ทริป 3 วัน 2 คืน ค้นหาอันซีนเมืองตาก สักครั้งในชีวิตที่ต้องไป!!
26,292 ครั้ง
23 ส.ค. 2565
26,292 ครั้ง
23 ส.ค. 2565
“ตาก” เมืองเล็กๆ ด้านตะวันตกสุดของประเทศไทย ที่เต็มไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่สวยงาม รวมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังมากมาย อีกทั้งยังมีเสน่ห์ของวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของผู้คนที่ผสมผสานกันได้อย่างลงตัว ในวันนี้ทริปเก็ทเตอร์จะพาทุกๆ คนเดินทางไปค้นหาสถานที่ที่เรียกได้ว่าสวยปังอลังการ! กันกับ ทริป 3 วัน 2 คืน ค้นหาอันซีนเมืองตาก สักครั้งในชีวิตที่ต้องไป!!
เราตั้งต้นทริปกันที่อำเภอเมืองตาก ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เราจะค้นหาอันซีนกันในวันที่หนึ่ง โดยสถานที่แรกที่เราแวะเข้าไปเช็คอินก็คือร้านเถียงนา Coffee and Bakery Farm คาเฟ่บรรยากาศดีที่ได้นำเสนอความอบอุ่นผ่านการตกแต่งร้านด้วยการใช้บ้านไม้หลังเก่ามารีโนเวทเป็นพื้นที่อินดอร์ห้องกระจก รวมทั้งโซนเอาท์ดอร์ที่อาศัยความร่มรื่นของใต้เงาไม้และริมสระน้ำที่มีเหล่าต้นหญ้าขึ้นกระจายกัน
นอกจากบรรยากาศแล้ว ยังมีความโดดเด่นในด้านความอร่อยของเบเกอรี่โฮมเมด โดยเฉพาะเมนูครัวซองต์แสนขึ้นชื่อที่ทางร้านควบคุมคุณภาพการสร้างสรรค์รสชาติได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีเมนูอาหารและเครื่องดื่มที่มีความอร่อยไม่แพ้กันอีกมากมายให้ได้เลือกลิ้มรสเพียบ
ในมื้อแรกของเรามีทั้ง สปาเกตตี้พริกแห้งปลาสลิดกรอบ จัดจ้านกำลังดี เพลิดเพลินไปกับความกรอบของปลาสลิดชิ้นพอดีคำ ตามด้วยเมนูของหวานไฮไลท์อย่าง Yuzu Croissant ที่ซ่อนความสดชื่น หวานอมเปรี้ยวไว้ภายในครัวซองค์กรอบๆ L’Opéra เมนูเค้กสุดสร้างสรรค์ที่ส่งความหรูหราผ่านรสชาติแสนละมุน และ Salted Caramel Crumble Coffee เมนูเครื่องดื่มที่จะเพิ่มความสนุกสนานในระหว่างการดื่ม
มาจังหวัดตากทั้งที จะพลาดสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ประจำเมืองไปได้อย่างไร หลังจากเต็มอิ่มจากรสชาติความอร่อยกันแล้ว เราก็เข้ามาที่ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เพื่อกราบสักการะสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชเพื่อความเป็นสิริมงคลของชีวิตและของการเดินทางตลอดทั้งทริปของเรา โดยศาลฯ ตั้งอยู่บนพื้นที่ที่เป็นเนินสูง สามารถมองเห็นพื้นที่โดยรอบและภูเขาน้อยใหญ่ได้ ศาลาศิลปะไทยทรงจตุรมุขที่ประดิษฐานพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินฯ งดงามไปด้วยการประดับตกแต่งลวดลายประณีตบรรจง พร้อมทั้งภาพจิตรกรรมที่ถ่ายทอดเรื่องราวพระราชประวัติของสมเด็จพระเจ้าตากสินฯ
ในบริเวณพื้นที่ของศาลฯ จะมีจุดจำหน่ายชุดเครื่องสักการะที่มีทั้งดอกไม้ ธูป เทียน และสิ่งของอื่นๆ เมื่อได้ชุดดอกไม้ธูปเทียนแล้ว ก็สามารถนำมาไหว้และกล่าวคำอธิษฐานกันได้เลย โดยตามความเชื่อ ผู้ที่ได้กราบสักการะขอพรสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช จะได้รับความเป็นมงคลและยังประสบความสำเร็จในด้านของการงาน การเงิน หนี้สิน ค้าขาย และการเรียนอีกด้วย
