3 วัน 2 คืน กิน – เที่ยวจันทบุรี ล่องแพกินปู นอนหรูริมทะเล
116,237 ครั้ง
29 พ.ค. 2563
116,237 ครั้ง
29 พ.ค. 2563
จันทบุรี จังหวัดน่าเที่ยวที่ใครได้มาแล้วก็ต้องหลงรัก เพราะที่นี่มีที่เที่ยวครบทั้ง ภูเขา น้ำตก ทะเล และยังจัดเต็มไปด้วยอาหารทะเลฉ่ำๆ สำหรับทริปจันทบุรีทริปนี้ เราเน้นมาเที่ยวพักผ่อนแบบครบรสทั้งนอนโฮมสเตย์ ล่องแพ กินปู ดูเหยี่ยวใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์แบบบ้านๆ และนอนหรูริมทะเลบรรยากาศโรแมนติก ลองตามมาดูกันเลยว่าทริปเที่ยวจันทบุรีครั้งนี้เราจะพาไปที่ไหนบ้าง
เช้าวันเสาร์เราออกเดินทางออกจากกรุงเทพกันตั้งแต่เช้าเพื่อที่จะมุ่งหน้าไป จันทบุรี ซึ่งใช้เวลาเดินทางไปประมาน 4 – 5 ชั่วโมง เราคำนวนเวลาให้ไปถึงที่พักในช่วงเที่ยงพอดี เพราะจะได้เข้าเช็คอินและทำกิจกรรมของทางที่พัก ซึ่งที่พักที่เราเลือกมาพักก็คือ บ้านน้ำอิง โฮมสเตย์
บ้านน้ำอิง โฮมสเตย์ ที่พักบรรยากาศสุดชิลล์ ตั้งอยู่บนพื้นที่ ต.หนองชิ่ม อ.แหลมสิงห์ อยู่ห่างจากตัวเมืองจันทบุรีเพียง 40 นาที ตัวบ้านพักตกแต่งด้วยสไตล์สุดโมเดิร์นที่โดดเด่นด้วยสีสันสดใส แบ่งเป็นบ้านแฝด 3 หลัง (1 หลังแบ่งเป็น 2 ห้อง) สามารถเข้าพักได้ห้องละ 4 คน และ บ้านหลังใหญ่ 4 หลัง สามารถเข้าพักได้ 10 – 12 คน เรียกได้ว่าจะมาเป็นครอบครัวเล็กหรือใหญ่ หรือจะมาพักผ่อนกับแก๊งค์เพื่อนก็รับรองว่า บ้านน้ำอิง โฮมสเตย์ มีพื้นที่เพียงพออย่างแน่นอน
ซึ่งเมื่อเดินทางมาถึง ทางที่พักก็ทำอาหารมื้อกลางวันรอไว้ เรียกได้ว่าเดินทางมาถึงปุ้บ ก็ได้กินเมนูอร่อยๆ ปั๊บ ไม่เว้นช่วงให้เราได้หิวเลยทีเดียว สำหรับเมนู อาหารมื้อเที่ยง ของทางที่พักจะเป็นเมนูอาหารพื้นเมืองจันทบุรีและเมนูซีฟู้ด ไม่ว่าจะเป็น หมูชะมวง ก๋วยเตี๋ยวผัดเส้นจันท์ น้ำพริกไข่ปูผักรวม ต้มส้มปลากระพง ทอดมันปลาอินทรีย์ ปูผัดผงกะหรี่ ข้าวเปล่า และผลไม้ตามฤดูกาล ซึ่งอาหารมื้อกลางวันทางที่พักจะจัดให้หลังจากเข้าเช็คอินเวลา 11.00 – 12.00 น.
