tripgether.com

Green Season I ทริปเขาค้อ-ภูทับเบิก 3 วัน 2 คืน ปักหมุดนอนฟิน เช็คอินจุดล่าทะเลหมอก

56,746 ครั้ง
27 ส.ค. 2563

วันนี้ผมจะไปเที่ยวสถานท่องเที่ยวแห่งหนึ่งที่ฮอตฮิตมากๆ หลายคนคงคิดว่าหน้าฝนจะไปเที่ยวได้ด้วยหรือ? แต่รู้ไหมครับว่าหน้าฝนแบบนี้ล่ะ ที่เหมาะมากสำหรับการไปเที่ยวพักผ่อนดูทะเลหมอก และทริปที่ผมจะไปในทริปนี้ก็คือ ทริปเขาค้อ-ภูทับเบิก 3 วัน 2 คืน นั่นเอง ถ้าพร้อมแล้วก็ตามมากับผมได้เลยครับ…

900x600-03


• DAY1 •

สำหรับทริปนี้ผมเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวครับ เริ่มออกเดินทางจากกรุงเทพกันในช่วงเช้า เพราะการเดินทางไปยังเขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ใช้เวลาเดินทางประมาน 5 ชั่วโมงครึ่ง ซึ่งถ้าออกเดินทางแต่เช้าก็จะไปถึงเขาค้อในช่วงเที่ยงวันพอดี ขับรถเพลินจนลืมไปเลยว่ายังไม่ได้กินมื้อเช้า และแน่นอนครับก่อนขึ้นเขาค้อมีร้านเด็ดที่ผมอยากแนะนำให้เพื่อนๆ มาลองชิมกันครับ นั่นก็คือร้าน โรงเตี๊ยมเขาค้อ ร้านที่ผมจะฝากท้องไว้กับมื้อเที่ยงวันนี้ครับ

tripkhaokho1

tripkhaokho1

โรงเตี๊ยมเขาค้อ ร้านอาหารบรรยากาศดีตัวร้านตั้งอยู่ระหว่างทางขึ้นเขาค้อริมทางหลวงหมายเลข 12 เรียกได้ว่าใครขับรถผ่านมาก็ต้องเห็นอย่างแน่นอน เพราะตัวร้านโดดเด่นด้วยสไตล์จีน ภายในตัวร้านก็กว้างขวางและมีที่นั่งให้เลือกมากมายครับ มีทั้งโซนอินดอร์ที่อยู่ด้านในตัวร้านและโซนที่เป็นโอเพ่นแอร์ นั่งมองวิวภูเขาแบบชิลล์ๆ สำหรับเมนูที่เป็นตัวชูโรงของทางร้านจะเป็นเมนูปลาแม่น้ำและอีกเมนูที่มาถึงแล้วไม่ควรพลาดเลยก็คือ ขาหมูหมั่นโถวสูตรยูนนาน นั่นเอง

tripkhaokho1

tripkhaokho1

ไม่รอช้าครับ มื้อเที่ยวนี้ผมขอจัดเต็มกับเมนู ขาหมูหมั่นโถวสูตรยูนนาน ที่เสิร์ฟทั้งขาหมูและหมั่นโถวมาให้กินคู่กัน ซึ่งเป็นอะไรที่เข้ากันสุดๆ เลยครับ ตัวขาหมูก็ชุ่มฉ่ำ เหนียวนุ่มและหอมสุดๆ

tripkhaokho1

นั่งมองวิวไป กินเมนูอร่อยๆ ไป บอกเลยว่าเพลิดเพลินสุดๆ เลยครับ

tripkhaokho1

โรงเตี๊ยมเขาค้อ Location: 186 ม.11 ต.เขกน้อย อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ // Open-Close: เปิดบริการทุกวันเวลา 08:00-21:00 น.  // Phone: 098 795 5800, 080 840 1543

