Maldives Beach Resort จันทบุรี อัปเดตล่าสุดห้องวิวทะเล พร้อมโซนคาเฟ่สไตล์ทรอปิคอลสุดชิค
6,030 ครั้ง
2 มิ.ย. 2566
6,030 ครั้ง
2 มิ.ย. 2566
วันนี้ทริปเก็ทเตอร์จะพาไปนอนริมทะเลชิลล์ๆ มีความเป็นส่วนตัวกันที่ Maldives Beach Resort จังหวัดจันทบุรี แค่ชื่อก็เชื่อได้เลยว่าที่พักนี้ต้องสวยและบรรยากาศดีเหมือนอยู่มัลดีฟส์แน่ๆ ยิ่งได้มานอนสักคืนจะหลงรักความสะดวกสบาย ได้มาพักผ่อนกันแบบเต็มร้อย! สำหรับครั้งนี้จะพาไปเช็คอินห้องใหม่กับวิวทะเลแบบพาโนรามา เป็นห้องที่สวยตามคอนเซ็ปต์มัลดีฟส์ บีช รีสอร์ท มาแล้วรับรองประทับใจสุดๆ นอกจากนี้ยังมีคาเฟ่เปิดใหม่ Maldivana Cafe ที่กำลังฮิตมาก สายคอนเทนต์ห้ามพลาดเด็ดขาด และจบด้วยมื้อเย็นแสนพิเศษที่ The White Box ร้านอาหารริมทะเลของที่พักกับไฮไลท์การแสดงกระบองไฟสุดอลังการ ทั้งหมดนี้แค่เริ่มต้นเท่านั้น ถ้าอยากรู้ว่ามีอะไรพิเศษๆ รออยู่อีก ก็มาเริ่มกันเลย~
Maldives Beach Resort (มัลดีฟส์ บีช รีสอร์ท) ที่พักหรูริมทะเลจันทบุรีตั้งอยู่บนหาดแหลมเสด็จ บรรยากาศสุดไพรเวทที่มีการตกแต่งอย่างสวยงาม พร้อมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกและการบริการอย่างจัดเต็ม บอกเลยว่าพนักงานและเจ้าหน้าที่โรงแรมมีความเป็นกันเอง พร้อมให้ความช่วยเหลือตลอด ใครได้มาพักที่นี่สบายกายและสบายใจสุดๆ และในส่วนของห้องพักมีให้เลือกหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นห้อง Beachfront Honeymoon Suite, Beachfront Paradise Suite และ Romance Ocean View Studio รวมถึงห้องใหม่ล่าสุดที่จะมาแนะนำทุกคนกันอย่าง ห้อง Panoramic Seaview Suite มาพร้อมกับวิวทะเลกว้างๆ พาโนรามา ว่าแล้วตามมาดูกันดีกว่าว่าห้องใหม่นี้จะมานอนขนาดไหน
แค่ทางเข้าก็ดีไซน์สวยมาก ดูโล่งโปร่งสบายตา และตรงล็อบบี้จะมีพนักงานยิ้มแย้มแจ่มใสตลอด
Panoramic Seaview Suite เป็นห้องน้องใหม่ของ Maldives Beach Resort ห้องนี้จะอยู่บนตึกชั้น 2 และ ชั้น 3 ซึ่งเป็นโซนที่วิวสวยที่สุด มองเห็นทะเลแบบไกลสุดสายตา บรรยากาศชิลล์มากๆ สำหรับห้องพักเมื่อเดินเข้ามาจะเจอกับอ่างอาบน้ำที่หันหน้าเข้าหาหน้าต่าง ได้วิวทะเลแบบเต็มๆ เรียกได้ว่าแค่เปิดมาก็ได้มุมเช็คอินที่แรกในการอัปลงโซเชียลแล้ว ส่วนการตกแต่งในห้องเน้นโทนสีอ่อน ดูสบายตา ในขณะเดียวกันก็แฝงไปด้วยความหรูหราเรียบง่าย ตกแต่งลวดลายไม้ไผ่ที่ดูแล้วใกล้ชิดธรรมชาติ ถือว่าเป็นห้องที่สวยน่านอนและเหมาะกับการถ่ายรูปทำคอนเทนต์มาก