มาเสริมดวง เติมแต้มบุญกันต่อที่วัดโบสถ์มณีศรีบุญเรือง ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามกับศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช วัดแห่งนี้เกิดจากการนำเอาวัดสองแห่งมาผนวกรวมเข้าด้วยกัน คือวัดโบสถ์มณีราษฎร์และวัดศรีบุญเรือง จึงเป็นที่มาของชื่อวัดโบสถ์มณีศรีบุญเรืองในปัจจุบันนั่นเอง
โดยไฮไลท์ของวัดแห่งนี้ก็คือพระเจดีย์ศิลปะมอญองค์สีทองสุกปลั่งตั้งตระหง่าน มีโบสถ์ศิลปะไทยเชื่อมติดกับองค์พระเจดีย์เป็นมุขยื่นออกมา มีหลวงพ่อพระพุทธมนต์ พระพุทธรูปศิลปะสุโขทัยที่มีพุทธลักษณะที่อ่อนช้อย งดงามประดิษฐานอยู่ภายใน โดยด้านซ้ายขวาของพระพุทธรูปมีรูปเคารพเทวดาศิลปะมอญสุดประณีตตั้งอยู่ แวะเข้ามากราบสักการะกันก่อนออกไปท่องเที่ยวกันต่อ
มื้อกลางวันเรามาลิ้มรสความอร่อยสุดขึ้นชื่อของเมืองตากกันที่ ร้านก๋วยเตี๋ยวแม่บางหัวเดียด ร้านก๋วยเตี๋ยวโบราณที่การันตีคุณภาพและความอร่อยด้วยระยะเวลาที่ยาวนานกว่า 70 ปี โดยในอดีตนั้นราคาก๋วยเตี๋ยวชามละ 50 สตางค์ และในปัจจุบันก็ยังคงราคาสบายๆ อยู่ที่ชามละ 35 บาทเท่านั้น ตัวร้านเป็นโถงเปิดโล่ง เย็นสบาย การบริการและการต้อนรับก็เรียกได้ว่าเป็นกันเองและแสนอบอุ่นอย่างมาก
เมนูก๋วยเตี๋ยวของร้านมีให้เลือกอยู่หลายเมนู ไม่ว่าจะเป็นบะหมี่แห้งหมูแดง โดยหมูแดงและแคบหมู เป็นสูตรโบราณของทางร้าน ที่มีความหอม นุ่ม และรสชาติกลมกล่อมเฉพาะตัว อีกทั้งเส้นบะหมี่ยังมีรสชาติที่เนียนนุ่ม หรือจะเป็นเมนูต้มยำโบราณที่หอมกลิ่นมะนาว รสชาติกลมกล่อม และไม่มีถั่วลิสง (แต่สามารถเติมเองได้) นอกจากนี้ยังมีเมนูขนมถ้วย และเครื่องดื่มสมุนไพรนานาชนิดให้ได้ลองเพิ่มความสดชื่นกันอีกด้วย
หลังจากอิ่มท้องกับมื้อกลางวันกันแล้ว เราเดินทางมายัง วัดพระบรมธาตุ แลนด์มาร์กอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดตากที่ตั้งอยู่ในอำเภอบ้านตากกันต่อ โดยวัดพระบรมธาตุเป็นที่ประดิษฐานพระบรมธาตุเจดีย์ ที่มีองค์ต้นแบบมาจากพระเจดีย์ชเวดากอง ตั้งตระหง่านเป็นเจดีย์ประธาน พร้อมกับเจดีย์องค์เล็กๆ มากมายตั้งเรียงรายล้อมพระเจดีย์องค์ใหญ่ไว้ ตามความเชื่อของชาวเหนือถือว่าพระบรมธาตุแห่งนี้เป็นพระธาตุประจำปีเกิดของปีมะเมีย (ม้า) อีกด้วย
นอกจากนี้ภายในวัดยังมีพระเจ้าทันใจที่นับได้ว่าศักดิ์สิทธิ์ที่สุดอีกองค์หนึ่งประดิษฐานอยู่ภายในวิหารด้านข้างของพระบรมธาตุเจดีย์ให้ได้ขอพรกันรัวๆ
อีกทั้งยังมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่เป็นไฮไลท์ของวัดซึ่งตั้งอยู่ด้านหน้าลานจอดรถ จากจุดพระพุทธรูปองค์ใหญ่สามารถชมวิวภูเขาที่ห้อมล้อมเมืองอยู่ได้อีกด้วย
หลังจากท่องเที่ยวได้ราวครึ่งวันแล้ว เราก็เข้ามาเช็คอิน พักผ่อน และเก็บกระเป๋ากันที่ บ้านวนาสิน ที่พักบรรยากาศดีแสนสงบงามในตัวเมืองตากที่มีความโดดเด่นคือบ้านไม้สักทองหลังใหญ่สไตล์ไทยโมเดิร์นหลังคาทรงปั้นหยา ยกพื้นใต้ถุน ตั้งอยู่ท่ามกลางความร่มรื่นและเขียวขจีของเหล่าต้นไม้น้อยใหญ่บนพื้นที่สุดกว้างขวาง
บ้านวนาสินมีห้องพักให้เลือก 2 แบบ แบบแรกคือ Deluxe Room ซึ่งเป็นห้องพักที่เราเลือกพักผ่อนกันในค่ำคืนของวันแรก ซึ่งห้องสักทองมีอยู่ทั้งหมด 8 ห้อง สามารถรองรับได้ 2 คน และเสริมที่นอนได้ 2 ที่ เมื่อเข้าสู่ภายในห้องพักก็จะพบกับความเรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยความงามที่ไร้การปรุงแต่งของเนื้อไม้สักทอง เฟอร์นิเจอร์ ไม่ว่าจะเป็นเตียง โต๊ะ และตู้ ต่างก็ทำมาจากไม้ทั้งหมด ความอบอุ่นภายในห้องถูกสื่อผ่านการใช้โทนสีขาวผสานกับสีของเนื้อไม้สักทอง และนอกจากนี้แต่ละห้องยังมีระเบียง ที่มาพร้อมกับชุดโต๊ะเก้าอี้ให้ได้นั่งรับลมสบายๆ พร้อมกับรับความสดชื่นของต้นไม้และอากาศบริสุทธิ์กันอีกด้วย