กินมื้อกลางวันกันอิ่มแล้วก็ได้เวลาเข้าห้องพัก ซึ่งห้องพักของ บ้านน้ำอิง โฮมสเตย์ ที่เราเลือกก็คือ บ้านแฝด (1 หลังแบ่งเป็น 2 ห้อง) 1 ห้องสามารถนอนได้ถึง 4 คน แต่ทริปนี้เรามากัน 2 คน เลยพักผ่อนกันแบบสบายสุดๆ เพราะพื้นที่ภายในห้องกว้างขวางแถมยังมาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกไม่ว่าจะเป็น แอลซีดีทีวี เครื่องปรับอากาศ และ FREE – WIFI ให้เราเพลิดเพลินตลอดการเข้าพัก
ที่นอนและชุดเครื่องนอนสะอาดและน่าพักผ่อนสุดๆ
และยังมีห้องน้ำภายในตัวห้องที่มาพร้อมชุดสุขภัณฑ์สีขาวดูสะอาดตา
ที่หน้าบ้านพักยังมีระเบียงส่วนตัวที่เชื่อมกับตัวทางเดินหลักและมีมุมให้นั่งพักผ่อนกันแบบชิลล์ๆ
หลังจากเข้าห้องพัก พักผ่อนกันจนพอหอมปากหอมคอแล้ว ก็ถึงเวลา ล่องแพเปียกซึ่งเป็นกิจกรรมสนุกๆ ของทางที่พัก ที่จะพาเราไปล่องแพชมธรรมชาติที่คลองเวฬุ ทางที่พักจะมีรถพาเราไปส่งที่จุดขึ้นแพเปียกที่อยู่ไม่ไกลจากที่พักใช้เวลาเดินทางไม่ถึง 5 นาทีเท่านั้น
สำหรับใครที่เป็นกังวลว่าจะเป็นอันตราย ก็ไม่ต้องเป็นห่วงเพราะทางที่พักมีเสื้อชูชีพและสตาฟคอยดูแลความปลอดภัยตลอดกิจกรรมล่องแพ รับรองว่าปลอดภัยหายห่วงอย่างแน่นอน
กิจกรรมล่องแพเปียกยังทำให้เราได้เห็นเหยี่ยวแดงและชมธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ของป่าชายเลน แถมยังเปิดเพลงมันส์ๆ ให้เราได้แดนซ์กันแบบสนุกๆ และยังจอดให้เราได้ลงเล่นน้ำในแม่น้ำอีกด้วยนะ
ล่องแพเปียกอย่างเพลิดเพลินใจก็ถึงเวลากลับที่พัก เล่นน้ำในคลองเวฬุกันไปแล้วลองเปลี่ยนบรรยากาศมาเล่นน้ำที่หน้าห้องพักกันบ้าง ที่หน้าบ้านยังมีเครื่องเล่นสนุกๆ มากมายทั้ง เรือปั่น ห่วงยางเป็ด และเปลตาข่ายให้เราได้นั่งรับลมกันแบบชิลล์ๆ ในยามเย็น
และก็ได้เวลาของอาหารมื้อเย็นอีกครั้ง ทางที่พักยังจัดหนักจัดเต็มกันอย่างต่อเนื่องกับ เซ็ตซีฟู้ดที่มีทั้ง ปูนึ่ง กุ้งเผา หอยนางรมสดพร้อมเครื่องเคียง หมึกย่าง ปลากระพงทอดราดน้ำปลา ผัดผักรวม กุ้งแช่น้ำปลา ข้าวเปล่า และผลไม้ตามฤดูกาล ซึ่งสามารถเติมได้ไม่อั้นแบบบุฟเฟ่ต์ อีกทั้งยังมี น้ำแข็ง น้ำอัดลม น้ำดื่ม และโซดาให้ดื่มกันแบบไม่อั้นตลอดการเข้าพัก
จัดเต็มมื้อเย็นกับ กุ้ง หอย ปู ปลา แบบบุฟเฟ่ต์กันฉ่ำๆ แล้วทริปวันแรกของส่งท้ายด้วยการร้อง คาราโอเกะ ที่โซนห้องอาหาร ที่มาพร้อมเครื่องเสียงและลำโพงคุณภาพดี พร้อมเพลย์ลิสต์เพลงที่อัปเดตล่าสุด ซึ่งทางที่พักยังให้จัดเต็มกับคาราโอเกะกันยาวๆ ถึงเวลา 23.00 น.
