One Day Trip นครปฐม อิ่มพุง x อิ่มบุญ วันเดียวเที่ยวสบาย เวลาน้อยก็ชิลล์ได้
155,300 ครั้ง
8 ส.ค. 2562
155,300 ครั้ง
8 ส.ค. 2562
วันหยุดที่หลายๆ คนรอคอยก็มาถึง ผมก็เช่นกันครับ วันนี้ผมวางแพลนจะไปเที่ยวใกล้ๆ กรุงเทพ เน้นกิน เน้นเดินทางง่ายๆ และจังหวัดที่ผมเลือกไปในวันนี้คือ นครปฐม อีกหนึ่งจังหวัดใกล้กรุงเทพที่เรียกได้ว่าเดินทางแค่แป้บเดียว นั่งรถยังไม่ทันหลับก็ถึงแล้ว นอกจากจะเป็นจังหวัดที่เดินทางง่ายและอยู่ใกล้กรุงเทพแล้วที่นี่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยว คาเฟ่บรรยากาศดี และร้านอาหารน่านั่งมากมาย อย่างที่บอกว่าทริปนี้เน้นกินฟินเที่ยว ลองตามมาดูกันครับว่า One Day Trip นครปฐม วันนี้ผมจะไปที่ไหนบ้าง รับรองเลยว่าแต่ละที่จัดเต็มทั้งวิวชิลล์ทั้งบรรยากาศ แถมยังมีของอร่อยที่ต้องห้ามพลาดอีกด้วย
เช้าวันเสาร์วันนี้ผมไม่ต้องรีบตื่นแต่เช้า เพราะจังหวัดที่เราจะเดินทางไปเที่ยวอยู่ใกล้แค่นิดเดียว ผมเลยเลือกออกเดินทางกันในช่วงสายๆ และแน่นอนครับสำหรับการเดินทางไปยัง จังหวัดนครปฐม ผมเดินทางไปบนถนนเพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข 4) ก่อนถึงนครปฐมผมเลยแวะเข้าไปที่ แสงตะวันฟาร์ม เมล่อนสาย 4 ฟาร์มเมล่อนที่เพิ่งเปิดได้ไม่นาน ตัวร้านตั้งอยู่ที่ ถนนพุทธมณฑลสาย 4 ซอยกระทุ่มล้ม 10 เลี้ยวเข้าซอยกระทุ่มล้ม 10 เข้าไปประมาน 1 กิโลเมตรก็จะเจอร้านตั้งอยู่ฝั่งซ้ายมือ
บรรยากาศภายในตัวร้านก็เต็มไปด้วยความร่มรื่นเหมือนกับหลุดเข้าไปอยู่กลางธรรมชาติในโซนแรกจะเป็นโซนตัวคาเฟ่ห้องแอร์สำหรับคนขี้ร้อนหรืออยากหามุมนั่งทำงานแบบสงบๆ ภายในโซนห้องแอร์ก็มีที่นั่งไว้ให้บริการประมาน 9 ที่นั่งและตกแต่งด้วยสไตล์เรียบง่ายเน้นการเข้าถึงธรรมชาติเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศภายนอก
ถัดออกมาด้านนอกจะเป็นที่นั่งแบบโอเพ้นแอร์ทั้งหมดมีที่นั่งให้บริการถึง 37 ที่นั่งซึ่งแต่ละโซนก็จะได้บรรยากาศที่แตกต่างกันออกไป และมุมที่เรียกได้ว่าเป็นมุมยอดฮิตของทางร้านที่ใครๆ มาก็อยากมานั่งกันที่มุมนี้คือมุมที่นั่งทรงกลมริมน้ำตกจำลอง ที่ให้อารมณ์เหมือนได้นั่งอยู่บนโขดหินริมน้ำตกจริงๆ และยังมีน้ำจากน้ำตกไหลผ่านข้างที่นั่งพร้อมฝูงปลาคราฟท์หลากสีสันแหวกว่ายผ่านไปผ่านมาให้เราได้ชมอีกด้วย