ห้องพักอีกแบบที่เป็นไฮไลท์ของบ้านวนาสิน ก็คือ Vanasin Suite ห้องพักที่มาพร้อมกับพื้นที่กว้าง มีทั้งส่วนของพื้นที่นั่งเล่น ที่มีชุดเก้าอี้หน้าทีวี หรือจะเป็นบาร์ที่นั่งเบาะนุ่มๆ และระเบียงยาวที่เมื่อเปิดประตูออกไปก็สามารถมองเห็นวิวน้ำตกจำลองขนาดใหญ่ได้แบบ HD และที่สำคัญคือห้องเฮอริเทจนี้ มีเพียงห้องเดียวเท่านั้น บอกเลยว่าเป็นห้องพักที่ตอบโจทย์กิจกรรมในวันพักผ่อนแบบครอบครัวและกลุ่มเพื่อนเป็นที่สุด
เก็บกระเป๋า เข้าไปนั่งพักในห้องกันแล้ว เราก็ลงมาเดินเล่นสบายๆ กันในพื้นที่ของบ้านวนาสินกันต่อ โดยไฮไลท์ของบ้านวนาสินนอกจากจะมีบ้านไม้สักทองแล้ว ยังมีในโซนของน้ำตกจำลองขนาดใหญ่ที่ห้อมล้อมไปด้วยแมกไม้สุดร่มรื่นอีกด้วย นอกจากนี้ตามริมน้ำตกยังมีที่นั่งให้ได้ฟังเสียงน้ำ รวมทั้งโถงทางเดินใต้อุโมงค์ต้นไม้ให้ได้เดินเล่น เซลฟี่สวยๆ พร้อมกับดื่มด่ำความสงบและความสดชื่นของบรรยากาศที่เรียกได้ว่าราวกับได้พักผ่อนในผืนป่าสุดอุดมสมบูรณ์ยังไงอย่างงั้น
บ้านวนาสินยังมีจักรยานให้บริการฟรีด้วยนะ สามารถปั่นเล่นสบายๆ ในพื้นที่ของที่พักได้เลย ถือเป็นการพักผ่อนชิลล์ๆ ก่อนออกไปเที่ยวกันต่อ
ได้เก็บกระเป๋า ใช้เวลาที่บ้านวนาสินได้สักพัก เราก็ออกมาชมความงามของความเก่าแก่และวิถีชีวิตกันต่อที่ ตรอกบ้านจีน ชุมชนค้าขายโบราณอายุนับร้อยปีนับตั้งแต่ครั้งสมัยรัชกาลที่ 5 ถนนสายเล็กที่ทอดผ่านอาคารบ้านเรือนโบราณที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความงามของอดีตที่รุ่งเรือง โดยบ้านแต่ละหลังจะมีคิวอาร์โค้ดที่นักท่องเที่ยวสามารถสแกนเพื่อศึกษาข้อมูลและประวัติของแต่ละหลังได้แบบง่ายๆ
ในพื้นที่ของตรอกบ้านจีนยังมีอาคารที่ประณีตงดงามอยู่หลายหลัง โดยเฉพาะบ้านโสภโณดร หรือบ้านสีฟ้า บ้านไม้ทรงไทยผสมยุโรปหลังคาทรงปั้นหยา รูปแบบสถาปัตยกรรมแบบขนมปังขิง ที่มีลวดลายฉลุไม้สุดประณีต ทาสีฟ้าทั่วทั้งหลัง ซึ่งยังส่งผ่านความสวยงามจากอดีตได้อย่างสมบูรณ์
เมื่อเดินถัดจากบ้านโสภโณดรไม่ไกล ก็จะพบกับบ้านจีนทองอยู่ หรือบ้านหลวงบริรักษ์ประชากร ที่มีความโดดเด่นคือซุ้มบันไดทางเข้าบ้านที่มีลักษณะและรูปแบบสถาปัตยกรรมที่ไม่เหมือนหลังใดๆ โดยเป็นบันไดที่สามารถขึ้นได้จากทั้งสองด้านและมีฉากหลังเป็นส่วนโค้งเว้าครึ่งวงกลม เหมาะกับถ่ายรูปสวยๆ ไว้อัปลงโซเชียลเป็นที่สุด
นอกจากนี้ภายในพื้นที่ของตรอกบ้านจีน ยังมีร้านอาหารเล็กๆ ที่ยังคงกลิ่นอายความดั้งเดิมและเสน่ห์ของรสชาติไว้ได้อย่างครบถ้วน อย่างร้านผัดไทยตรอกบ้านจีน ตัวร้านเป็นอาคารไม้เปิดโล่ง โดยตั้งครัวอยู่ด้านหน้าร้านที่ผู้มาเยือนสามารถสัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมของอาหารที่ทำสดๆ ใหม่ๆ จานต่อจาน และแต่ละเมนูราคาเพียงแค่ 20 บาทเท่านั้น เหมาะกับการแวะพักหลังการเดินชมความงามในตรอกบ้านจีนเป็นที่สุด
