเกาะ
ภายในบรรยากาศร่มรื่น ถูกคลุมไปด้วยเงาของร่มไม้และสวนสวยเหมือนหลุดเข้ามาในต่างประเทศ เพราะรอบๆ เต็มไปด้วยตึกสวยสีสดใสสไตล์ยุโรป ส่วนมุมไฮไลท์ต้องยกให้กับความงามของอุโบสถ ที่ออกแบบโดยใช้ศิลปะแบบโกธิค
ภายในงดงามด้วยกระจกสี หน้าต่าง และแท่นที่ประดิษฐานพระพุทธนฤมลธรรโมภาสอันวิจิตร
หลังจากนั่งเรือชมวิวเสร็จแล้ว เราก็เดินทางกลับมาที่ ศาลาบางปะอิน เพื่อเช็คเอ้าท์เตรียมตัวกลับกรุงเทพแต่ก่อนที่เราจะกลับกรุงเทพ เราก็ไม่พลาดที่จะเดินทางไป กราบไหว้หลวงพ่อรวย วัดตะโก ตั้งอยู่ที่ อ.ภาชี ใช้เวลาเดินทางไปประมาน 1 ชั่วโมงเท่านั้น
และแล้วเราก็เดินทางมาถึง วัดตะโก เมื่อมาถึงแล้วต้องนำรถไปจอดที่ลานจอดรถของทางวัด และจะมีบริการรถรับ-ส่ง ฟรีซึ่งเป็นบริการของทางวัด
เมื่อเข้ามาถึงในวัด ต้องบอกเลยว่ายิ่งใหญ่และผู้คนคึกคักสุดๆ ด้วยความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อรวย ทำให้ผู้คนจากทั่วสารทิศเดินทางมาขอพรเรื่องโชคลาภ
สถาปัตยกรรมภายในวัดเป็นสถาปัตยกรรมไทย โดดเด่นทั้ง พระอุโบสถ ศาลากลางน้ำ และเจดีย์สีทองอร่ามที่เก็บสรีระสังขารของหลวงพ่อรวยไว้ในโลงแก้ว
กราบไหว้ขอพรเสร็จแล้ว ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพ เราก็เดินหามุมถ่ายรูปสวยๆ ซึ่งต้องบอกเลยว่ามาที่วัดตะโก ได้ชมความงดงาม ได้ขอพรแล้ว ยังได้รูปสวยๆ ไปอัปลงโซเชียลอีกด้วย เป็นอันจบทริปเที่ยวอยุธยา ที่ต้องบอกเลยว่าถ้ามีโอกาสเราจะมาเที่ยวอีกครั้งให้ได้
เป็นอย่างไรกันบ้างกันทริป 2 วัน 1 คืน เที่ยวอยุธยา ที่เราเน้นกิน เน้นเที่ยว ไหว้พระกันแบบชิลล์ๆ ซึ่งเป็นทริปที่เหมาะสำหรับคนวันหยุดน้อย หยุดแค่เสาร์ – อาทิตย์ก็ไปเที่ยวได้ ใครท่ีกำลังวางแพลนหาที่เที่ยวง่ายๆ แบบไม่ไกลกรุงเทพแนะนำให้ใช้ทริปนี้เป็นตัวอย่างเลย รับรองว่าทั้งสนุกและชิลล์อย่างแน่นอน
รวมค่าใช้จ่ายตลอดทริป 2 วัน 1 กรุงเทพ–อยุธยา
อาหารและเครื่องดื่มร้านบ้านข้าวหนม 360 บาท (180 บาท/คน)
ค่าเข้าวัดมหาธาตุ 20 บาท (10 บาท/คน)
ค่าอาหารและเครื่องดื่มคาเฟ่ อยุธยา รีทรีต 610 บาท (305 บาท/คน)
ค่าเข้าวัดไชยวัฒนาราม 20 บาท (10 บาท/คน)
ค่าอาหารและเครื่องดื่มเดอะ ไวน์ อยุธยา 355 บาท (178 บาท/คน)
ค่าที่พักศาลาบางปะอิน 7074++ (3,500 บาท/คน)
ค่าอาหารและเครื่องดื่มร้านอาหารเรือนสายน้ำ 1,450 บาท (725 บาท/คน)
(ค่าใช้จ่ายตลอดทริปคนละประมาน 4,908 บาท)
**ราคายังไม่รวมค่าน้ำมันในการเดินทาง**
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง
รีวิวที่พักอยุธยา>> 12 ที่กิน ร้านอาหารและคาเฟ่อยุธยา อัปเดต 2021 อร่อยฟิน เที่ยวเช็คอินได้ไม่ไกลกรุง!
รีวิวคาเฟ่+ร้านอาหารอยุธยา>>อัปเดต 10 ที่พักอยุธยา 2021 เน้นดีไซน์ และความสโลว์ไลฟ์แบบไม่ไกลกรุง