มาถึงฟาร์มเมล่อนทั้งทีก็ต้องไม่พลาดกินเมนูจากเมล่อนสดๆ ในสวนเช้านี้ผมเลยจัดของหวานไป 1 แมทต์ กับเมนูชูโรงของที่นี่ก็คือ ฟูจิแสงตะวัน ปังเย็นเมล่อนสุดหอมหวานราคา 199 บาท น้ำเมล่อน นมสดปั่น 70 บาท และคาปูชิโน่ร้อน (อราบิก้าแท้ 100%) ราคา 50 บาท
บรรยากาศภายในร้านและที่นั่งอื่นๆ ภายในร้าน แถมยังมีมุมถ่ายรูปสวยๆ มากมายทั่วบริเวณร้านไม่ว่าจะเป็นมุมน้ำตก และมุมชมวิวบริเวณทางเข้าร้าน
สำหรับใครที่อยากมาเก็บเมล่อนสดๆ ในฟาร์มที่นี่ก็มีให้บริการ แต่อาจจะมีบางช่วงที่ฟาร์มกำลังเพาะพันธุ์ของต้นเมล่อนทำให้ไม่สามารถเข้าไปในตัวโรงเรือนได้ สำหรับใครที่อยากมาเก็บ มาถ่ายรูปกับเมล่อนสดๆ แนะนำให้มาเดือนกันยายน และยังมีเมล่อนสดๆ คุณภาพดีขายกิโลกรัมละ 150 บาทด้วยนะ ตัวร้านเปิดตั้งแต่เวลา 10.00 – 20.00 น. (หยุดทุกวันพุธ)
รองท้องด้วยของหวานกันไปแล้ว เราไปต่อกันที่ หอภาพยนต์ เมืองมายา นครปฐม หรือ พิพิธภัณฑ์ภาพยนต์ไทย ตั้งอยู่ที่ถนนพุทธมณฑลสาย 5 ที่นี่เป็นแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับภาพยนต์แห่งเดียวในเมืองไทย และน่าตื่นตาตื่นใจไปกับประวัติศาสตร์ภาพยนต์ของไทย ซึ่งเมื่อเดินเข้ามาถึงแล้วก็จะได้พบกับเมืองจำลองราวกับหลุดเข้าไปอยู่ที่เมืองนอกอย่างไงอย่างงั้น มีทั้ง โรงหนังตังค์แดง (Nikelodeon) โรงถ่ายหนังแบล็คมารีอา (Black Maria) โรงแรมสคริบ (Hotel Scribe) รับรองว่ามาโพสต์ท่าสวยๆ ที่มุมนี้ เพื่อนๆ ต้องถามแน่ๆ ว่าไปเที่ยวประเทศอะไรมา
นอกจากนี้แล้วยังมีมุมถ่ายรูปมากมายไม่ว่าจะเป็น ลานดารา รถหนังขายยา สถานีรถไฟศีนิมา ประตูสามยอด มายาพาณิชย์ และโรงละครมงคลบริษัท และยังมีมุมถ่ายรูปสวยๆ อยู่ทั่วบริเวณ ที่นี่เปิดตั้งแต่เวลา 10.00 – 17.00 น. เปิดเฉพาะวันอังคาร – อาทิตย์
ถ่ายรูปเพลินจนเกือบลืมไปว่าเที่ยงวันพอดี เราเลยไปต่อกันที่ร้าน บ้านปายนา คาเฟ่ คาเฟ่บรรยากาศทุ่งนาที่เพิ่งเปิดได้ไม่นานมานี้ สำหรับตัวร้านก็ตกแต่งดว้ยสไตล์แบบบ้านนาเน้นการใช้วัสดุจากธรรมชาติในการตกแต่ง บริเวณตัวร้านก็กว้างขว้างและและมีพื้นที่สำหรับจอดรถได้มากถึง 50 คันเลยทีเดียว
สำหรับที่นั่งก็มีให้ลือกมากมายหลากหลายโซนไม่ว่าจะเป็นโซนห้องแอร์ภายในตัวร้าน โซนซุ้มไม้ไผ่ริมทุ่งนา โซนที่นั่งเปลตาข่าย และโซนซุ้มริมสระ ซึ่งแต่ละโซนก็สามารถมองเห็นวิวทุ่งนาสีเขียวได้อย่างสบายตา พร้อมกับรับลมเย็นๆ ที่พัดมาได้ตลอดทั้งวัน
หรือใครที่อยากเห็นวิวจากมุมสูงก็สามารถขึ้นมานั่งที่ชั้นบนตัวร้านได้นะ