เช้าวันที่สองเราตื่นกันตั้งแต่เช้าเพราะวันนี้มีแพลนเที่ยวหลายที่ และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ อาหารเช้า ของที่ทางที่พักยังคงจัดเป็นเซ็ตบุฟเฟ่ต์ที่มีทั้ง ข้าวต้มหมูเห็ดหอม ข้าวผัดหมู สลัดผัก ขนมปังปิ้ง ไข่ดาว ไส้กรอก ผลไม้ตามฤดูกาล และเครื่องดื่มกาแฟ โอวัลติน ให้เลือกมากมาย เรียกได้ว่ามาพักที่ บ้านน้ำอิง โฮมสเตย์ ได้พักผ่อนแบบสะดวกสบาย มาพร้อมกิจกรรมมากมาย และท่ีพิเศษสุดๆ เลยก็คืออาหารฉ่ำๆ 3 มื้อ แบบที่เรียกว่าไม่เว้นช่วงให้เราได้หิวกันเลยทีเดียว
Location: 9/15 ม.10 ต.หนองชิ่ม อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี // Price: ราคาแพ็คเกจ ผู้ใหญ่ 4 คนขึ้นไป วันศุกร์ เสาร์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ราคา 1,500 บาท และ วันอาทิตย์ – วันพฤหัสบดี 1,400 บาท (ราคารวมอาหาร 3 มื้อ ที่พักและกิจกรรม ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม) // เด็กอายุ 1 – 6 ขวบ ฟรี // เด็กอายุ 7 – 12 ปี คิดครึ่งราคา // Phone: 087 147 5632, 088 854 4111 // Line: 0888544111 และ rapee4111
หลังจากเช็คเอ้าท์ออกจากที่พักแล้ว เราเลยไปต่อกันที่ ชมปลาคาเฟ่ คาเฟ่เปิดใหม่ที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านน้ำอิง โฮมสเตย์ ตัวร้านตกแต่งด้วยสไตล์โมเดิร์นและยังออกแบบให้นั่งอยู่กลางน้ำ ไฮไลท์ของที่นี่ก็คือ ในบ่อปลาจะมีปลาคาร์ฟมากกว่า 10,000 ตัว ที่จะออกมาแหวกว่ายให้เราได้ชมกันแบบเพลินๆ
ในตัวร้านยังมีที่นั่งให้เลือกหลายโซนทั้งโซนอินดอร์ห้องแอร์ภายในตัวร้านและโซนเอ้าท์ดอร์ บริเวณรอบๆ ยังมีมุมถ่ายรูปมากมาย ทั้งมุมเปลตาข่ายและมุมทางเดินไม้ที่ทอดยาวไปถึงกลางน้ำ
เมื่อมาถึง ชมปลาคาเฟ่ แล้วก็ต้องไม่พลาดที่จะสั่งเมนูเครื่องดื่มสดชื่นอย่าง กาแฟบลูป๊อบ และซูเฟล่แพนเค้ก
นั่งกินเมนูอร่อยๆ พร้อมมองวิวบ่อปลาด้านนอกกันแบบฟินๆ เสร็จแล้วเราก็ไม่พลาดที่จะออกไปหามุมถ่ายรูปและป้อนนมปลาคาร์ฟซึ่งทางร้านมีไว้ให้บริการ
Location: 6/1 ม.10 ต.หนองชิ่ม อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี // Open – Close: เปิดทุกวันเวลา 08.00 – 19.00 น. // Phone: 081 803 5063
และเราก็ปักหมุดไปต่อกันที่ จุดชมวิวผาสุขนิรันด์และซันไชน์ จุดชมวิวแห่งใหม่ของจันทบุรีที่ให้ฟีลลิ่งเหมือนอยู่บาหลีอย่างไงอย่างงั้น ไฮไลท์ของที่นี่คือบันไดที่ทอดยาวลงไปถึงทะเล สำหรับใครที่อยากได้รูปสวยๆ แนะนำให้มาช่วงเย็นๆ ช่วงที่พระอาทิตย์กำลังตกดินและที่สำคัญอากาศไม่ร้อนมากด้วย