อิ่มพุงจนสบายใจแล้ว ผมปักหมุดไปอิ่มบุญต่อกันที่ วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว วัดชื่อดังของเขาค้อที่ใครมาเขาค้อแล้วไม่ได้แวะมากราบไหว้สักการะก็เหมือนยังมาไม่ถึงเขาค้อ จากโรงเตี๊ยมเขาค้อมายังวัดพระธาตุผาซ่อนแก้วใช้เวลาเดินทางประมาน 15 นาทีเท่านั้นเอง

tripkhaokho7

วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว วัดที่ตั้งอยู่ท่ามกลางขุนเขาน้อยใหญ่ของเขาค้อ ที่แวดล้อมไปด้วยป่าสีเขียวที่อุดมสมบูรณ์ ตัดกับองค์พระสีขาว อุโบสถพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ ที่ซ้อนเรียงกันลงมา ตั้งเด่นสง่ามองเห็นมาแต่ไกล

tripkhaokho1

tripkhaokho1

ด้านในเป็นอุโบสถประดิษฐาน พระพุทธรูปปางนอนชนะมาร สามารถเข้าไปกราบไหว้และทำบุญขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคล

tripkhaokho1

ข้ามมาอีกฝั่งทางด้านขวากับส่วน เจดีย์พระธาตุผาซ่อนแก้ว สิริราชย์ธรรมนฤมิต อีกหนึ่งไฮไลท์สุดงดงาม

tripkhaokho1

tripkhaokho1

tripkhaokho1

วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว Location: 95 ม.7 หมู่บ้านทางแดง ต.แคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ // Open – Close: 08.00 – 17.00 น. // Phone: 084 494 1262

และมาถึงเขาค้อทั้งที ก็ต้องไปหาคาเฟ่ชิคๆ นั่งจิบกาแฟชมวิว หามุมถ่ายรูปอัพลงอินสตราแกรมกันสักหน่อย ผมเลยปักหมุดไปยัง ซีดาร์ ป่าสน คาเฟ่ คาเฟ่กลางป่าสน ซึ่งเปิดใหม่เมื่อไม่นานมานี้เอง เดินทางจากวัดพระธาตุผาซ่อนแก้วประมาน 25 นาทีก็ถึงแล้วครับ

tripkhaokho1

เมื่อมาถึงแล้ว ต้องบอกเลยว่าเป็นคาเฟ่กลางป่าสนจริงๆ ครับ แถมต้วร้านยังออกแบบให้ยกสูงทำให้เห็นวิวสวยๆ ได้ฟีลลิ่งอยู่ท่ามกลางป่าสนและวัสดุหลักที่ใช้ทำตัวร้านก็ยังเป็นไม้สนหลากชนิดอีกด้วย แค่ลงจากรถปุ๊บ ก็เจอมุมถ่ายรูปสวยๆ ตั้งแต่ทางเข้าร้านเลยกันเลยทีเดียว

tripkhaokho1

tripkhaokho1

บรรยากาศรอบๆ ตัวร้านร่มรื่นและมีที่นั่งให้เลือกทั้งโซนอินดอร์และที่นั่งโซนเอ้าท์ดอร์บริเวณเทอเรสของตัวร้าน

tripkhaokho1

tripkhaokho1

tripkhaokho1

ซีด้าร์ ป่าสน คาเฟ่ มีทั้งเครื่องดื่มชา กาแฟ น้ำผลไม้ และเบเกอรี่ให้เลือกมากมาย แต่ที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ ลองโก้ออเรนจ์ เครื่องดื่มแนะนำจากทางร้าน กินคู่กับ เค้กชาเขียว ยิ่งเพิ่มความอร่อยเป็นอย่างดี

tripkhaokho1

นั่งจิบเครื่องดื่มและเค้กอร่อยๆ กลางป่าสนก็ได้ฟีลลิ่งไปอีกแบบครับ

tripkhaokho1

กินเสร็จแล้วก็หามุมถ่ายรูปสวยๆ กันต่อ จะถ่ายที่มุมเทอเรสด้านบนตัวร้านหรือลงมาถ่ายกลางป่าสนด้านล่างก็ได้รูปสวยๆ ไปอัพลงโซเชียลอย่างแน่นอน

tripkhaokho1

ซีด้าร์ ป่าสน คาเฟ่ Location: 106 ม.1 ต.ทุ่งสมอ อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ // Open-Close: 09.00-18.00 น. // Phone: 095 328 9994