หลังจากเที่ยวชมตรอกบ้านจีนกันแล้ว ก็เป็นช่วงเย็นที่ท้องฟ้าเปลี่ยนสี อากาศกำลังสบาย เรามารับลมชมวิวสวยๆ กันต่อที่สะพานสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี หรือที่เรียกกันว่าสะพานแขวน สถานที่แลนด์มาร์กในตัวเมืองตาก สำหรับพักผ่อนหย่อนใจในช่วงเวลาเย็นของชาวตาก และยังถือว่าเป็นสถานที่ชมวิวท้องฟ้าและสายน้ำปิงที่สวยที่สุดอีกแห่งหนึ่งอีกด้วย สะพานแขวน ความยาวกว่า 400 เมตรที่ทอดยาวข้ามแม่น้ำปิงแห่งนี้ สามารถมาใช้เวลาสบายๆ กันได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นเดินเล่น นั่งรับลมบนสะพาน หรือจะถ่ายรูปเช็คอินสวยๆ ไว้อัปลงโซเชียลก็ได้
ปิดท้ายทริปวันแรกกันที่ สุขเสมอ ร้านอาหารที่มาพร้อมกับบรรยากาศความสุขที่มาจากความสบาย ตามแบบพื้นที่กลางแจ้งสไตล์แคมป์ปิ้ง สถานที่ที่สามารถนั่งแลกเปลี่ยนเรื่องราว รอยยิ้ม ความสุข ความทุกข์ กับกลุ่มเพื่อนและคนรู้ใจ รวมทั้งครอบครัวได้เรื่อยๆ โต๊ะที่นั่งหลากหลายรูปแบบกระจายกันอยู่ทั่วทั้งสนามหญ้า อีกทั้งยังมีมุมถ่ายรูปเท่ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นที่นั่งรอบกองไฟ เต๊นท์และชุดเก้าอี้สนาม รวมทั้งยังมีลานสเก็ตบอร์ดให้ได้เล่นกันอย่างเพลิดเพลิน
ในด้านของเมนูอาหารและเครื่องดื่ม ก็มีให้เลือกอยู่อย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นค็อกเทล ม็อกเทล อาหารจานหลัก หรืออาหารกินเล่น โดยมื้อส่งท้ายวันแรก เราสั่งชุดชาบู พร้อมกับน้ำจิ้มสุกี้สูตรโบราณ รสชาติกลมกล่อม ชุดหม่าล่าที่รวมมาหลากหลายอย่าง พร้อมกับเครื่องดื่มม็อกเทลที่เป็นเมนูไฮไลท์อย่าง สุขเสมอ ที่ผสมผสานกันระหว่างสตรอว์เบอร์รีกับเสาวรส และสุขใจ ที่หอมละมุนของพีชและลิ้นจี่ บอกเลยว่าถือเป็นการใช้เวลาพักผ่อนที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มได้อย่างลงตัว
เช้าวันที่สองเราเริ่มต้นวันด้วยมื้ออาหารเช้าของบ้านวนาสินที่มาพร้อมกับเมนูหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นข้าวต้มหมูสับเห็ดหอม Breakefast set ที่มีทั้งไส้กรอก ไข่ดาว แฮม และสลัดผัก ไข่กระทะ เมี่ยงคำวนาสิน รวมทั้งผลไม้ และขนมไทย นอกจากนี้ยังมีเครื่องดื่มหอมๆ อย่าง น้ำอัญชันใบเตย นั่งกินสบายๆ ริมน้ำตก และท่ามกลางความสดชื่นของต้นไม้ เป็นช่วงเวลาดีๆ ก่อนจะออกไปค้นหาอันซีนกันต่อ!
หลังจากพักผ่อนและกินอาหารเช้ากันเติมพลังกายกันแล้ว เราก็มุ่งหน้าสู่ อำเภอแม่สอด เมืองท่ามกลางอ้อมกอดของม่านหมอกและขุนเขาด้านตะวันออกสุดของไทย
ระหว่างเส้นทางลัดเลาะภูเขาน้อยใหญ่มีจุดไฮไลท์ที่เรียกว่า เนินพิศวง ซึ่งเป็นพื้นที่ขึ้นเนิน แต่เมื่อปลดเกียร์ว่าง หรือนำสิ่งของที่สามารถกลิ้งหรือไหลได้ไปวางบนพื้น ต่างก็จะไหลและกลิ้งขึ้นเนินไป สร้างความประหลาดใจเป็นอย่างมาก แต่ทั้งหมดนี้สามารถอธิบายด้วยเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ได้ว่า เป็นปรากฏการณ์ภาพลวงตา เนื่องจากเมื่อวัดระดับความสูงของทั้งสองจุด ทั้งจุดที่เป็นเนินและจุดที่เราอยู่แล้วนั้น จุดที่เราอยู่จะมีความสูงกว่านั่นเอง
เมื่อเดินทางมาถึงแม่สอด เราก็เข้าไปชมความงดงามของสถาปัตยกรรมแบบพม่าและความงามของศรัทธาในพระพุทธศาสนาของชาวพม่าที่อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานในแม่สอด นั่นก็คือ วัดไทยวัฒนาราม วัดที่นับได้ว่ามีความงดงามที่สุดแห่งหนึ่งของแม่สอด ซึ่งมีอายุนับร้อยปีตั้งแต่ราว พ.ศ.2400 เมื่อเข้าสู่ภายในวัด ก็จะพบกับพระวิหารสีทองอร่ามที่ประดับตกแต่งด้วยลวดลายฉลุทั่วทั้งหลัง พร้อมทั้งสิงห์สีทองสุดวิจิตรสองตัว และเสารูปหงส์สีทองตามทางเดินเข้าสู่พระวิหาร เป็นภาพที่งดงามจนอดถ่ายรูปเก็บไว้ไม่ได้เลย