ใกล้ๆ กันยังมี สกายวิวคาเฟ่ คาเฟ่วิวหลักล้านที่ตั้งอยู่บริเวณผาหินริมทะเล เรียกได้ว่ามีเพียงที่เดียวในเมืองไทยเท่านั้น ตัวร้านตกแต่งในสไตล์ลอฟท์โชว์ปูนเปลือยแบบดิบๆ มีที่นั่งให้เลือกทั้งโซนห้องแอร์ภายในตัวร้าน และโซนเอ้าท์ดอร์วิวทะเลที่มีให้เลือกทั้งบาร์และโต๊ะตั้งพื้น ด้านเมนูก็มีให้เลือกทั้งเครื่องดื่มและเบเกอรี่ซึ่งวันนี้เราเลยจัดเมนูเครื่องดื่มสุดสดชื่นอย่าง นมเรนโบว์ และน้ำแข็งซันไชน์
และก็ไม่พลาดที่จะหามุมถ่ายรูปสวยๆ ซึ่งบริเวณร้านจัดมุมถ่ายรูปสวยๆ ไว้ให้มากมายสไตล์บาหลี รับรองได้เลยว่าถูกใจสายเซลฟี่อย่างแน่นอน
Location: เกาะเปริด อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี // Open – Close: ร้านเปิดทุกวันเวลา 08.00 – 20.00 น. // Phone: 091 554 1552, 091 554 1553
อิ่มพุงกันไปแล้ว เราเลยปักหมุดไปอิ่มบุญกันต่อที่ วัดปากน้ำแขมหนู หนึ่งวัดสวยและมีชื่อเสียงของจังหวัดจันทบุรีที่มีซิกเนเจอร์คือโบสถ์สีน้ำเงินที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน
รอบๆ ผนังโบสถ์ด้านนอกตกแต่งด้วยเซรามิกสีน้ำเงินที่มีความสวยงาม เป็นรูปแบบที่แปลกตาและหาชมได้ที่นี่เพียงที่เดียว ภายในพระอุโบสถมีความสวยงามโดดเด่นด้วยประตูทั้ง 4 บานที่แกะสลักภาพนูนต่ำเกี่ยวกับพุทธศาสนา เอาเป็นว่าที่นี่เป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอินที่มาจันทบุรีแล้วไม่ควรพลาด
Location: วัดปากน้ำแขมหนู 86 ม.9 ต.ตะกาดเง้า อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี // Open – Close: เปิดเวลา 06.00 – 18.00 น. // Phone: 039 455 058
หลังจากที่ไหว้พระกันเสร็จเรียบร้อย เราเลยมุ่งหน้าไปต่อกันที่โซนหาดเจ้าหลาว ซึ่งเป็นอีกหนึ่งโซนที่มีที่เที่ยวสุดคลาสสิคที่นิยมมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เราปักหมุดมาต่อกันที่ ศูนย์ศึกษาพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวสำหรับคนที่รักธรรมชาติ เพราะที่นี่มีลักษณะเป็นป่าชายเลน มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติระยะทาง 1.6 กิโลเมตร ซึ่งจะใช้เวลาเดินประมาน 45 นาที – 1 ชั่วโมง
เมื่อเข้ามาถึงจะมีทางเดินสะพานไม้ที่ทอดยาวเข้าไปในป่าชายเลน ทำให้ได้เห็นพรรณไม้หลากหลายชนิดและสัตว์ต่างๆ ที่อาศัยอยู่ตามแนวป่าชายเลน นอกจากนี้ระหว่างทางเดินศึกษาธรรมชาติจะมีศาลาการเรียนรู้ 10 ศาลา ให้เราได้ศึกษาชีวิตของป่าชายเลนอีกด้วย
บรรยากาศร่มรื่นและเงียบสงบสุดๆ ระหว่างเดินศึกษาธรรมชาติจะได้ยินเสียงกุ้งดีดขัน ที่ใช้ก้ามดีดน้ำใส่ศัตรูเสียงดัง “ป๊อก ป๊อก” ตลอดการเดินชมธรรมชาติ