เที่ยวกันจนเพลินก็ถึงเวลาช่วงบ่ายแก่ๆ ก็ได้เวลาเช็คอินเข้าที่พัก ซึ่งที่พักที่ผมจะไปพักกันในวันนี้ต้องขอบอกไว้ก่อนเลยว่าเป็นที่พักที่โลเคชั่นดีที่สุดแห่งหนึ่งบนเขาค้อ ทั้งเรื่องของดีไซน์และการบริการก็ดีมากๆ ครับ ที่นั่นก็คือ เดอะพราว รีสอร์ท เขาค้อ ว่าแล้วก็ไม่รอช้า ไปเช็คอินกันเลยครับ

tripkhaokho1

เดอะ พราว รีสอร์ท เขาค้อ ที่พักบรรยากาศดีที่ตั้งอยู่บนเนินเขาโลเคชั่นที่สามารถมองเห็นทั้งวิวภูเขาสุดยิ่งใหญ่และสามารถมองเห็นวิวอ่างเก็บน้ำรัตนัยได้แบบ 180 องศา มีห้องพักให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 19 หลัง 5 รูมไทป์ คือ Proud Family, Proud Villa โซน A – B, Proud Loft, Proud VIP Tent และ Tent VIP Family และจัดวางอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมโดยไม่บดบังวิวกัน เพื่อให้ผู้เข้าพักได้ชมวิวทะเลหมอกได้อย่างเต็มที่ ซึ่งวันนี้ผมเลือกนอนที่ห้องพักโซนใหม่ล่าสุดคือ Proud Villa โซน B

tripkhaokho1

tripkhaokho1

ตัวบ้านพักโซนใหม่ Proud Villa โซน B ยังคงตกแต่งด้วยสไตล์โมเดิร์นตามคอนเซ็ปต์ของ เดอะพราว รีสอร์ท เขาค้อ ซึ่งต้องการให้ผู้เข้าพักได้พักผ่อนใกล้ชิดธรรมชาติเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ และมาพักที่นี่ยังมีโอกาสได้เห็นหมอกถึง 80% เลยทีเดียว

tripkhaokho1

ภายในห้องพักตกแต่งได้อย่างหรูหรามาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ความสะดวกสบายไม่ต้องพูดถึงเพราะแทบไม่แตกต่างอะไรจากรีสอร์ทหรูๆ เลยครับ

tripkhaokho1

tripkhaokho1

ในห้องน้ำมีกิมมิคเป็นกระจกใสให้อาบน้ำไปมองวิวไปเพลินๆ

tripkhaokho1

ที่ด้านหน้าห้องก็มีระเบียงไว้ให้ดูวิวทะเลหมอกอีกด้วย

tripkhaokho1

นั่งเล่นนอนเล่นในห้องจนเพลิน เผลอแป๊บเดียวพระอาทิตย์กำลังจะตกดินแล้ว และมานอน ที่ เดอะพราว รีสอร์ท เขาค้อ แล้ว ก็ต้องไม่พลาดที่จะสั่งชุดหมูกระทะมาทานที่โซนห้องอาหารพร้อมชมวิวภูเขาและอ่างเก็บน้ำรัตนัย ซึ่งแน่นอนว่ามื้อเย็นวันนี้ผมสั่งหมูกระทะเซ็ตใหญ่จากทางที่พักมากิน ราคา 499 บาท เท่านั้น หรือจะสั่งเป็นเมนูอาหารอื่นๆ ที่นี่ก็มีให้เลือกอีกหลายเมนู

tripkhaokho1

tripkhaokho1

สำหรับเย็นนี้ผมขอตัวไปกินหมูกระทะจิบเครื่องดื่มเย็นๆ ให้หายเหนื่อยก่อนนะครับ

tripkhaokho1

บรรยากาศยามค่ำคืนของ เดอะพราว รีสอร์ท เขาค้อ

tripkhaokho1

เดอะพราว รีสอร์ท เขาค้อ Location: 324 ม.1 บ้านกนกงาม ต. เขาค้อ อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ (เข้าซอยข้างๆ จุดชมวิวทะเลหมอก อ.เขาค้อ) // Phone: 081 458 8610, 084 657 1697 // Price: ราคาช่วงเดือนมีนาคม-กันยายน Proud Villa โซน B (2 คน) ราคาเริ่มต้น 3,200-3,900 บาท ช่วงเดือนตุลาคม-กุมภาพันธ์ ราคาเริ่มต้น 4,500-5,400 บาท