ด้านข้างของพระวิหารจะเป็นที่ตั้งขององค์พระเจดีย์โกนาวิน ซึ่งเป็นเจดีย์เก้ายอดศิลปะพม่า พร้อมกับรูปปั้นหงส์ขนาดใหญ่ซ้อนกันสองตัว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์บอกเล่าถึงตำนานการสร้างเมืองหงสาวดีที่ว่า ครั้งอดีตกาล พระพุทธเจ้าเสด็จมายังดินแดนแห่งนี้ ทรงทอดพระเนตรเห็นหงส์ทองสองตัวเล่นน้ำอยู่ จึงตั้งชื่อดินแดนแห่งนี้ว่า เมืองหงสาวดีนั่นเอง
นอกจากนี้เมื่อเดินมายังวิหารพระมหาเมี๊ยะมุนี เราก็จะพบกับพระมหาเมี๊ยะมุนี ซึ่งเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ศิลปะพม่าแบบทรงเครื่องแสนประณีตที่ได้จำลองมาจากองค์จริงที่เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศพม่า นอกจากนี้ทั่วทั้งวิหารยังมีพระพุทธรูปศิลปะไทยใหญ่อีกหลายองค์ให้ได้กราบสักการะกันอีกด้วย
เดินต่อมายังด้านหลังของวัดก็จะเป็นที่ประดิษฐานของพระนอนองค์ใหญ่ หรือที่เรียกกันว่าพระนอนตาหวาน และอาคารพุทธพิพิธภัณฑ์ที่เป็นการจำลองพุทธประวัติเมื่อครั้งที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงมาจากดาวดึงส์และเผยแพร่พระศาสนาอีกด้วย โดยในอาคารนี้จะมีเพลงดนตรีพม่าโบราณบรรเลง ร่วมกับพระพุทธเจ้าและเทวดาองค์จำลองเวียนมาให้เราได้ใส่บาตรทำบุญเพื่อความเป็นสิริมงคล
อีกทั้งยังมีศาลเจ้าเทพทันใจ (นัตโบโบยี) ที่เป็นที่เคารพศรัทธาของชาวพม่าตั้งอยู่ โดยเชื่อกันว่าไม่ว่าจะขอพรเรื่องใด ก็จะสมปรารถนาทั้งหมด ว่าแล้วก็ไม่รอช้า ขอพรเน้นๆ กันสักหน่อย และมีวิหารพระอุปคุตที่ได้จำลองสะดือทะเลที่จำพรรษาของพระอุปคุตตามตำนานให้ได้สักการะกันอีกด้วย
นอกจากนี้ภายในวัดยังมีศาลาการเปรียญหลังใหญ่ที่ประดับลวดลายฉลุเครื่องทองเหลืองสุดประณีต ซึ่งวันที่เราไปตรงกับวันพระพอดี จึงได้ภาพที่ชาวบ้านต่างเข้ามาไหว้พระสวดมนต์ ถวายภัตตาหารกันมากมาย สัมผัสได้ถึงความศรัทธาอันแรงกล้าอย่างมาก
อิ่มบุญ อิ่มใจจากความงามของวัดไทยวัฒนารามกันแล้ว เราก็มากินมื้อกลางวันกันที่ร้านก๋วยเตี๋ยวบ้านดิน ร้านก๋วยเตี๋ยวที่เรียกได้ว่าถ้ามาแม่สอด ต้องแวะเข้ามาลองชิมให้ได้ โดยตัวร้านจะเป็นบ้านที่ทำมาจากดินทั้งหมด บรรยากาศโปร่งโล่งสบาย ด้านหน้าของตัวร้านจะเป็นครัวที่สามารถสัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมและกรรมวิธีการทำแต่ละเมนูได้แบบชัดเจน
มาทั้งทีต้องลองชิมเมนูไฮไลท์ของทางร้าน อย่างสุดๆ ไปเลย ที่เรียกได้ว่ารวมทุกเมนูมาให้ในชามเดียว ซึ่งมีทั้งน่องไก่ติดสะโพกชิ้นใหญ่เนื้อนุ่ม เนื้อหมูทั้งสดและเปื่อย ลูกชิ้น มาพร้อมกับซุปน้ำตกสุดเข้มข้น และข้าวผัดปลาร้า เมนูจัดจ้านหอมกรุ่นปลาร้า กินคู่กับผักและผลไม้สดเป็นเครื่องเคียง และยังมีเมนูเครื่องดื่มอย่างชาไทยที่หอมกลิ่นชาอย่างชัดเจน ทุกเมนูบอกเลยว่ารสชาติละมุนและสัมผัสได้ถึงความใส่ใจของเจ้าของร้านเป็นที่สุด