เมนูอาหารของที่นี่ก็เด็ดไม่แพ้กันมีทั้งเครื่องดื่มชา กาแฟ และอิตาเลียนโซดา และเมนูอาหารก็มีทั้งอาหารไทยฟิวชั่น อาหารอีสาน และของทานเล่น สำหรับวันนี้ผมสั่ง ยำปายนา ยำส้มโอรสชาติเด็ด ราคา 139 บาท ยำวุ้นเส้นรวม ราคา 99 บาท อิตาเลี่ยนโซดาสตรอว์เบอร์รี่ ราคา 60 บาท และ สตรอว์เบอร์รี่สมูทตี้ ราคา 70 บาท
นั่งกินชิลล์ๆ พร้อมดูวิวทุ่งนาสีเขียวไปแบบเพลินๆ
และที่เรียกได้ว่าเป็นไฮไลท์ของที่นี่ก็คือ สะพานไม้ที่ทอดยาวขนานไปกับทุ่งนาที่รับรองว่าได้ภาพสวยๆ อย่างแน่นอน ถ้าเดินไปจนสุดก็ยังมีกระท่อมกลางนาให้นั่งรับลมกันแบบชิลล์ๆ อีกด้วย นอกจากนี้ทางร้านยังมีบริการบินโดรนถ่ายรูปเฉพาะวันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 10.00 น. อีกด้วยนะ สำหรับตัวร้านเปิดเวลา 08.00 – 20.00 น.
นอกจากนี้ยังมีมุมถ่ายรูปมากมายทั้งมุมสะพานไม้ริมสระหรือจะมานั่งถ่านรูปบนชิงช้าชิลล์ๆ ก็ได้ฟีลลิ่งกลับไปเต็มๆ
และเราก็ไปต่อกันที่ พระราชวังสนามจันทร์ อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดนครปฐม ซึ่งเป็นสถานที่ที่รัชกาลที่ 6 โปรดให้สร้างขึ้น ซึ่งภายในประกอบไปด้วยพระที่นั่ง พระตำหนัก และเรือนมากมายที่มีสถาปัตยกรรมแปลกตา และที่เป็นมุมยอดฮิตที่ใครไปต่างก็ต้องพากันไปถ่ายรูปก็คือ พระตำหนักมารีราชรัตบัลลังก์ สถาปัตกรรมแบบนีโอคลาสสิคที่เชื่อมต่อกับ พระตำหนักชาลีมงคลอาสน์ โดยสะพานมุงหลังคาพาดผ่านบึงน้ำเรียกได้ว่าหาดูได้แค่ที่นี่เพียงที่เดียวเท่านั้น
บรรยากาศด้านหน้า พระตำหนักชาลีมงคลอาสน์ และบรรยากาศโดยรอบที่เต็มไปด้วยความร่มรื่นจาดต้นไม้สูงใหญ่ที่แผ่กิ่งใบให้ร่มเงา
นอกจากนี้ยังมี พระตำหนักทับขวัญ เรือนไทยหมู่ที่ยังคงอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี สำหรับใครที่จะมาเที่ยวที่นี่อาจจะต้องเผื่อเวลาสักนิดเพราะมีเนื้อที่ค่อนข้างกว้าง และที่สำคัญต้องแต่งตัวด้วยชุดสุภาพ ไม่อนุญาติให้สวมกางเกงที่มีรอยขาดเข้า
มาถึงนครปฐมแล้วก็ต้องไม่พลาดไปสักการะองค์พระปฐมเจดีย์ที่ วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร พระเจดีย์ทรงลังกาประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุที่ยิ่งใหญ่และมีความสูงถึง 120 เมตรกับอีก 45 เซ็นติเมตร และมีตัววิหาร 4 ทิศ กำแพงแก้ว 2 ชั้น ตัวเจดีย์สีทองที่กระทบกับแสงพระอาทิตย์ในช่วงยามเย็นยิ่งเพิ่มความสวยงามเป็นอย่างมาก
มุมสงบๆ ภายในบริเวณองค์พระปฐมเจดีย์