Location: 31 ม.4 ต.คลองขุด อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี // Open – Close: เปิดเวลา 08.00 – 18.00 น. // Phone: 039 433 216
ชมธรรมชาติป่าชายเลนเสร็จแล้ว เราก็ไปต่อกันที่อีกหนึ่งจุดเช็คอินสุดคลาสสิคอย่าง จุดชมวิวลานหินสีชมพู แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ตั้งอยู่ภายในบริเวณเขตห้ามล่าสัตว์ป่าคุ้งกระเบน ซึ่งที่นี่จะโดดเด่นด้วย ลานหินสีชมพูอมน้ำตาลแดงแทรกตัวอยู่ริมแนวชายหาด ซึ่งจะต้องเดินเท้าเข้าไปจากจุดจอดรถประมาน 1 กิโลเมตร
เมื่อเข้ามาถึงรับรองว่าเพื่อนๆ จะต้องตื่นตาตื่นใจไปกับลานหินสีชมพูซึ่งรับรองว่าแตกต่างจากที่อื่นอย่างแน่นอน เราเลยไม่พลาดหามุมถ่ายรูปกันยกใหญ่
มีมุมให้ถ่ายรูปมากมาย เพื่อนๆ สามารถเลือกได้ตามใจชอบ แถมยังมีลมทะเลเย็นๆ และเรือประมงที่แล่นผ่านไปผ่านมาให้เรามองกันแบบชิลล์ๆ อีกด้วย
Location: 31 ม.4 ต.คลองขุด อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี // Open – Close: เปิดเวลา 08.00 – 17.00 น. // Phone: 039 369 216 // Fee: เสียค่าเข้า 20 บาท/คน, ค่าธรรมเนียมรถยนต์ 60 บาท/คน
และแล้วก็ได้เวลาเช็คอินเข้าที่พัก ซึ่งคืนน้ีเราจะพักกันที่ มัลดีฟส์ บีช รีสอร์ท ที่พักหรูสไตล์มัลดีฟส์ริมชายหาดเจ้าหลาว – แหลมเสด็จ ตกแต่งด้วยสไตล์โมเดิร์นทรอปิคอล บรรยากาศที่เงียบ สงบ และเป็นส่วนตัว มาพร้อมห้องพักที่มีให้เลือกถึง 17 รูมไทป์ ซึ่งจะแบ่งโซนที่พักเป็น 2 โซนคือ โซนอาคารและโซนวิลล่า
ซึ่งเราเลือกนอนเป็นห้องพัก Pool Villa วิลล่าหรูพร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัวแบบ Outdoor ตัววิลล่ายังออกแบบเป็นวิลล่าทรงกลมสไตล์ทรอปิคอล ตกแต่งด้วยประตูและหน้าต่างจากไม้เพิ่มกลิ่นอายความเป็นธรรมชาติได้อย่างลงตัว
ภายในวิลล่าตกแต่งได้อย่างหรูหราแต่เรียบง่าย สบายตาด้วยการเน้นใช้โทนสีขาวเป็นหลัก ตัดกับพื้นห้องและเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ที่เลือกใช้เป็นงานไม้ที่เน้นโชว์ลายไม้แบบดิบๆ ซึ่งเข้ากันได้เป็นอย่างดี พร้อมของประดับตกแต่งที่เป็นงานไม้ไอเดียเก๋ๆ ที่มาช่วยเพิ่มอรรถรสในการเข้าพัก
ภายในพื้นที่ของวิลล่ายังมีสระว่ายน้ำส่วนตัวที่มาพร้อมมุมปิกนิกน่ารักๆ อีกด้วย
บริเวณรอบๆ ที่พักยังมีพื้นที่ส่วนกลางและมุมถ่ายรูปสวยๆ มากมาย และพิเศษสุดๆ เลยก็คือ มัลดีฟส์ บีช รีสอร์ท มีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ถึง 2 สระ ซึ่งเพื่อนๆ สามารถเลือกได้ตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็นสระขนาดใหญ่วิวทะเลและสระขนาดกลางที่มาพร้อมเครื่องเล่นสไลด์เดอร์ รับรองเลยว่าสนุกได้อย่างเต็มที่ทั้ง 2 สระอย่างแน่นอน
