ทริปน่าน 2 วัน 1 คืน พักผ่อนสบายๆ กิน เที่ยวแบบสโลว์ไลฟ์ในตัวเมืองน่าน

น่าน เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่เราอยากให้คุณได้เดินทางมาสัมผัสการใช้ชีวิตอันแสนเนิบช้า เดินเล่นไปตามถนนหนทางของตัวเมืองแวะท่องเที่ยวถ่ายรูปตามจุดเช็คอินต่างๆ ได้แบบสบายๆ ทริปเก็ทเตอร์จึงพาทุกคนเปลี่ยนอรรถรสมาสัมผัสความสวยงามในตัวเมืองน่านกันบ้าง พร้อมพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติของสถาปัตยกรรมเมืองน่าน อีกทั้งยังได้อิ่มบุญไปกับวัดดังในตัวเมืองที่รายล้อมไปด้วยความสวยงามของวัฒนธรรมล้านนาในแบบที่ไม่เหมือนใคร แม้น่านจะเป็นเมืองเล็กๆ แต่ก็เต็มไปด้วยเสน่ห์น่าค้นหาที่สวยงามไม่แพ้สถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดอื่นเช่นกัน

---

• Day 1 •

เริ่มต้นการเดินทางจากกรุงเทพไปน่านด้วยสายการบินชั้นประหยัดใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงนิดๆ ก็ได้มาสัมผัสบรรยากาศเมืองน่านเนิบๆ กันแล้ว อาหารมื้อแรกที่น่านของเราเริ่มต้นกันที่ ณ เสน Kitchen x Cafe เป็นร้านอาหารบรรยากาศสบายๆ ตัวร้านมาในโทนสีขาวสบายตา มองไปคล้ายเรือนกระจกทรงโมเดิร์นที่เพียบพร้อมไปด้วยเฟอร์นิเจอร์โทนน้ำตาลเข้มและตกแต่งด้วยต้นไม้เล็กๆ ตัดกับตัวร้านได้เป็นอย่างดี

เดินทางมาเที่ยวเมืองน่านทั้งทีก็อยากจะลองชิมอาหารเหนือกันบ้าง แต่ทางร้านได้แนะนำเมนูซิกเนเจอร์ที่ใครมาเยือนก็ต้องสั่ง ชุดแหนมเนือง ชุด 3 ไม้ ราคา 200 บาท เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียง ชุดผัก ขนมจีน และแผ่นแป้ง เป็นชุดอาหารเวียดนามที่เติมพลังในการเดินทางครั้งนี้ได้เป็นอย่างดี

ตามมาด้วยแกงฮังเล ราคา 120 บาท เป็นอาหารพื้นเมืองล้านนาของทางเหนือที่ได้รับมาจากพม่าและสิบสองปันนาในจีน แต่ได้มีการปรับเปลี่ยนสูตรต่างๆ คลุกเคล้าความอร่อยจนได้เป็นรสชาติที่ถูกปากคนไทยเรา

ไส้อั่วลาบ ราคา 120 บาท เมนูสูตรเด็ดที่ทางร้านรังสรรค์มาอย่างพิถีพิถัน

ตามมาด้วยเมนู หมูยอลวกจิ้ม ราคา 99 บาท และชาเขียวเย็น ราคา 60 บาท รสเข้มข้นกลมกล่อมหอมชาเขียวมาก

มีโซนให้เลือกนั่งได้ทั้งภายในร้านเป็นห้องแอร์ชิลล์ๆ และโซนเอ้าท์ดอร์บรรยากาศดีรายล้อมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่สุดร่มรื่น ณ เสน Kitchen x Cafe ร้านเปิดบริการเวลา 10.00-22.00 น. Phone: 054 711 234

อิ่มท้องกับอาหารอร่อยๆ หลากเมนูกันไปแล้ว พากันเดินเล่นถ่ายรูปกับบรรยากาศมุมต่างๆ ของร้านนิดหน่อยก่อนจะไปเที่ยวกันต่อที่ “วัดภูมินทร์” วัดชื่อดังที่ไม่ว่าใครได้เดินทางมาเที่ยวน่านก็ต้องแวะมากราบไหว้พระขอพร ชมจิตรกรรมฝาผนัง พร้อมเก็บภาพสวยๆ กับบรรยากาศโดยรอบภายในบริเวณวัด

