One Day Trip | เที่ยวสระบุรี กับงบที่มีไม่เกิน 1,000
31,010 ครั้ง
25 ม.ค. 2565
31,010 ครั้ง
25 ม.ค. 2565
เชื่อเลยว่าใครๆ ต่างก็อยากเที่ยวแบบประหยัดเงินและเวลา แต่ก็อยากให้คุ้ม กินให้อิ่ม วันนี้ทริปเก็ทเตอร์เลยพาเพื่อนๆ ปักหมุดไปเที่ยวกันที่ สระบุรี จังหวัดที่เต็มไปด้วยความเป็นธรรมชาติ ทั้งน้ำตก อุทยาน ป่าไม้ และที่สำคัญอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ซึ่งใช้เวลาในการเดินทางเพียง 2 ชั่วโมงเศษก็ถึงแล้ว และแน่นอนว่าการเดินทางท่องเที่ยวในทริปนี้เราจะใช้เงินไม่เกิน 1,000 บาท! บอกเลยว่าถ้าใครกำลังวางแพลนเที่ยวง่ายๆ สบายกระเป๋า แต่เหมาหมดทุกความคุ้ม ตามกันไปเลยกับ One Day Trip เที่ยวสระบุรี กับงบที่มีไม่เกิน 1,000
เราเริ่มต้นเดินทางกันจากกรุงเทพฯ ด้วยรถยนต์ส่วนตัว และแอบกระซิบว่าน้ำมันรถของเรามีอยู่ เลยโชคดีไม่ต้องเสียค่าน้ำมัน ขับรถราวๆ 2 ชั่วโมงครึ่ง ก็มาถึงจุดหมายที่เราตั้งใจไว้ นั่นก็คือ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ขับรถมาเรื่อยๆ แต่ก็ต้องหยุดรถแบบไม่มีอะไรมากั้น! เพราะสิ่งที่เรามาเจอนั้น มันสวยมากทุกคน เราเจอกับรางรถไฟทางคู่ยกระดับ ที่พาดยาวตีโค้งโดยมีภาพวิวภูเขาและสีของท้องฟ้าเป็นฉากหลัง ขนานคู่ไปกับทางรถไฟสายเดิม
สวยมากเหมือนหลุดเข้ามาในโลกของเทพนิยาย แต่ละเสาของทางรถไฟมีส่วนโค้งที่สัดส่วนลงตัวเหมือนกับงานสถาปัตยกรรมที่ออกแบบมาอย่างดี ว่าแล้วก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง ลงมาเดินรับสายลมเบาๆ แสงแดดอ่อนๆ ยามเช้า หามุมถ่ายรูปเก็บความสวยงามนี้ไว้หน่อยละกัน
หลังจากแวะเดินเล่นเก็บบรรยากาศระหว่างทางไปแล้ว เราก็ยังโดนตกอีกรอบกับน้ำตกแก่งหรุ น้ำตกฟีลดีที่อยู่ก่อนทางเข้าอุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย จอดรถแล้วเดินลงเนินมาไม่ไกล ภาพแรกที่เราจะเห็นก็คือสีเขียวมรกตของน้ำ และความใสในระดับแบบ HD ใสจนเห็นผืนทรายด้านล่าง เห็นฝูงปลาที่ว่ายเล่นกันเต็มไปหมด ภาพของสายน้ำที่กำลังไหลตกลงมาจากชั้นด้านบนกระเซ็นเป็นสีขาวละเอียด และเมื่อกระทบกับแสงที่ส่องรำไรผ่านใบไม้ลงมานะ เห็นเป็นสายรุ้งอ่อนๆ สวยมากๆ เลยแหละ
ริมน้ำตกมีแคร่ให้นั่งแบบชิลล์ๆ เต็มไปหมดเลย เลือกมุมที่ชอบได้ตามใจเลยด้วย มื้อกลางวันเราฝากท้องกับร้านอาหารที่นี่กัน ซึ่งแต่ละร้านเป็นร้านของคนในชุมชนที่บอกเลยว่าทั้งอร่อยและบริการดีมาก เพราะที่นี่เค้าเสิร์ฟอาหารให้ถึงแคร่