เราเดินทางกันต่อ เพื่อมาถ่ายรูปที่จุดอันซีนแห่งใหม่ของแม่สอด นั่นก็คือ โค้ง 33 บ้านแม่โกเกน ซึ่งอยู่ติดริมแม่น้ำเมยและชายแดนพม่า จากจุดถ่ายรูปที่เป็นป้ายถนน สามารถมองเห็นเนินเขาสลับกันไปมาพร้อมกับเส้นทางที่มีลักษณะเป็นเลข 3 ต่อกัน 2 ตัวอย่างชัดเจน นอกจากนี้บรรยากาศรอบๆ จุดอันซีนแห่งนี้ ยังเต็มไปด้วยความสวยงามของท้องทุ่งข้าวโพด ความเขียวขจีของธรรมชาติ และสายลมอ่อนๆ ที่เบาสบาย และบอกได้เลยว่าระหว่างการเดินทางมายังโค้ง 33 สามารถเปิดกระจกรถชมวิวข้างทางได้ชิลล์สุดๆ
ได้รูปสวยๆ จากโค้ง 33 กันแล้ว เรายังคงดั้นด้นตามหาสถานที่อันซีนกันต่อที่ ถ้ำสีฟ้า สถานที่สุดขึ้นชื่อที่กำลังมาแรงของเมืองตาก เส้นทางมายังถ้ำสีฟ้าจะมีป้ายและหลักกิโลบอกทางอยู่เป็นระยะ ให้ขับตามเส้นทางมาเรื่อยๆ ลัดเลาะเนินเขาและไร่ข้าวโพดจนสิ้นสุดทางลาดยาง ปากถ้ำจะอยู่ด้านขวาของถนน
บริเวณปากถ้ำจะมีลักษณะเป็นหน้าผาที่มีชั้นของหินที่ถูกกัดเซาะจากน้ำรูปร่างแปลกตาสลับกัน อีกทั้งเนื้อหินบริเวณผนังถ้ำต่างก็มีลวดลายที่ทับซ้อนกันเป็นชั้นๆ พร้อมกับมีต้นเฟิร์นสีเขียวขึ้นแซมอยู่มากมาย บ่งบอกได้ถึงความชื้นและความเย็นชุ่มฉ่ำของถ้ำสีฟ้าแห่งนี้ และเมื่อเข้าสู่ภายในถ้ำก็จะพบกับส่วนแรกที่มีลักษณะเป็นโถงใหญ่ มีหินย้อยให้เห็นตามผนังถ้ำ และมีพระพุทธรูปศิลปะพม่าประดิษฐานอยู่ด้วย
ถัดจากโถงเข้าไปเป็นโถงไฮไลท์ของถ้ำสีฟ้า โดยจุดนี้จะมีลักษณะเป็นช่องโถงที่ถูกกัดกร่อน และมีเสาหินมีลักษณะคล้ายกับงวงช้างตั้งอยู่ ลวดลายของชั้นหินผนังถ้ำสลับกันระหว่างสีขาวและสีฟ้าอ่อนๆ อย่างชัดเจน เป็นภาพความงามที่รังสรรค์ขึ้นโดยธรรมชาติที่ผ่านกาลเวลาอันยาวนาน จนต้องขอยืนถ่ายรูปสวยๆ เก็บไว้เป็นความประทับใจกันสักหน่อย ซึ่งโถงทางเดินภายในถ้ำจะมีไฟส่องสว่างติดอยู่เป็นระยะๆ จึงทำให้ภายในถ้ำไม่ได้มืดสนิทเหมือนในอดีต
เมื่อเดินเข้ามาเรื่อยๆ ตามทางเดินก็จะพบกับโถงอื่นๆ ที่มีความสวยงามไม่แพ้กัน สามารถใช้เป็นมุมถ่ายรูปสวยๆ ได้อีกเพียบ และเมื่อเดินตามทางไปอีกก็จะพบกับสะพานที่พาดข้ามช่องลึกที่เป็นช่องของธารน้ำไหลภายในถ้ำ จากจุดนี้จะมีละอองน้ำเล็กๆ ไหลให้ความชุ่มฉ่ำอยู่ตลอดเวลา
ไฮไลท์อีกจุดหนึ่งภายในถ้ำสีฟ้าก็คือช่วงด้านในสุดของถ้ำ มีลักษณะเป็นช่องแคบที่ต้องเดินขึ้นบันไดผ่านเนินถ้ำเพื่อเข้าสู่โถงสุดท้าย ซึ่งมีลักษณะเป็นเวิ้งโถงกว้างมีน้ำไหล
ด้านในมุมส่วนเว้าผนังถ้ำจะมีพระพุทธรูปหินอ่อนสีขาวผ่องประดิษฐานไว้ ให้ได้กราบสักการะกันอีกด้วย บรรยากาศในโถงนี้เรียกได้ว่าสัมผัสได้ถึงความสงบและเย็นฉ่ำของสายน้ำที่ไหลตามผนังถ้ำ
หลังจากเต็มอิ่มกับสถานที่สวยงามและอันซีนกันมาทั้งวันแล้ว ค่ำคืนนี้เราเข้ามาพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติและอากาศดีๆ กันที่ Oxygen Home & Hill The Oxygen Bar ที่พักในอำเภอแม่สอดที่เต็มไปด้วยบรรยากาศความสงบและสดชื่นของพื้นที่สีเขียวแบบเน้นๆ มาพร้อมกับการตกแต่งด้วยสไตล์โมเดิร์นลอฟต์ผสมผสานกับความคลาสสิกของสไตล์วินเทจ โดยเราเลือกพักที่อาคาร A เป็นห้องเตียงเดี่ยว ไฮไลท์ของห้องอาคาร A ก็คือหน้าต่างที่สามารถมองออกไปเห็นวิวยอดเขาและท้องทุ่งสีเขียวได้แบบ HD นอกจากนี้ Oxygen Home & Hill The Oxygen Bar ยังมีห้องพักอาคาร B ที่มีห้องแบบครอบครัว และอาคาร C สำหรับมาเป็นคู่ให้เลือกอีกด้วย