เดินทางมาร้อนๆ เราเลยมาเล่นน้ำคลายความร้อนกันสักหน่อย
ช่วงเย็นแดดร่มลมตกแบบน้ีคงไม่มีอะไรดีไปกว่าการชวนกันมาเดินเล่นกันที่ชายหาด ให้ลมทะเลซัดคลื่นน้ำมาใส่เท้าแบบชิลล์ๆ ที่บริเวณชายหาดของรีสอร์ทยังมีซุ้มที่ตกแต่งน่ารักๆ ไว้เป็นมุมนั่งชิลล์และมุมถ่ายรูปสวยๆ อีกด้วยนะ
ยิ่งช่วงที่พระอาทิตย์กำลังจะตกเป็นช่วงเวลาที่โรแมนติกสุดๆ จนเราคิดไม่ผิดที่เลือก มัลดีฟส์ บีช รีสอร์ท เป็นอีกหนึ่งจุดมุ่งหมายในการเดินทางของทริปนี้
ทางที่พักยังมีในส่วนของร้านอาหารริมทะเล The White Box ร้านอาหารบรรยากาศดีที่พร้อมเสิร์ฟอาหารทะเลสดๆ รวมไปถึงเมนูอาหารไทยและนานาชาติ ที่เปิดให้บริการทุกวันเวลา 11.00 – 22.00 น. ซึ่งผู้ที่ไม่ได้เข้าพักกับทางโรงแรมก็สามารถมากินอาหารที่ The White Box ได้เช่นกัน ซึ่งเย็นนี้เราก็จะดินเนอร์ที่นี่เช่นเดียวกัน
สำหรับที่นั่งก็มีให้เลือกหลากหลายมุม แต่ที่เรียกได้ว่าเป็นไฮไลท์เลยก็คือมุมที่นั่งซุ้มดินเนอร์ริมทะเลที่เพิ่มกิมมิคด้วยผ้าโปร่งแสงสีขาวเพิ่มฟีลลิ่งความโรแมนติกในช่วงยามเย็นที่พระอาทิตย์กำลังตกได้เป็นอย่างดี
เมนูอร่อยที่เราสั่งมากินกันในมื้อนี้ก็คือ ห่อหมกทะเลในมะพร้าวอ่อน และข้าวอบสัปปะรด
บรรยากาศยามค่ำคืนบริเวณหน้าชายหาดของที่พัก ที่อบอุ่นไปด้วยแสงไฟ เสียงคลื่น
เช้าวันสุดท้ายของทริป วันนี้เราตื่นมาพร้อมกับเซ็ต Floating Breakfast ถาดอาหารลอยน้ำ ที่จัดเต็มไปด้วยเช็ตอเมริกันเบรคฟาสต์ เค้ก และน้ำผลไม้ ซึ่งนอกจากจะได้ทานเมนูอาหารเช้าอร่อยๆ แล้วยังได้รูปสวยๆ แบบชีวิตดี๊ดีไปอัปลงโซเชียลอีกด้วย
หรือถ้ายังไม่หนำใจก็สามารถไปกินอาหารเช้าที่ห้องอาหาร Maldives Blu ซึ่งจะจัดอาหารเป็นแบบบุฟเฟ่ต์โดยมีอาหารหลากหลายสไตล์ให้เลือกทั้งอาหารสไตล์ยุโรป อาหารเพื่อสุขภาพ และอาหารพื้นเมืองจันทบุรี
Location: 33/2 ม.4 หาดแหลมเสด็จ ต.คลองขุด อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี // Price: ราคาเริ่มต้น 2,400 – 12,500 บาท // Phone: 039 433 200-2, 083 447 3708, 092 252 7035
เราเช็คเอ้าท์ออกจากที่พักในช่วงสายๆ และไปต่อกันที่ จุดชมวิวเนินนางพญา ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งท่ีเที่ยวในตำนานของจังหวัดจันทบุรีที่ใครมาก็ต้องแวะมาเช็คอินกันที่นี่ และยังมีเส้นทางถนนเรียบริมทะเลที่สวยที่สุดในประเทศไทยอีกด้วย
เมื่อขึ้นมาถึงจุดชมวิวแล้วจะสามารถมองเห็นวิวทะเลได้เกือบ 360 องศา พร้อมเห็นช่วงโค้งของถนนเฉลิมบรูพาชลทิตที่สวยงามอีกด้วย
Location: บ้านท่าแคลง ม.7 ถ.เฉลิมบูรพาชลฑิต ต.สนามไชย อ.นายายอาม จ.จันทบุรี // Open – Close: เปิดทำการเวลา 05.00 – 24.00 น.