• DAY2 •

เช้าวันที่ 2 ของทริป ตื่นเช้ามาก็ได้พบกับทะเลหมอกอย่างที่ตั้งใจไว้ ยิ่งนอนห้องโซนใหม่อย่าง Proud Villa โซน B ขอบอกได้เลยว่าได้เห็นและได้ใกล้ชิดทะเลหมอกมากยิ่งกว่าเดิม หรือจะนอนดูทะเลหมอกบนเตียงก็ฟินไปอีกแบบ

tripkhaokho1

tripkhaokho1

tripkhaokho1

บรรยากาศแบบนี้ก็ต้องชงกาแฟร้อนๆ มาจิบริมระเบียงกันสักหน่อย

tripkhaokho1

tripkhaokho1

มื้อเช้าของทางที่พักจะเสิร์ฟเป็นเซ็ตอะลาคาร์ทมีทั้งข้าวต้มและอเมริกันเบรคฟาส และนอกจากนี้ยังมีเครื่องดื่ม กาแฟ โอวัลติน ขนมปังปิ้งและปาท่องโก๋ ที่จัดเป็นเซ็ตบุฟเฟ่ต์ให้กินได้แบบไม่อั้น

tripkhaokho1

ก่อนเช็คเอ้าท์ออกจากที่พักก็ไม่พลาดที่จะหามุมถ่ายรูปสวยๆ เก็บความประทับใจครั้งนี้ไว้ สำหรับแพลนทริปวันนี้ผมจะขึ้นไปเที่ยวและนอนที่ภูทับเบิกสักคืน แต่ก่อนไปภูทับเบิกก็ต้องหาที่เที่ยวในเขาค้ออีกสักที่สองที่

tripkhaokho1

tripkhaokho1

ผมปักหมุดไปยัง ไร่ดอกไม้ GB ที่ตั้งอยู่หน้ากังหันลมเขาค้อ เป็นแลนด์มาร์คที่เที่ยวแห่งใหม่ของเขาค้อที่สวยงามไม่แพ้ทุ่งดอกไม้ที่เมืองเหนือเลยทีเดียว และที่สำคัญ เสียค่าเข้าแค่คนละ 10 บาท เท่านั้นเอง

tripkhaokho1

บรรยากาศภายใน ไร่ดอกไม้ GB ในความรู้สึกของผมเอง ผมชอบนะครับเพราะด้วยโลเคชั่นที่ตั้งอยู่ใกล้ทุ่งกังหันลมเขาค้อและยังมีพื้นที่บนเนินเขา มากด้วยดอกไม้หลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น ดอกกระเจียว ดอกเวอร์บีน่า ดอกคอสมอส และดอกโป้ยเซียนฝรั่ง นักท่องเที่ยวยังสามารถมาท่องเที่ยวได้ทุกฤดูด้วยนะครับ

tripkhaokho1

tripkhaokho1

tripkhaokho1

ว่าแล้วก็ไม่รอช้าผมรีบหามุมถ่ายรูปเท่ๆ คู่กับทุ่งดอกไม้ที่มีวิวกังหันลมอันใหญ่ยักษ์เป็นฉากหลัง

tripkhaokho1

และยังมีมุมถ่ายรูปอื่นๆ อีกเพียบ

tripkhaokho48

ไร่ดอกไม้ GB Location: ทางเข้าทุ่งกังหันลมเขาค้อ // Phone: 081 972 0436 // Open – Close: เปิดเวลา 07.00-19.00 น. // Price: ค่าเข้าคนละ 10 บาท

เสร็จจากไร่ดอกไม้ GB แล้ว ก็ได้เวลาออกเดินทางไปยังภูทับเบิก ซึ่งจะใช้เวลาเดินทางไปจากเขาค้อประมาน 1 ชั่วโมงครึ่ง แต่มีอีกหนึ่งจุดเช็คอินที่น่าสนใจที่อยู่ระหว่างทางไปเขาค้อ-ภูทับเบิก นั่นก็คือ สะพานห้วยตอง สะพานลอยฟ้าที่ถือว่าเป็นอันซีนเมืองไทยเลยก็ว่าได้ การเดินทางก็ง่ายมากๆ ครับ เมื่อขับรถมาจากเขาค้อ มุ่งหน้ามาทางถนนหมายเลข 2258 เมื่อมาถึงทางแยกพ่อขุนผาเมืองให้เลี้ยวขวาแล้วขับตรงไปเรื่อยๆ จนถึง สะพานห้วยตอง