มุมไฮไลท์ฮอตฮิตที่สุดของวัดแห่งนี้คงหนีไม่พ้น ‘ปู่ม่านย่าม่าน’ หรือ ภาพกระซิบรักบันลือโลก ที่ถูกถ่ายทอดเป็นภาพวาดจิตรกรรมอันสวยสดงดงามบนฝาผนังวัดที่มีอายุราวร้อยกว่าปีมาแล้ว 

บรรยากาศภายในพระอุโบสถกว้างขวาง สามารถเดินรอบพระอุโบสถเพื่อชมจิตรกรรมฝาผนังได้

แวะเก็บภาพตามมุมต่างๆ ภายในวัดภูมินทร์กันแล้ว เดินข้ามถนนเพียงไม่กี่ก้าวก็สามารถแวะมาถ่ายรูปต่อที่ “อุโมงค์ลีลาวดี” ซึ่งอยู่ในพื้นที่ของพิพิธภัณฑ์แห่งชาติจังหวัดน่าน เดินเข้ามาถึงยังแลนด์มาร์กเด็ดของเมืองน่านแบบนี้แล้วไม่รอช้ารีบไปเก็บภาพสวยๆ ลงไอจีกันหน่อย

ต้นลีลาวดีที่นี่ปลูกเรียงรายแผ่กิ่งก้านโค้งเป็นอุโมงค์สวยงามบรรยากาศโดยรอบร่มรื่นมาก จึงกลายมาเป็นอีกหนึ่งจุดถ่ายรูปสวยที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด และรับรองได้เลยว่าจะได้รูปสวยชิคกลับไปอย่างแน่นอน

มุมถ่ายรูปดีต่อใจมาก!

นอกจากวัดภูมินทร์แล้ว ยังมี “วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร” ที่สามารถเดินข้ามจากอุโมงค์ลีลาวดีแวะมากราบไหว้สักการะพระพุทธรูปกันได้ วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหารแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งวัดกลางเมืองน่านที่มาพร้อมสถาปัตยกรรมอันสวยงาม

ภายในวัดประดิษฐาน เจดีย์ช้างค้ำ เป็นศิลปะสมัยสุโขทัยมีรูปช้างปูนปั้นครึ่งตัวประดับรอบด้านละ 6 เชือก พระวิหารหลวงกว้างขวางมีอายุราวกว่า 600 ปีสวยงามมาก

มาถึงแล้วก็ต้องถ่ายรูปเก็บไปอัพโซเชียลสักหน่อย

หลังจากท่องเที่ยวในตัวเมืองกันมาพักใหญ่แล้ว ก็ได้เวลาไปพักผ่อนที่โรงแรมกันแล้ว โดยคืนนี้เราจองที่พักกันไว้ที่ “เฮือนช้างเผือก” ขับรถจากวัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหารเพียง 7 นาทีก็ถึงแล้ว เฮือนช้างเผือกเป็นที่พักในตัวเมืองน่านที่เหมาะกับคนรักการใช้ชีวิตเนิบช้า พักผ่อนแบบเรียบง่ายไม่เร่งรีบ

เมื่อก้าวเท้าเข้ามาภายในที่พักแล้วต้องตกหลุมรักกับบรรยากาศโดยรอบของบ้านปูนกึ่งไม้สองชั้นอยู่ติดริมถนน ตกแต่งภายในด้วยของใช้สไตล์ล้านนาวินเทจผสมผสานกับความเป็นสมัยใหม่ได้เป็นอย่างดี

เฮือนช้างเผือกแห่งนี้ตั้งอยู่บนถนนเปรมประชาราษฎร์ เปิดยาวนานมากว่า 4 ปี ตัวที่พักรีโนเวทจากบ้านไม้หลังเก่าของครอบครัว ที่เน้นให้ผู้คนได้มาสัมผัสความเป็นมิตรของคนน่านท่ามกลางบรรยากาศแบบต๊ะต่อนยอน ด้วยห้องพักที่ตกแต่งเรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยบรรยากาศแสนอบอุ่น

