วันเดย์ทริปอัมพวา เน้นเช็คอินกินของอร่อยแบบจัดเต็ม วันเดียวก็เที่ยวได้แบบชิลล์ๆ
22,682 ครั้ง
19 มี.ค. 2562
22,682 ครั้ง
19 มี.ค. 2562
วันหยุดสุดสัปดาห์ทีไรใจก็นึกอยากจะเที่ยวทุกที แต่เวลาน้อยแบบนี้ไปจะไปเที่ยวที่ไกลๆ ก็คงใช้เวลาเดินทางนานแถมกลับมายังไม่ได้ทันพักให้หายเหนื่อยก็ต้องไปทำงานต่ออีก แต่สายเที่ยวแบบเราแคร์อะไรซะที่ไหน มีเวลาน้อยไม่ว่าขอให้มีเวลาได้เที่ยวก็พอ และวันนี้เราจะไปที่ที่นึงที่พอพูดชื่อปุ้บหลายๆ คนถึงกับร้องอ๋อ! เพราะที่นั่นคือ อัมพวา ที่เที่ยวที่อยู่ไม่ไกลจากเมืองกรุงที่มีครบทั้งอาหาร บรรยากาศ วิถีชีวิต และแน่นอนทริปนี้เราจะมาจัดหนักจัดเต็มกับคาเฟ่โซนอัมพวาที่มาพร้อมเมนูอร่อย จนสายกิน สายเที่ยวต้องพูดว่า อัมพวา กี่ครั้งถึงจะพอ?
วันนี้เราเดินทางออกจากกรุงเทพฯ กันช่วงสายๆ เพราะการเดินทางไปอัมพวาใช้เวลาเพียงแค่ชั่วโมงครึ่งเท่านั้นเอง เมื่อเราเดินทางมาถึงอัมพวาที่แรกที่เราแวะก็คือ สิริสมปอง คาเฟ่ @ สวนมะนาวโห่ลุงศิริ คาเฟ่ริมน้ำแม่กลองที่มีผลไม้อย่างมะม่วงหาวมะนาวโห่เป็นตัวดึงดูดให้เรามาปักหมุดลิ้มลองเมนูที่มีมะนาวโห่จากสวนลุงศิริมาเป็นส่วนประกอบ
ในตัวร้านเต็มไปด้วยบรรยากาศที่ร่มรื่นแถมยังมีมีที่นั่งทั้งโซนห้องแอร์ในตัวร้านและมีที่นั่งโซนแพริมน้ำให้ชมวิวแม่น้ำแม่กลองกันแบบฟินๆ เราก็ไม่พลาดสั่งเมนูซิกเนเจอร์ของร้านอย่าง มะนาวโห่โยเกิร์ตสมูทตี้และเค้กมะพร้าวอ่อนมานั่งกินริมแม่น้ำแม่กลอง
มะนาวโห่โยเกิร์ตสมูทตี้ 70 บาท และเค้กมะพร้าว 80 บาท
ใครที่มาลิ้มลองเมนูของหวานจากมะนาวโห่แล้วติดใจ ก็อย่าลืมซื้อผลิตภัณฑ์จากมะนาวโห่จากสวนลุงศิริที่มีขายภายในร้านสิริสมปองคาเฟ่ มีให้เลือกทั้งน้ำมะม่วงหาวมะนาวโห่คั้นสด แยมมะม่วงหาวมะนาวโห่ น้ำพริกมะม่วงหาวมะนาวโห่ และของอร่อยอีกหลายอย่างที่มีให้เลือกอีกมากมาย
เปิดด้วยของอร่อยๆ จากสิริสมปองคาเฟ่กันไปแล้ว มาถึงอัมพวาก็ต้องห้ามพลาดกับอีกหนึ่งสิ่งที่เรียกได้ว่าเป็นอะเมซิ่งไทยแลนด์เลยก็คือ ตลาดร่มหุบ ตลาดกลางแจ้งที่มีรางรถไฟแล่นผ่านกลางตลาดไปยังสถานีรถไฟแม่กลอง เมื่อรถไฟผ่านแม่ค้าก็จะพากันหุบร่มกันอย่างพร้อมเพียง สำหรับใครที่อยากมาดูบรรยากาศตอนรถไฟผ่านสามารถแวะมาชมได้ตอนช่วงเวลา 08.30 น., 11.10 น., 14.30 น. (รถไฟวิ่งเข้าสถานีแม่กลอง) และ 6.20 น., 9.00 น., 11.30 น., 15.30 น. (รถไฟออกจากสถานีแม่กลอง)
ดูบรรยากาศสุดอันซีนของตลาดร่มหุบกันเสร็จแล้ว อย่างที่บอกว่าทริปนี้เราเน้นกินแบบที่เรียกได้ว่าสายกินเข้ามาอ่านแล้วไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน เราไปต่อกันที่ร้าน ตาลพวา คาเฟ่ท่ามกลางสวนมะพร้าวน้ำหอมที่ออกแบบตัวรา้นในสไตล์ทรอปิคอลให้กลมกลืนกับธรรมชาติ และมีที่นั่งหลายโซนให้เลือกทั้งโซนด้านหน้าร้านที่เหมาะสำหรับกลุ่มเพื่อนที่มากันหลายคน
และที่เป็นไฮไลท์เลยก็คือโซนที่นั่งในสวนที่มีที่นั่งบนท้องล่องไว้ให้นั่งห้อยขากันชิลล์ๆ พร้อมกินเมนูอร่อยๆ ที่เราสิ่งมาอย่าง ถุงทอง ยำวุ้นเส้น และที่ห้ามพลาดเลยก็คือเมนูเครื่องดื่มที่เป็นซิกเนเจอร์ของทางร้านอย่าง ชามะพร้าวตาลพวา