ถ้าหากมาถึง จุดชมวิวเนินนางพญา แล้วก็ต้องไม่พลาดที่จะไปเช็คอินความฟินกันต่อที่ จุดชมวิวเจดีย์กลางน้ำบ้านหัวแหลม ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กันกับจุดชมวิวเนินนางพญา ไฮไลท์ของ จุดชมวิวเจดีย์กลางน้ำบ้านหัวแหลม คือเจดีย์สีขาวตั้งอยู่บนโขดหินกลางทะเล ที่ชาวบ้านเรียกกันว่า เจดีย์บ้านหัวแหลม เจดีย์ที่มีอายุกว่า 200 ปี ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะของชาวประมงในพื้นที่โดยเพื่อนๆ สามารถจอดรถได้ที่ทางเข้าหน้าหมู่บ้านและเดินเท้าเข้าไปกราบไหว้ขอพรองค์เจดีย์ได้ด้วยนะ
Location: บ้านหัวแหลม ม.7 ต.สนามไชย อ.นายายอาม จ.จันทบุรี // Open – Close: เปิดเวลา 06.00 – 18.00 น.
และปักหมุดความฟิน มาเช็คอินอีกหนึ่งคาเฟ่น่านั่งอย่าง เลเกลือ คาเฟ่ คาเฟ่วิวนาเกลือแห่งเดียวของจังหวัดจันทบุรี ที่ตกแต่งตัวร้านด้วยสไตล์โมเดิร์นผสมผสานความมินิมอลได้อย่างลงตัว และใช้สีขาวเป็นหลักเพื่อให้ดูกว้างขวางและสบายตา
สำหรับที่นั่งก็มีให้เลือกทั้งโซนห้องแอร์ภายในตัวร้านซึ่งตกแต่งด้วยกระจกใสบานใหญ่สามารถมองเห็นวิวนอกร้านได้อย่างสบายตาและโซนเอ้าท์ดอร์เทอเรสนอกตัวร้าน
วันนี้เราสั่งเครื่องดื่มที่เป็นตัวชูโรงของทางร้านอย่าง แฟเกลือ และเลเกลือโซดา ซึ่งแต่ละเมนูจะมีส่วนผสมของเกลือซึ่งเป็นซิกเนเจอร์ของทางร้าน
รอบๆ ตัวร้านยังมีมุมถ่ายรูปมากมายไม่ว่าจะเป็น มุมบันไดลอยฟ้า มุมเปลตาข่าย มุมบ้านแคคตัสสุดฮิป และมุมกังหันลม เรียกได้ว่านอกจากจะได้ชิมเครื่องดื่มรสชาติแปลกใหม่แล้ว ยังได้รูปสวยๆ กลับไปอีกเพียบ
Location: 53/1 ถ.เทศบาลสาย 7 ต.ท่าใหม่ อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี // Open – Close: เปิดทุกวันเวลา 09.30 – 18.00 น. // Phone: 086 843 6688
กินเครื่องดื่มอร่อยๆ และได้รูปสวยๆ จนพอใจแล้ว เราเลยไปต่อกันที่ ชุมชนริมน้ำจันทบูร ชุมชนเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ที่ถนนสุขาภิบาล ริมแม่น้ำจันทบูรในตัวเมืองจันทบุรี หรือที่นิยมเรียกกันว่าถนนริมน้ำ
บรรยากาศภายในชุมชนเต็มไปด้วยบ้านเก่าที่ปัจจุบันยังคงอนุรักษ์ความงดงามของสถาปัตยกรรมที่มีอายุกว่า 100 ปี และเป็นเสน่ห์ของชุมชนแห่งนี้ นอกจากวิถีชีวิตและตึกรามบ้านช่องเก่าๆ แล้ว ยังมากไปด้วยร้านรวงต่างๆ ทั้งร้านดั้งเดิมและร้านสมัยใหม่ที่อยู่ร่วมกันได้อย่างลงตัว มีทั้ง คาเฟ่ ร้านอาหาร และร้านขายของที่ระลึก
เมื่อมาถึงที่นี่แล้วสก็ต้องไม่พลาดแวะไปชิมร้านเด็ดร้านดังของที่นี่ที่ร้าน ก๋วยเตี๋ยวกั้งเจ๊อี๊ด ที่จัดเต็มไปด้วยกั้งสดๆ และรสชาติก๋วยเตี๋ยวต้มยำรสชาติจัดจ้านเป็นเอกลักษณ์
เดินชมบ้านเรือนเก่าๆ จนมาถึงร้านขาย ไอศกรีมตราจรวด ซึ่งสายหวานอย่างเราก็ไม่พลาด จัดมาคนละ 1 แท่ง
ที่ขาดไม่ได้เมื่อมาถึงชุมชนริมน้ำจันทบูรแล้วจะต้องแวะไปลองชิม ขนมไข่เจ๊ไต๊ ขนมไข่ในตำนานที่อยู่คู่กับชุมชนจนกลายเป็นขนมของฝากยอดฮิตที่ใครมาแล้วก็ต้องซื้อติดไม้ติดมือกลับไป
Location: ถ.สุขาภิบาล ต.วัดใหม่ อ.เมืองจันทบุรี จ.จันทบุรี // Open – Close: เปิดทุกวันเวลา 08.00 – 22.00 น. หากจะมากินร้านอร่อยแนะนำให้มาถึงก่อนเวลา 15.00 น.