และห้องพักของเราในคืนนี้คือห้อง Superior เป็นห้องพักเงียบสงบเข้าพักสองคนได้สบายๆ ภายในห้องเน้นการตกแต่งแบบล้านนา พร้อมทั้งโชว์ผนังอิฐเปลือยให้เห็นความเป็นธรรมชาติ

เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันทั้ง ตู้เย็น โทรทัศน์ มินิบาร์ ไดร์เป่าผม รองเท้าสลิปเปอร์ เครื่องทำน้ำอุ่น เครื่องปรับอากาศ และระเบียงนั่งเล่นบริเวณหน้าห้องพัก ภายในห้องน้ำเรียบง่ายด้วยผนังปูนเปลือยสามารถเปิดหน้าต่างรับแสงและสายลมได้

นอกจากนี้บริเวณด้านล่างที่พักยังมีคาเฟ่ชิคๆ Coffee Bar Bar ที่ตอนกลางคืนจะเปลี่ยนเป็นมินิบาร์เท่ๆ ให้แวะมานั่งชิลล์กัน เฮือนช้างเผือก Phone: 054 774 788, 083 011 8488

หลังจากพักผ่อนกันมาสักพักก็ได้เวลาออกไปหาของอร่อยยามเย็นแล้ว เราชวนกันมาเดินเล่นกันที่ “ถนนคนเมือง กาดมิ่งเมืองดีเบส”

เป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอินชิคๆ ที่คนมาเที่ยวเมืองน่านต้องแวะมาชิลล์กัน เดินเล่นไปมาก็ไปสะดุดตากับอาหารเหนืออย่าง ลาบหมูคั่ว ราคา 50 บาท จึงสั่งมาลองชิมกันเป็นลาบหมูพื้นเมืองที่มาในรสชาติเผ็ดกำลังดี หอมเครื่องเทศหน่อยอร่อยไม่แพ้กัน พร้อมกับสั่งยำมาม่า ราคา 40 บาท, หมูสะดุ้ง ราคา 40 บาท, น้ำกระเจี๊ยบและน้ำผึ้งมะนาวแก้วละ 20 บาท เป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอินที่สามารถแวะมานั่งกินอาหารท่ามกลางบรรยากาศสบายๆ พร้อมมีดนตรีสดให้ฟังอีกด้วย ถนนคนเมือง กาดมิ่งเมืองดีเบส เปิดให้เดินเที่ยวทุกวันตั้งแต่เวลา 09.00-21.00 น.

หลักจากที่เดินเล่นชิมอาหารเมืองเหนือกันไปแล้ว ขอแวะมาพิสูจน์ความอร่อยที่ “ร้านขนมหวานป้านิ่ม” ร้านของหวานเจ้าเก่าเจ้าดังเมืองน่านที่คนรักขนมหวานพลาดไม่ได้จริงๆ 

ตั้งแต่เดินเข้าร้านมาก็ได้กลิ่นหอมฟุ้งของขนมทั่วทั้งร้าน ยิ่งได้เห็นหม้อขนมเรียงรายกันอยู่ตรงหน้าแล้วยิ่งอดใจไม่ไหว รีบสั่งบัวลอยไข่หวานอุ่นๆ และเมนูไอศกรีมกะทิเลือกเครื่องเคียงได้ เราเลือกใส่ทับทิมกรอบ ลูกชิด และเฉาก๊วย บอกเลยว่าตักกินคำแรกแล้วถึงกับหยุดไม่ได้เพราะรสชาติที่หวานไม่มาก เม็ดบัวลอยนุ่มหนึบหนับ แถมหอมกลิ่นใบเตยหน่อยๆ อร่อยจนต้องแวะกลับมากินซ้ำอีกแน่นอน ร้านขนมหวานป้านิ่ม ร้านเปิดบริการเวลา 11.00-22.00 น. **เฉพาะบัวลอยขายถึง 21.00 น. Phone: 085 036 6108