บรรยากาศภายในวัดเต็มไปด้วยความสงบและไม่วุ่นวาย ลองมาหามุมถ่ายรูปที่นี่ก็ได้ภาพสวยแปลกตาไปอีกแบบ เปิดตั้งแต่เวลา 05.00 – 19.00 น. หรือใครที่อยากมาตรงกับช่วงเทศกาลนมัสการองค์พระปฐมเจดีย์งานจะจัดขึ้นช่วงวันขึ้น 12 ค่ำ เดือน 12 ถึง วันแรม 5 ค่ำ เดือน 12 รวม 9 วัน 9 คืน ในทุกๆ ปี
ช่วงเย็นวันนี้เราเลยไปปิดท้ายทริปกันที่ร้าน แซ่บนัว @ศาลายา ร้านอร่อยชื่อดังแห่งย่านศาลายาตัวร้านตั้งอยู่ข้างโรงพยาบาลพุทธมณฑล และที่สำคัญที่นี่จัดเต็มเรื่องวิวสุดๆ
สำหรับคอนเซ็ปต์ของ แซ่บนัว @ศาลายา ที่นี่เป็นอีสานคาเฟ่และร้านอาหารอีสานสไตล์บ้านๆ แต่ก็มีความโมเดิร์นผสมอยู่ได้อย่างลงตัว ตอบโจทย์สำหรับคนกรุงที่ต้องการหาอาหารแซ่บๆ อร่อยๆ วิวธรรมชาติแบบไม่ไกลกรุงเทพ ตัวร้านแบ่งออกเป็น 2 โซนคือ โซนห้องแอร์และโซน Open Air ซึ่งมีที่นั่งให้เลือกมากมาย
และที่เรียกได้ว่าเป็นกิมมิคของที่นี่ก็คือสระน้ำสีมรกตที่ตั้งอยู่กลางร้านพร้อมที่นั่งริมสระน้ำที่มาทั้งที่นั่งเปลตาข่าย และที่นั่งซุ้มม่านสีขาวที่เพิ่งเปิดใหม่ได้ไม่นานมานี้
นอกจากนี้แล้วยังมีที่นั่งซุ้มไม้ไผ่ริมทุ่งนาที่เพิ่งเปิดเป็นโซนใหม่ พร้อมทั้งยังมีมุมถ่ายรูปทั้งสะพานไม้และชิงช้า รังนกแบบบาหลี ให้โพสต์ท่าถ่ายรูปกันแบบเพลินๆ
สำหรับเมนูอาหารของที่นี่ส่วนมากจะเป็นอาหารอีสานรสชาติแซ่บนัวสมชื่อร้าน วันนี้วันหยุด วันพักผ่อนของผมทั้งที ผมเลยจัดเต็มกับเมนูสุดแซ่บนัวอย่าง ตำเหลารวมมิตร ราคา 159 บาท น้ำตกกระทะร้อน ราคา 149 บาท ออเดิร์ฟอีสาน ราคา 219 บาท ต้มโคล้งปลาดุกย่าง ราคา 180 บาท และไก่ย่าง ราคา 100 – 200 บาท
นั่งกินชิลล์ๆ ริมสระน้ำสีมรกต กับบรรยากาศยามเย็นที่มีลมพัดมาตลอดเวลาเป็นอะไรที่ฟินสุดๆ
บรรยากาศยามค่ำคืนกับดวงไฟของทางร้านยิ่งช่วยเพิ่มบรรยากาศให้โรแมนติกสุดๆ
เป็นอย่างไรกันบ้างกับ One Day Trip นครปฐม เที่ยวนครปฐม 1 วัน แบบเน้นกิน เน้นเที่ยวง่ายๆ ใกล้กรุงและที่สำคัญยังใช้งบไม่เยอะอีกด้วย เพื่อนๆ ลองวางแพลนตามทริปนี้ดู รับรองเลยว่าอิ่มทั้งพุง อิ่มทั้งบุญแถทยังได้รูปสวยๆ ไปอัพ Facebook เพียบ!!
สรุปค่าใช้จ่าย One Day Trip นครปฐม
ค่าน้ำมันรถ ราคา 500 บาท
ค่าอาหารและเครื่องดื่มที่ แสงตะวันฟาร์ม เมล่อนสาย 4 ราคา 319 บาท (หารสองคนตกคนละ 160 บาท)
ค่าอาหารและเครื่องดื่มที่ บ้านปายนา คาเฟ่ ราคา 368 บาท (หารสองคนตกคนละ 184 บาท)
ค่าอาหารและเครื่องดื่มที่ แซ่บนัว @ ศาลายา ราคา 907 บาท (หารสองคนตกคนละ 454 บาท)
สรุปค่าใช้จ่ายสำหรับ 2 คนตกคนละ 1,048 บาท