ถุงทอง 75 บาท ยำรวมมิตร 75 บาท และชามะพร้าวตาลพวา 70 บาท
อิ่มพุงกันไปแล้วไปอิ่มบุญกันต่อที่ วัดบางกุ้ง วัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองชาวอัมพวา ที่มีประวัติมายาวนาน ไฮไลท์ของวัดนี้คืออุโบสถหลังเดิมที่สร้างตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี จะถูกปกคลุมด้วยรากไม้ใหญ่ทั้งโพ ไทร ไกร และกร่างมอง ส่วนภายในมีพระพุทธรูปประดิษฐานชาวบ้านเรียกว่า “หลวงพ่อโบสถ์น้อย” (หลวงพ่อนิลมณี)
ไหว้พระอิ่มบุญกันไปแล้ว ไปอิ่มพุงกันต่อที่คาเฟ่สไตล์สุดชิคอย่าง เดอะ บัฟฟาโล อัมพวา คาเฟ่ที่ออกแบบโดยใช้วัสดุจากธรรมชาติอย่างไม้ไผ่มาตกแต่งตัวร้าน และยังสะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตของชาวอัมพวาเป็นอย่างดี สำหรับที่นั่งก็มีทั้งที่นั่งริมแม่น้ำให้ชมวิวแบบชิลล์ๆ หรือจะมานั่งในโซนอินดอร์ที่มีโต๊ะดีไซน์เก๋ๆ ให้นั่งสบายๆ และถ่ายรูปสวยๆ
สำหรับเมนูเครื่องดื่มที่เราสั่งก็เป็นเมนูแนะนำของทางร้านที่มาแล้วจะต้องห้ามพลาดนั่นก็คือ บัฟฟาโล คอฟฟี่ ที่มีความพิเศษคือในแก้วจะแบ่งชั้นเป็นชั้นที่หนึ่งจะเป็นชาเย็น ชั้นที่สองจะเป็นนมสด และชั้นบนสุดจะเป็นกาแฟ หรือใครที่ไม่ใช่คอกาแฟก็สามารถเลือกเป็นโกโก้ได้อีกด้วย และยังมีลาเต้อาร์ทที่แต่งเป็นลายหัวควายตามคอนเซ็ปของร้าน
นอกจากเครื่องดื่มแล้วยังมีของหวานอย่างเค้กให้เลือกหลายอย่าง วันนี้เลยจัดเค้กมันม่วงมากินแบบฟินๆ และยังมีขนมโสมนัสขนมไทยที่หากินได้ยาก สามารถซื้อไปเป็นของฝากได้อีกด้วย
และยังมีน้องควายแคระน่ารักๆ ให้นั่งเล่นหรือถ่ายรูปกันด้วยนะ
กินจนเพลินพุงเผลอแป้บเดียวก็ได้เวลากลับกรุงเทพกันแล้ว แต่เท่านี้ยังไม่พอเราปักหมุดไปที่ร้าน ซอลท์ เลค เดอ แม่กลอง คาเฟ่กลางนาเกลือแห่งแรกของเมืองไทยที่เก๋ไก๋ไม่ซ้ำใคร คาเฟ่แห่งนี้ตั้งอยู่ริมถนนพระราม 2 ฝั่งขาเข้ากรุงเทพ และตกแต่งร้านด้วยสไตล์ อเมริกัน คอทเทจ ที่ให้ฟีลเหมือนอยู่ท่ามกลางหิมะสีขาว
สำหรับที่นั่งก็มีทั้งโซนห้องแอร์ที่จำลองเทศกาลคริสต์มาสต์ท่ามกลางหิมะ และโซนด้านล่างที่เปิดโล่งให้ชมบรรยากาศของนาเกลือแบบ 180 องศา
และยังมีมุมชิงช้าและกังหันลม ให้ถ่ายรุปเก๋ๆ ไปอวดเพื่อนให้เฟซบุ๊กอีกด้วย
สำหรับเมนูเครื่องดื่มองทางร้านก็มีชื่อสุดแนวอย่าง นมสาวนาเกลือ Cup A ราคา 59 บาท ที่วันนี้เราลองสั่งมากินเป็นเมนูปิดท้ายสำหรับทริปนี้
เป็นอย่างไงกันบ้างสำหรับทริปวันเดียวก็เที่ยวได้ที่อัมพวา ที่มีทั้งที่เที่ยวที่กินบรรยากาศดีๆ แถมยังอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ วันหยุดที่จะถึงนี้ลองวางแพลนเที่ยวอัมพวาตามทริปรีวิวนี้เลย รับรองเลยว่าถูกใจสายกิน สายเที่ยว อย่างแน่นอน นอกจากคาเฟ่แล้ว อัมพวายังมีร้านอาหารเด็ดๆ ที่พักโดนๆ อีกมากมาย ลองมาสโลไลฟ์กันที่อัมพวาดูสักครั้งรับรองว่าติดใจจนอยากกลับมาอีกครั้งอย่างแน่นอน