บัวลอยไข่หวาน ราคา 40 บาทและไอศกรีมกะทิทรงเครื่อง ราคา 40 บาท

---

• Day 2 •

เช้าที่สดใสของเราเริ่มต้นด้วยการตื่นมานั่งชิลล์จิบกาแฟมองวิวเมืองน่านในบรรยากาศสบายๆ และรองท้องไปกับขนมปังปิ้งใต้แสงอาทิตย์อ่อนยามเช้า

มุมบาร์กาแฟบริการตัวเองบนชั้น 2 ท่ามกลางบรรยากาศสบายๆ ยามเช้า

จิบกาแฟกันไปแล้ว ออกไปปั่นจักรยานเล่นสัมผัสชีวิตสโลว์ไลฟ์เรียบง่ายแบบคนน่านกันหน่อย เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมยามเช้าที่สดใสสุดๆ

ปั่นจักรยานเล่นกันพักใหญ่ท้องก็เริ่มร้องจึงชวนกันออกเดินทางไปกินอาหารเช้าควบไปกับมื้อเที่ยงที่ “เฮือนภูคา” เป็นร้านอาหารพื้นเมืองที่คนน่านการันตีมาแล้วว่าเด็ดสุดในย่านนี้ บรรยากาศร้านเป็นบ้านแบบไทลื้อสมัยเก่าที่ถูกเปลี่ยนให้เป็นร้านอาหารสุดเรียบง่าย

ภายในร้านเน้นการตกแต่งด้วยรูปภาพไทลื้อพร้อมด้วยชุดโต๊ะเก้าอี้ไม้สีเข้ม นอกจากโซนด้านบนเรือนไม้แล้วยังมีโซนบริเวณศาลาและเอ้าท์ดอร์ใต้ร่มไม้ให้นั่งรับลมสบายๆ อีกด้วย

หิวๆ แบบนี้จะรออะไรรีบสั่งอาหารกันอย่างรวดเร็ว วันนี้ได้ลิ้มรสชาติอาหารเหนือแบบแท้ๆ ด้วยเมนู ออร์เดิร์ฟเมืองน้ำพริกอ่อง ราคา 230 บาท

ส้มตำปลากรอบ ราคา 150 บาท เมนูที่เติมความสดชื่นได้เป็นอย่างดีด้วยรสชาติน้ำยำที่เปรี้ยวจี๊ดแต่ครบรสยิ่งตักเส้นมะม่วงกินคู่กับปลากรอบแล้วยิ่งอร่อยถูกใจ

ซี่โครงหมูทอดมะแขว่น ราคา 150 บาท เมนูหมูทอดสุดกลมกล่อมที่คลุกเคล้าเครื่องเทศกลิ่นหอมก่อนนำลงไปทอดจนได้ซี่โครงหมูที่กรอบนอกนุ่มใน

ปิดท้ายด้วย แกงส้มปลานิล ราคา 150 บาท ซดน้ำเครื่องแกงหอมเข้มข้น เนื้อปลาแน่นนุ่มได้รสชาติของอาหารเหนือแท้ๆ อร่อยครบรส เฮือนภูคา ร้านเปิดบริการเวลา 10.00-22.00 น. Phone: 095 962 9663

ระหว่างทางไปวัดพระธาตุเขาน้อยมีคาเฟ่เล็กๆ จึงขอแวะมากินของหวานกันหน่อยที่ “Monka Cafe” คาเฟ่คุมโทนชิคๆ มองจากด้านนอกเหมือนบ้านไม้เล็กๆ มีทางเดินบ่อปลาให้แวะถ่ายรูปก่อนเข้าร้าน เปิดเข้าไปภายในร้านเจอกับบาร์กาแฟหอมกรุ่นฟุ้งทั่วท้ังร้าน มีโต๊ะให้เลือกนั่งได้ประมาณ 10 ที่นั่งเท่านั้น แต่มาพร้อมมุมถ่ายรูปเพียบอย่างมุมใต้ต้นไม้และมุมชิงช้า