นอกจากห้องพักจะบรรยากาศดีแล้ว Oxygen Home & Hill The Oxygen Bar ยังมีส่วนของร้านอาหารให้บริการอีกด้วย โดยตัวร้านจะเป็นอาคารเปิดโล่งสองชั้น ตั้งอยู่ติดกับริมทุ่งกว้างและสามารถมองเห็นวิวเนินเขาและความกรีนได้แทบจะ 360 องศากันเลยทีเดียว เท่านั้นยังไม่พอ ด้านข้างของร้านยังมีสระน้ำสีฟ้าพร้อมกับเปลตาข่ายให้ได้นั่งสบายๆ พร้อมกับถ่ายรูปสวยๆ อีกด้วย
เมนูของทางร้านที่เราสั่งมามีทั้งยำวุ้นเส้นหมูสับ รสชาติจัดจ้าน หอมกลิ่นมะนาว ต้มแซ่บกระดูกอ่อน นุ่มกรุบกำลังดี ปีกไก่ทอด กรอบนอกนุ่มในชิ้นพอดีคำ และหมูทอดกระเทียม รสชาติกลมกล่อม กินไปนั่งมองวิว รับลมอ่อนๆ ไป บอกเลยว่าเป็นมื้อส่งท้ายวันที่ดีอีกมื้อหนึ่งเลย
เช้าวันสุดท้ายของเรา ตื่นมาพร้อมกับบรรยากาศสุดประทับใจ เพราะเป็นเช้าที่มีฝนโปรยปรายลงมา พร้อมกับอากาศเย็นสบาย จึงทำให้ภูเขาที่อยู่รอบๆ Oxygen Home & Hill The Oxygen Bar มีม่านหมอกออกมาคลอเคลียภูเขาตัดกับความกรีนของป่าไม้ให้เราได้เห็นกัน ห้องอาหารเช้าของที่นี่เป็นอาคารเปิดโล่ง พร้อมกับบาร์นั่งห้อยขาที่หันหน้าหาวิวธรรมชาติ เมนูอาหารมีทั้งข้าวต้มหมูสับ กินคู่กับไข่ลวก ปาท่องโก๋ คู่กับกาแฟอุ่นๆ เต็มอิ่มทั้งอาหารและบรรยากาศขั้นสุด
ก่อนเช็คเอาท์ ก็แวะหามุมถ่ายรูปสวยๆ กันในที่พักไว้อัปลงโซเชียลกันสักหน่อย
มาแม่สอดทั้งที ต้องแวะที่ ตลาดริมเมย สถานที่ซื้อของฝากยอดนิยมของเหล่านักท่องเที่ยวและเป็นสถานที่ที่อยู่ติดกับด่านข้ามพรมแดนไทย – พม่า ซึ่งในวันนี้บรรยากาศของตลาดริมเมยจะไม่คึกคักเหมือนช่วงก่อน แต่ก็ยังมีร้านค้าเปิดอยู่มากมายและมีสินค้าหลากหลายประเภทให้ได้เลือกซื้อกลับไปเป็นของฝากเพียบ และยังสัมผัสได้ถึงการต้อนรับเป็นอย่างดีของเหล่าพ่อค้า แม่ค้าภายในตลาด
เดินเล่นได้ยังไม่ทันไร เราก็ได้ของฝากติดไม้ติดมือมาไม่น้อย ทั้งขนมหลากหลายแบบ ผงทานาคา ที่เป็นเคล็ดลับผิวสวยของชาวพม่า เสื้อผ้าที่มีทั้งแบบพื้นเมือง และเสื้อยืด ผ้าเช็ดตัว หรือจะเป็นอีกหนึ่งสินค้าขึ้นชื่อของพม่าอย่างอัญมณี ที่มีทั้งพลอย หินมงคล และหยก
มาตะวันตกสุดของไทย ก็ต้องแวะถ่ายรูปคู่กับแลนด์มาร์กแม่สอดกันหน่อย ให้รู้ว่าครั้งหนึ่งเราเคยมาถึงทิศ “สุดประจิมที่ริมเมย”
เดินชมตลาดริมเมย และได้ของฝากกลับกรุงเทพฯ กันเรียบร้อยแล้ว เราก็ไปสูดอากาศ ใช้เวลาใกล้ชิดธรรมชาติแบบเน้นๆ กันต่อที่ น้ำตกแม่กาษา สถานที่ท่องเที่ยวสุดสวยงามอีกแห่งหนึ่งของแม่สอด ความเขียวขจีของใบไม้ต้นไม้ที่ขึ้นอยู่ขนัดตาทั่วทั้งบริเวณนั้นตัดกับสีขาวที่ไหลลงมาเป็นสายของน้ำตกได้อย่างลงตัวและสวยงาม น้ำตกแม่กาษามีอยู่ 2 ชั้นโดยบริเวณน้ำตกชั้นล่างจะมีเวิ้งน้ำที่สามารถลงแช่น้ำผ่อนคลายได้ ซึ่งปกติแล้วผืนน้ำด้านล่างจะเป็นสีเขียวมรกต แต่วันที่เราไปถึงนั้น มีฝนเล็กน้อยจึงทำให้น้ำไม่ค่อยเห็นสีเขียวชัดเท่าไหร่
ยืนถ่ายรูปคู่กับน้ำตก ถือพร็อพเก๋ๆ อย่างร่มใส ก็สวยไม่ซ้ำใครได้เหมือนกัน
เดินขึ้นสู่น้ำตกชั้นบน เราก็จะพบกับความอลังการของน้ำตกแม่กาษาแห่งนี้ ภาพของสายน้ำที่ไหลมาอย่างต่อเนื่องทำให้บรรยากาศรอบๆ เย็นชุ่มฉ่ำเป็นอย่างมาก จนมีเหล่ามอสและเฟิร์นขึ้นกระจายอยู่ตามก้อนหินและโคนต้นไม้มากมาย พร้อมกับความสบายใจที่ได้จากเสียงของน้ำตกและธรรมชาติรอบข้าง ถอดรองเท้า แล้วเดินแช่น้ำสักหน่อย บอกเลยว่าเย็นสดชื่นมาก
หลังจากรับความเฟรชกันเต็มที่แล้ว เราก็เดินลงมาชมบรรยากาศรอบๆ น้ำตกกันอีกสักหน่อย น้ำที่ไหลมาจากน้ำตกใส สะอาด และสามารถมองเห็นหมู่ปลาตัวเล็กๆ แหวกว่ายได้อย่างชัดเจน