ก่อนกลับกรุงเทพ เราแวะไปอีกหนึ่งท่ีเที่ยวที่อยู่ใกล้ๆ กับชุมชนริมน้ำจันทบูรอย่าง อาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล หนึ่งในวิหารที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย ที่นี่เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่มาจันทบุรีแล้วต้องแวะมาเช็คอินถ่ายรูปกันให้ได้
Location: 110 ซ.1 ม.10 ถ.สันติสุข ต.จันทนิมิต อ.เมืองจันทบุรี จ.จันทบุรี // Open – Close: วันจันทร์ – เสาร์ เปิดเวลา 08.30 – 16.30 น., วันอาทิตย์เปิดเวลา 10.00 – 16.30 น. // Phone: 039 311 578
ปิดทริปจันทบุรีและเดินทางกลับกรุงเทพในช่วงเย็นๆ ต้องบอกเลยว่า ทริปจันทบุรี 3 วัน 2 คืน ทริปนี้เป็นทริปที่เรากิน เที่ยวกันคุ้มค่ามากๆ เพราะได้เที่ยวครบรสทั้ง นอนโฮมสเตย์สไตล์บ้านๆ และนอนหรูริมทะเล แถมยังได้เช็คอินคาเฟ่ชิคๆ และได้เที่ยวอีกหลายที่ เพื่อนๆ คนไหนที่กำลังวางแพลนมาเที่ยวจันทบุรี อยากให้ลองเอาทริปนี้เป็นตัวอย่าง ขอบอกเลยว่า สนุก คุ้มค่า และที่สำคัญได้รูปสวยๆ เพียบ!
สรุปค่าใช้จ่ายตลอดทริป 3 วัน 2 คืน กิน – เที่ยวจันทบุรี ล่องแพกินปู นอนหรูริมทะเล
-ค่าที่พักบ้านน้ำอิง โฮมสเตย์ คนละ 1,500 บาท (รวม 2 คน 3,000 บาท)
-ค่าเครื่องดื่มชมปลาคาเฟ่ 274 บาท (หาร 2 คน คนละ 137 บาท)
-ค่าเครื่องดื่มสกายวิวคาเฟ่ 160 บาท (หาร 2 คน คนละ 80 บาท)
-ค่าธรรมเนียมเข้าชม + ค่าธรรมเนียมรถ 4 ล้อ 100 บาท (หาร 2 คน คนละ 50 บาท)
-ค่าที่พักมัลดีฟส์ บีช รีสอร์ทห้อง Pool Villa 7,500 บาท (หาร 2 คน คนละ 3,750 บาท)
-ค่าอาหารเย็นมัลดีฟส์ บีช รีสอร์ท 560 บาท (หาร 2 คน คนละ 280 บาท)
-ค่าเครื่องดื่มเลเกลือคาเฟ่ 125 บาท (หาร 2 คน คนละ 63 บาท)
-ค่าอาหารชุมชนริมน้ำจันทบูร 300 บาท (หาร 2 คน คนละ 150 บาท)
**ไม่รวมค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
รวมค่าใช้จ่ายตลอดทริป 12,019 บาท เฉลี่ยคนละ 6,010 บาท