มาน้ำตกทั้งทีจะมีอะไรดีไปกว่าเมนูส้มตำ ไก่ย่าง ตำไทยรสชาติกลมกล่อมราคาเพียงจานละ 50 บาท ไก่ย่างร้อนๆ หอมฉุย แบบทั้งตัว ราคาแค่ 180 บาท กินคู่กับข้าวเหนียวร้อนๆ บอกเลยว่าฟิน
เป็นช่วงเวลากลางวันที่เหมาะกับการนอนฝันสุดๆ เพราะอากาศไม่ร้อนเลย และไอเย็นของสายน้ำ ทำให้แสงแดดที่กระทบตัว อบอุ่นไปเลย
เอาหละ! เติมพลังแบบเต็มสูบกันเรียบร้อย ก็ได้เวลาที่เราจะไปทิ้งตัวลงน้ำตกกัน ให้ความสดชื่นมันกระแทกร่างสักครั้ง
พอทิ้งตัวลงตูมใหญ่ จุ่มลงใต้น้ำแล้ว บอกเลยว่าน้ำใสและสีสวยมาก น้ำเย็นสบาย
นี่เป็นไง แจกรอยยิ้มใต้น้ำไปเลย ปิ้วๆ อย่างที่บอกไปว่าน้ำใสมาก ลืมตาในน้ำได้แบบสบายๆ
หลังจากจุ่มน้ำจนฉ่ำชื่นกาย กินอาหารอร่อยๆ กับนั่งรับบรรยากาศที่สวยแบบสุดๆ จนอิ่มใจไปแล้ว เราก็มาอาบน้ำล้างตัวกันก่อนที่จะลุยต่อ ขอบอกว่าที่น้ำตกแก่งหรุมีห้องน้ำและห้องอาบน้ำให้บริการด้วยนะ แค่คนละ 10 บาทเท่านั้นเอง ออกจากน้ำตกแก่งหรุมาอีกนิดเดียว เราก็ถึงอุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย อุทยานที่มีน้ำตกสุดอลังไม่แพ้ที่ไหนๆ เพราะมีถึงเจ็ดชั้นเลย
ค่าบริการจอดรถ 30 บาท/คัน และลานจอดรถก็กว้างมากๆ และค่าเข้าอุทยานก็เพียงแค่คนละ 20 บาทเท่านั้น ถือว่าคุ้มมากๆ ถ้าเทียบกับศิลปะของธรรมชาติที่เราจะได้เห็น
จากจุดจ่ายเงิน เดินมาไม่ถึง 10 นาที เราก็จะได้ยินเสียงของธารน้ำที่ไหลผ่านชั้นหิน และความฟ้าปนเขียวมรกตของน้ำเป็นความประทับใจแรกที่ธรรมชาติตั้งใจสร้างสรรค์มาเพื่อนำเสนอผู้มาเยือนอย่างเราๆ ชั้นของน้ำตกเจ็ดสาวน้อยที่สามารถลงเล่นน้ำได้คือชั้นที่ 1 (ก้านเหลือง) ชั้นที่ 2 (จำปีสิริธร) และชั้นที่ 4 (ยางนา) และที่สำคัญน้ำตกทุกๆ ชั้นจะมีพี่ๆ เจ้าหน้าที่คอยดูแลรักษาความปลอดภัยให้ด้วย
สะพานเหล็กข้ามน้ำตกเป็นจุดถ่ายรูปเช็คอินยอดนิยมอีกจุดหนึ่งของอุทยาน เมื่อมองจากบนสะพานลงไปเราก็จะเห็นภาพความฟ้าแกมเขียวมรกตของท้องน้ำ และเห็นภาพของชั้นน้ำตกที่ค่อยๆ ทอดตัวลดหลั่นกันไป
ไฮไลท์ของสะพานนี้ก็คือ เมื่อเดินผ่านเส้นตรงกึ่งกลางสะพานไป ก็เท่ากับว่าเรามาอีกจังหวัดแล้ว นั่นก็คือ จังหวัดนครราชสีมา บอกเลยว่ายิ่งกว่าการวาร์ป เพราะเดินข้ามจังหวัดได้แค่เพียงก้าวเดียวเท่านั้น!