ก่อนเดินทางกลับ เราแวะเข้ามาที่อโรคยาศาล โป่งคำราม สถานที่ผ่อนคลายร่างกาย พักผ่อนจิตใจด้วยวิถีธรรมชาติท่ามกลางบรรยากาศเขียวขจี โดยกิจกรรมของอโรคยาศาลโป่งคำรามมีทั้งบริการนวด ซึ่งมีการนวดหลากประเภทให้ได้เลือก ไม่ว่าจะเป็นการนวดแผนไทย นวดรีดเส้น นวดอโรม่า เป็นต้น ค่าบริการก็จะเริ่มตั้งแต่ 350 บาท ไปจนถึง 650 บาท ในครั้งนี้เราเลือกนวดรีดเส้นเพื่อบรรเทาอาการปวดหลังจากลุยค้นหาอันซีนกันมาทั้ง 3 วันเต็ม
หลังจากนวดรีดเส้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราก็มาเปลี่ยนชุดเพื่อทำกิจกรรมสุดพิเศษอีกอย่างหนึ่ง นั่นก็คือแช่ออนเซ็นน้ำแร่ โดยทางอโรคยาศาล โป่งคำราม ก็มีผ้าขาวม้า และชุดบริการให้เปลี่ยนเพื่อลงแช่ ราคาเพียง 20 บาท/ชุด เท่านั้น
ความพิเศษก็คือน้ำที่ใช้แช่นั้นเป็นน้ำแร่จากใต้ดินที่มีอุณหภูมิกำลังพอเหมาะ อยู่ที่ 47 – 49 องศาฯ และอ่างที่ใช้แช่น้ำทำมาจากไม้โอ๊คอีกด้วย โดยโซนนี้ก็จะแบ่งออกเป็นส่วนของผู้ชายและผู้หญิงแยกกัน นอนแช่น้ำแร่อุ่นๆ สบายตัว ดื่มด่ำบรรยากาศสุดกรีน เป็นการปิดทริปที่ดีมากๆ
นอกจากนี้ภายในพื้นที่ของอโรคยาศาล โป่งคำราม ยังมีคาเฟ่ให้ได้นั่งชิลล์ หลังจากแช่ออนเซ็นอีกด้วย ซึ่งจะอยู่ด้านหลังสุดถัดจากโรงออนเซ็น
ทั้งหมดนี้ก็คือความประทับใจและเส้นทางการค้นหาอันซีนเมืองตาก จังหวัดที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็น “เมืองไม้และป่างาม” เรียกได้ว่าเต็มอิ่มและเต็มไปด้วยความสุขจากทั้งความสวยงามของการสร้างสรรค์จากธรรมชาติ ความสวยงามของวิถีชีวิตและสถาปัตยกรรมที่ล้ำค่า นานาอาหารที่รสชาติสุดละเมียด รวมทั้งการพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติที่บริสุทธิ์และการบริการ การต้อนรับเป็นอย่างดี แน่นอนว่าความสวยงามที่บรรยายได้ไม่รู้จบเหล่านี้ยังคงรอให้ทุกๆ คน ตามไปค้นหาและเช็คอินกันอยู่เสมอ ถ้าใครกำลังมองหาทริปเที่ยวสักทริป ต้องลองตามเราไปดูนะกับ ทริป 3 วัน 2 คืน ค้นหาอันซีนเมืองตาก สักครั้งในชีวิตที่ต้องไป!!
ค่าใช้จ่ายตลอดทริป 3 วัน 2 คืน ค้นหาอันซีนเมืองตาก สักครั้งในชีวิตที่ต้องไป!!
– ค่าอาหารและเครื่องดื่ม เถียงนา Coffee and Bakery Farm 455 บาท
– ค่าชุดไหว้ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช 20 บาท
– ค่าอาหารร้านก๋วยเตี๋ยวแม่บางหัวเดียด 55 บาท
– ค่าอาหารร้านผัดไทยตรอกบ้านจีน 40 บาท
– ค่าอาหารและเครื่องดื่มร้านสุขเสมอ 368 บาท
– ค่าที่พักบ้านวนาสิน 2,200 บาท (รวมอาหารเช้า)
– ค่าอาหารร้านก๋วยเตี๋ยวบ้านดิน 175 บาท
– ค่าอาหารและเครื่องดื่ม Oxygen Home&Hills 290 บาท
– ค่าที่พัก Oxygen Home&Hills 790 บาท (รวมอาหารเช้า)
– ค่าบริการนวดรีดเส้นและชุดเปลี่ยนแช่ออนเซ็น อโรคยาศาล 470 บาท
รวมทั้งสิ้น 4,863 บาท
**ราคาไม่รวมค่าน้ำมันรถไป-กลับ และค่าของฝากต่างๆ**
เป็นอย่างไรกันบ้างกับ ทริป 3 วัน 2 คืน ค้นหาอันซีนเมืองตาก สักครั้งในชีวิตที่ต้องไป!! ถ้าเพื่อนๆ คนไหนสนใจก็ตามไปลุยเลย! มาตากทั้งทีก็ต้องจัดที่พักดีๆ ด้วย กับ บ้านวนาสิน ที่พักใจกลางเมืองตาก นอนบ้านไม้หรูกลางธรรมชาติ! เลยไปเที่ยวจังหวัดใกล้ๆ อีกหน่อยก็ดีนะ กับ จุดเช็คอินสุโขทัย–พิษณุโลก ไหว้พระ 4 วัด เที่ยว 2 อุทยานประวัติศาสตร์