tripkhaokho49

สะพานห้วยตอง หรืออีกชื่อหนึ่งที่เรียกกันว่าสะพานพ่อขุนผาเมือง เป็นสะพานที่ถูกขนานนามว่าเป็นสะพานที่มีตอม่อสูงที่สุดในประเทศไทย สูงถึง 50 เมตร และเป็นสะพานเชื่อมต่อระหว่างภาคเหนือไปภาคอีสาน

tripkhaokho49

tripkhaokho49

ไฮไลท์จะอยู่ตรงที่บรรยากาศรอบๆ ที่เป็นภูเขาสลับซับซ้อนและอุดมสมบูรณ์สุดๆ บอกเลยว่าขับรถมาไม่ไกลเท่าไหร่ก็ได้มาชมความอลังการที่สะพานห้วยตองแล้ว คุ้มค่าที่เดินทางมาอย่างแน่นอน

tripkhaokho49

tripkhaokho49

สะพานห้วยตอง Location: ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 12 สาย หล่มสัก-ชุมแพ ต.ปากช่อง อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ // ตอม่อสูงสุด 50 เมตร ความยาว 180 เมตร

เที่ยวชมบรรยากาศของสะพานอยู่พักใหญ่ก็ได้เวลาเดินทางกันต่อแล้วครับ ซึ่งใช้เวลาเดินทางอีกไม่นานก็มาถึง ภูทับเบิก แล้ว เอาจริงๆ ผมประทับใจภูทับเบิกตั้งแต่ถนนและเส้นทางสวยๆ ที่คดเคี้ยวและลาดชัน เป็นอีกหนึ่งเสน่ห์และบททดสอบความกล้าของสายขับรถเที่ยวอย่างผม ระหว่างทางที่ขับไปก็มีหมอกจางๆ มาให้เราได้เปิดกระจกรับความชุ่มฉ่ำไปด้วย

tripkhaokho49

tripkhaokho49

ก่อนถึงทางเลี้ยวเข้าภูทับเบิกจะมีอีกหนึ่งจุดเช็คอินที่น่าสนใจและอยากแนะนำให้เพื่อนๆ มาคือ จุดชมวิวภูแผงม้า เมื่อมาถึงแนะนำให้จอดรถไว้ที่ทางเข้าและเดินเท้าเข้าไปประมาน 1 กิโลเมตร หรือใครที่เอารถกระบะหรือรถ 4×4 มาก็สามารถขับขึ้นไปได้เลย

tripkhaokho49

เมื่อเดินเข้ามาถึงจุดชมวิวจะมีระเบียงขนาดใหญ่ไว้ให้ยืนดูวิวครับ บอกเลยว่าหายเหนื่อยเมื่อมาเห็นวิวที่อยู่ตรงหน้า ด้านซ้ายจะเป็นภูเขาที่มีสันเขาเรียบๆ เป็นภาพที่แปลกและสวยงามมากๆ ครับ และจะมีหมอกไหลมาให้เราได้ชมเป็นระยะๆ รับรองว่าถ่ายรูปจนเพลินอย่างแน่นอนครับ

tripkhaokho49

tripkhaokho49

tripkhaokho49

และก็ถึงเวลาไปเช็คอินเข้าที่พักที่จะนอนกันในคืนนี้แล้วครับ ซึ่งขอบอกเลยครับว่าสเปเชี่ยลสุดๆ ทั้งเรื่องของวิวและโลเคชั่น นั่นก็คือ บ้านชมวิว ภูทับเบิก รีสอร์ท