เครื่องดื่มและเบเกอรี่มีหลากหลายเมนู เราเลือกสั่ง Orange Espresso ราคา 65 บาท, Matcha Latte ราคา 60 บาท จับคู่มากับ Blueberry swirl Cheese pie ราคา 80 บาท Monka Cafe ร้านเปิดบริการวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 09.00-17.00 น. วันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 09.00-21.00 น. (ร้านหยุดทุกวันพุธ) Phone: 092 424 2546

หลังจากอิ่มท้องกันไปแล้วเดินทางกันต่อไปยังวัดพระธาตุเขาน้อย ต.ดู่ใต้ อ.เมือง จ.น่าน วัดบนเขาวิวสวยสุดในล้านนา องค์พระปฐมเจดีย์ก่ออิฐปูนทั้งองค์เป็นสถาปัตยกรรมศิลปะพม่าผสมผสานกับล้านนา ภายในบรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า

มีบันไดนาคสามหัวทอดตัวยาวเป็นทางขึ้นไปยังยอดเขา 303 ขั้น ปลายหางนาคไปสิ้นสุดบริเวณหน้าพระวิหารตรีมุข บริเวณใกล้บันไดทางขึ้นมีพระตำหนักพระแม่กวนอิมสามารถแวะเข้าไปกราบไหว้ก่อนเดินขึ้นบันไดไปยังวัดพระธาตุเขาน้อยได้

ภายในวิหารประดิษฐานพระพุทธรูปศิลปะแบบพม่า บริเวณข้างวิหารมีศาลาพระเจ้าทันใจและรอยพระพุทธบาทจำลอง

เราพากันเดินไปชมวิวสวยของเมืองน่านพร้อมกราบไหว้พระพุทธมหาอุดมมงคลนันทบุรีศรีเมืองน่าน ซึ่งประดิษฐานอยู่ ณ จุดชมวิวของวัดพระธาตุเขาน้อย สำหรับใครที่เดินทางมาท่องเที่ยวแนะนำให้มาในช่วงเช้าตรู่จะได้เจอกับสายหมอกที่ลอยฟุ้งปกคลุมไปทั่วทั้งเมืองสวยงามมาก

บรรยากาศดีมาก เดินถ่ายรูปกันจนเมมเต็ม

2 วัน 1 คืนที่น่านผ่านไปอย่างรวดเร็ว แม้ที่นี่จะเป็นเมืองเล็กๆ แต่ก็มีเสน่ห์ไม่น้อยเลย การมาพักผ่อนที่น่านแบบนี้ถือเป็นทริปเติมพลังงานดีๆ ได้อิ่มบุญ อิ่มท้อง และได้รูปสวยไปอัพไอจีเพียบด้วย แถมการเดินทางที่น่านก็สะดวกสบายมากเพราะสถานที่ท่องเที่ยวในตัวเมืองอยู่ไม่ไกลกันสามารถเดินเท้าไปตามจุดต่างๆ ได้แบบไม่ต้องง้อรถ เอาเป็นว่าใครที่กำลังวางแผนการเดินทางมาเที่ยวทริปสั้นๆ แบบนี้ที่น่าน 2 วัน 1 คืนก็ได้เที่ยวพักผ่อนคุ้มไม่แพ้กัน

---

สรุปค่าใช้จ่ายตลอดทริปน่าน 2 วัน 1 คืน
ค่าที่พักเฮือนช้างเผือก 850 บาท/คืน
ค่าอาหารร้าน ณ เสน Kitchen x Cafe 599 บาท
ค่าอาหารถนนคนเดิน 170 บาท
ค่าขนมหวานร้านขนมหวานป้านิ่ม 80 บาท
ค่าอาหารร้านเฮือนภูคา 680 บาท
ค่าอาหารและเครื่องดื่มร้าน Monka Cafe 205 บาท
ค่าเช่ารถจากสนามบินน่าน 619 บาท/วัน
รวมทั้งหมด 3,203 บาท/ไป 2 คนตกคนละ 1,601 บาท
(ราคาทั้งหมดยังไม่รวมค่าเดินทางและน้ำมันรถ)

---