เราเดินทางกันต่อประมาณ 10 นาที เพื่อมาดูความสวยงามและนั่งเล่นกินลมชิลล์ๆ กันที่อ่างเก็บน้ำมวกเหล็ก ผืนน้ำที่สงบนิ่งสุดลูกหูลูกตา ที่มีแนวของเหล่าภูเขาเป็นสิ่งประกอบฉาก เส้นทางที่ลัดเลาะเลียบไปกับริมอ่าง ให้ความรู้สึกเหมือนกับอยู่ต่างประเทศยังไงอย่างงั้น
บรรยากาศที่นี่สงบมาก สายลมที่พัดผิวน้ำทำให้เกิดระลอกคลื่นเล็กๆ เป็นช่วงๆ แสงแดดที่ส่องกระทบภูเขาเป็นจุดๆ ไม่แปลกเลยที่อ่างเก็บน้ำมวกเหล็กมีจุดตั้งแคมป์เยอะมาก
ก่อนกลับกรุงเทพฯ เราแวะมาฝากท้องมือเย็นกันที่ครัวน้ำตก ร้านอาหารบรรยากาศดี เพราะที่นี่อยู่ติดริมน้ำตกเหมือนชื่อร้านเลย ระหว่างรออาหารก็นั่งมองภาพและฟังเสียงสายน้ำที่กระทบกับชั้นหินไปเพลินๆ เติมความอิ่มใจก่อนที่จะอิ่มกาย
นั่งมุมนี้เห็นน้ำตกแบบ Full HD มาก เป็นร้านอาหารที่ถ่ายรูปได้ทุกมุมจริงๆ
เมนูอาหารของที่นี่มีให้เลือกเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นเมนูผัด ต้ม ทอด และยำ แต่ละเมนูน่ากินทั้งนั้นเลย แต่ว่าเราจะเลือกสั่งเมนูที่อยู่ในงบของเรา! นั่นก็คือ หมูผัดเปรี้ยวหวานที่รสชาติกลมกล่อมมากๆ ความหวานตัดกับรสเปรี้ยวได้ลงตัวสุดๆ จานนี้ ราคาอยู่ที่ 200 บาท และต้มยำปลากะพงรสแซ่บที่มาพร้อมกับเนื้อปลาแบบเน้นๆ ในราคา 250 บาท กินคู่กับข้าวสวยร้อนๆ จัดเต็มแบบโถไปเลย เป็นการปิดทริปได้แบบสุขมาก
และทั้งหมดนี้ก็คือ One Day Trip เที่ยวสระบุรี กับงบที่มีไม่เกิน 1,000 ที่สบายทั้งการเดินทาง สบายทั้งกระเป๋าเงิน แต่เก็บครบ เก็บคุ้มทุกความเป็นธรรมชาติที่เราโหยหา ไม่ว่าจะเป็นน้ำตกที่ชิลล์ อุทยานที่ผ่อนคลาย เส้นทางเลียบอ่างเก็บน้ำที่สวยสุดตา รวมทั้งเมนูอาหารรสเลิศ ถ้าใครกำลังมองหาการพักผ่อนสบายๆ แบบนี้แนะนำเลยว่าลองเก็บสระบุรีไว้ในลิสต์ดูนะ
รวมค่าใช้จ่ายตลอด One Day Trip เที่ยวสระบุรี กับงบที่มีไม่เกิน 1,000
– ค่าอาหารกลางวันที่น้ำตกแก่งหรุ 290 บาท (145 บาท/คน)
– ค่าใช้บริการห้องอาบน้ำ 10 บาท (5 บาท/คน)
– ค่าจอดรถอุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย 30 บาท (15 บาท/คน)
– ค่าเข้าชมอุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย 40 บาท (20 บาท/คน)
– ค่าอาหารเย็นที่ร้านครัวน้ำตก 560 บาท (280 บาท/คน)
รวมค่าใช้จ่ายตลอดทริป 930 บาท (สำหรับ 2 คน)
เฉลี่ยเหลือคนละ 465 บาท
**ราคาไม่รวมค่าน้ำมันรถไป-กลับ และค่าของฝากต่างๆ**
หวังว่าเพื่อนๆ จะได้ไอเดียการเที่ยวแบบชิลล์ๆ ที่เซฟทั้งงบและเวลากับ One Day Trip | เที่ยวสระบุรี กับงบที่มีไม่เกิน 1,000 ถ้าเพื่อนๆ คนไหนอยากไปทริปค้างคืนแบบใกล้กรุงเทพ ขอแนะนำ 5 ที่พักราชบุรี ฟีลเมืองนอก ท่ามกลางบรรยากาศสุดโรแมนติก และพาทุกคนไปดื่มกับสัมผัสธรรมชาติกันต่อกับ 5 ที่เที่ยวฟีลต่างประเทศ ธรรมชาติน่าทึ่งที่สายกรีนไม่ควรพลาด รับรองเที่ยวจนจุกแน่นอน