tripkhaokho49

tripkhaokho49

ผมกล้าพูดเลยครับว่า บ้านชมวิว ภูทับเบิก รีสอร์ท เป็นที่พักที่วิวดีที่สุดบนภูทับเบิกสำหรับผม บ้านพักทุกหลังถูกจัดวางให้ตั้งอยู่ริมเนินเขาสามารถมองเห็นวิวสุดอลังการได้เหมือนกันทุกหลัง และมีบ้านพักให้เลือกทั้งหมด 3 โซน คือ โซน A (บ้าน A1-A5 (A4 และ A5 มีดาดฟ้าส่วนตัว) โซน B และ โซน C ซึ่งบ้านพักที่ผมจองไว้คือบ้าน โซน A หลังที่ 4 บอกเลยว่าบ้านหลังนี้วิวเด็ดสุดๆ ครับ ถ้าไม่เชื่อลองตามผมมาดูด้านในกันเลย

tripkhaokho49

ภายในบ้าน A4 มีพื้นที่พอเหมาะสำหรับเข้าพัก 2-3 คนเลยครับ ซึ่งภายในจะมีเตียงนอนพร้อมที่นอนให้เลย การออกแบบตัวบ้านก็เรียบง่ายเน้นการพักผ่อนสะดวกสบาย แต่ที่ผมชอบที่สุดเลยก็คือ กระจกบานใหญที่อยู่ด้านหน้าซึ่งผมสามารถมองเห็นวิวได้จากบนเตียงเลย

tripkhaokho49

tripkhaokho49

มีห้องน้ำส่วนตัวพร้อมเครื่องทำน้ำอุ่น

tripkhaokho49

ที่ด้านหน้าตัวบ้านทุกหลังมีระเบียงส่วนตัว ให้นั่งชิลล์ๆ มุมนี้เหมาะมากครับสำหรับนั่งจิบเครื่องดื่มเย็นๆ สักแก้วหรือสั่งหมูกระทะของทางที่พักมากิน

tripkhaokho49

บรรยากาศรอบๆ ก็ชิลล์สุดๆ แถมมีมุมถ่ายรูปและจุดชมวิวลอยฟ้าสวยๆ ให้ขึ้นไปยืนโพสต์ด้วย มุมนี้เรียกยอดไลค์ได้แน่นอนครับ

tripkhaokho49

tripkhaokho49

Chomview-124.2

เที่ยวชมบรรยากาศจนเพลินก็ถึงเวลาช่วงเย็นพอดี เย็นนี้ผมจะพาเพื่อนๆ ไปดินเนอร์มื้อพิเศษกับโลเคชั่นหลักล้านนั่นก็คือ การปิ้งหมูกระทะที่ระเบียงหน้าห้องพัก ซึ่งทางที่พักมีเซ็ตหมูกระทะให้บริการชุดละ 500 บาท สามารถกินได้ถึง 3 คนเลยทีเดียว

tripkhaokho49

tripkhaokho49

หมูกระทะฉ่ำๆ กับบรรยากาศฟินๆ แบบนี้ แค่นี้ผมก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้วครับ

tripkhaokho49

นั่งห้อยขาปิ้งหมูกระทะไปชมวิวไป ผมว่าวิวสวยๆ ก็ช่วยให้กินหมูกระทะอร่อยขึ้นเหมือนกันนะ แต่ถ้ามากับคนรู้ใจผมว่าน่าจะฟินมากกว่าเดิม

tripkhaokho49

เอาเป็นว่าทริปวันที่ 2 ผมขอลาไปด้วยการปิ้งหมูกระทะโชว์เลยก็แล้วกันครับ แล้วเจอกันอีกทีวันพรุ่งนี้นะครับ

บ้านชมวิว ภูทับเบิก รีสอร์ท Location: 184 ม.16 ต.วังบาล อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ // Price: ราคาเริ่มต้นวันอาทิตย์-วันศุกร์ 1,800-2,200 บาท (2คน)/ราคารวมอาหารเช้า **เตียงเสริม 300 บาท/คน ราคารวมอาหารเช้า** (ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลกรุณาสอบถามที่พักล่วงหน้า) // Phone: 089 706 0086


• DAY3 •

เช้าวันสุดท้ายของทริป วันนี้ผมตื่นตั้งแต่เช้าเพื่อจะมาดูทะเลหมอก เพราะภูทับเบิกเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับการล่าหมอกครับ เช้าๆ แบบนี้ผมขอใช้เวลาพักผ่อนแบบไม่ต้องคิดอะไรเป็นการส่งท้ายทริปนี้ครับ และไม่พลาดที่จะชงกาแฟร้อนๆ มานั่งจิบชิลล์ๆ ที่หน้าระเบียง พร้อมดูวิวไปด้วย

tripkhaokho49

บรรยากาศยามเช้าของ บ้านชมวิว ภูทับเบิก รีสอร์ท ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็ได้เห็นวิวสวยๆ

tripkhaokho49

มื้อเช้าของทางที่พักจะเป็น เช็ตอาหารที่เสิร์ฟถึงหน้าห้องพัก มีทั้ง ข้าวต้มร้อนๆ ไข่เจียว หมูฝอย และกระหล่ำปลีผัดน้ำปลา นอกจากนี้ยังมี กาแฟโอวัลตินและปาท่องโก๋ที่ต้องบริการตัวเองไว้ให้ที่โซนอาหารของทางที่พักอีกด้วย

tripkhaokho49

tripkhaokho49

กินมื้อเช้าอิ่มแล้วก็ได้เวลาเก็บสัมภาระเตรียมเช็คเอ้าท์กลับกรุงเทพครับ แต่ก่อนอื่นที่จะเดินทางกลับกรุงเทพผมขอแวะไปไหว้พระที่ วัดป่าภูทับเบิก สักหน่อย ตัววัดอยู่ไม่ไกลครับและสามารถขับรถไปด้วยตัวเองได้แบบสบายๆ

tripkhaokho78

วัดป่าภูทับเบิก วัดสวยที่ตั้งบนภูเขาสูงและยังได้รับขนานนามว่าเป็นวัดที่ตั้งอยู่บนภูเขาสูงที่สุดในประเทศไทยอีกด้วย บรรยากาศของวัดถูกปกคลุมไปด้วยสายหมอกและธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ อีกทั้งยังมีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี

tripkhaokho79

รอบตัววัดมีประติมากรรมสวยๆ ให้เราได้ชม รับรองว่าตื่นตาตื่นใจแน่นอน มาถึงแล้วก็ต้องไม่พลาดที่จะไปไหว้พระที่จุดรองรับน้ำฟ้ากลางหาว และชมพระมหาเจดีย์โพธิปักขิยธรรมเจดีย์เพชร 37 ยอด

tripkhaokho80

tripkhaokho82

tripkhaokho81

 

เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับ ทริป 3 วัน 2 คืนเขาค้อ-ภูทับเบิก ที่ผมเอามารีวิวเพื่อเป็นตัวอย่างแพลนทริปเที่ยวดีๆ ประหยัดเวลาและประหยัดงบ ให้เพื่อนๆ แชร์เก็บไว้และตามไปเที่ยวเหมือนกันกับผม เอาเป็นว่าทริปหน้าผมจะไปเที่ยวที่ไหนต่อ ฝากเพื่อนๆ ติดตามกันด้วยนะครับ สำหรับทริปนี้ความประทับใจผมให้เต็ม 10 คะแนนไปเลยครับ


สรุปค่าใช้จ่ายตลอดทริป เขาค้อ-ภูทับเบิก 3 วัน 2 คืน
-ค่าอาหารและเครื่องดื่ม โรงเตี๊ยมเขาค้อ 399 บาท
-ค่าเครื่องดื่มและเค้ก ซีด้าร์ ป่าสน คาเฟ่ 189 บาท
-ค่าทีพักเดอะพราว รีสอร์ท เขาค้อ 3,800 บาท + ค่าหมูกระทะชุดละ 499 บาท = 4,299 บาท
-ค่าเข้าไร่ดอกไม้ GB 10 บาท
-ค่าที่พักบ้านชมวิว ภูทับเบิก รีสอร์ท 1,800 บาท + ค่าหมูกระทะชุดละ 500 บาท = 2,300 บาท
ค่าใช้จ่ายตลอดทริปรวม 7,197 บาท (ค่าใช้จ่ายไม่รวมค่าน้ำมันรถไป-กลับ) หากเดินทาง 2 คน หารกันเหลือคนละ 3,600 บาท


ผู้เขียน

Pipachrat
ขีดเขียนตั้งแต่จำความ ชอบเล่นเกมส์ฟาร์มตั้งแต่เด็ก เรียนจบเอกอินทีเรีย โตมาเป็นเสี่ยอยู่หน้าจอคอม

เรื่องที่คุณอาจสนใจ