มุมไฮไลท์คือการแช่อ่างอาบน้ำพร้อมวิวข้างหลังเป็นท้องทะเล
ภายในห้องจัดสรรสัดส่วนมาได้อย่างลงตัว เริ่มจากมุมนั่งเล่นตรงโซฟา แอบกระซิบว่าโซฟาหลังใหญ่ นอนเล่นสบายสุดๆ ถัดมาเป็นโถงกลางมีอ่างอาบน้ำ ส่วนนี้มีพื้นที่ให้ใช้สอยพอสมควร และสุดท้ายเป็นเตียงนอนนุ่มๆ แค่ล้มตัวนอนก็สบายจนไม่อยากลุกไปไหน ส่วนตรงปลายเตียงเป็นไฮไลท์ก็คือหน้าต่างบานใหญ่ที่เปิดมาจะเห็นภาพท้องทะเลแบบ 180 องศา เรียกได้ว่านอนอยู่บนเตียงก็ได้ชมวิวทะเลชิลล์ๆ อีกทั้งมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
โซนมินิบาร์ มีเครื่องดื่มและขนมให้พร้อม แถมยังฟรีด้วยนะ
ใครอยากนั่งชิลล์ ดื่มด่ำลมทะเล ต้องมานั่งเล่นตรงระเบียงนี้เลย วิวสวยมาก
มาต่อกันที่ห้องน้ำจะแบ่งเป็นโซนเปียกและโซนแห้ง ห้องน้ำเป็นฝักบัวแบบ Raining Shower อาบสบายๆ พร้อมอุปกรณ์อาบน้ำต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสบู่ แชมพู ครีมนวด ยาสีฟัน แปรงสีฟัน
สำหรับใครที่พักห้องนี้จะได้ชุด Welcome Set ต้อนรับผู้เข้าพักทุกคน ในชุดนี้ประกอบด้วยเครื่องดื่มสุดสดชื่นอย่าง น้ำเลม่อน หอมเลม่อนอ่อนๆ รสเปรี้ยวหวานลงตัว ดื่มแล้วเฟรชมากๆ นอกจากนี้ยังมีผลไม้และขนมกินเล่น นำมาดิปกับช็อกโกแลตเยิ้มๆ หวานฉ่ำสุดๆ
นอกจากนี้ในที่พักยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกและส่วนกลางไว้คอยบริการ ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำแบบอินฟินิตี้พูลที่มองเห็นทะเลได้แบบเต็มๆ สามารถว่ายน้ำไป สัมผัสลมทะเลไปด้วย หรือจะเป็นห้องอาหารสวยๆ พร้อมวิวทะเล บอกเลยว่าทุกส่วนของโรงแรมออกแบบมาอย่างสวยงาม สายโซเชียลสามารถถ่ายรูปได้ทุกมุม
สำหรับห้องอาหารที่อยู่ในที่พักจะบริการอาหารเช้า ซึ่งอาหารเช้าเป็นบุฟเฟ่ต์นานาชาติที่มีให้เลือกหลากหลาย ห้องอาหารนี้จะเปิดบริการตั้งแต่เวลา 07.00 – 10.00 น.
ข้อดีของที่พักติดทะเลคือเราจะเดินเล่นบนชายหาดเมื่อไรก็ได้ และที่โรงแรมก็เซ็ตมุมให้ถ่ายรูปไว้ด้วย แนะนำว่าถ้าใครอยากได้รูปสวยๆ ให้มาช่วงเย็นที่พระอาทิตย์ใกล้ตกดิน แสงจะสวยละมุนมาก
ความพิเศษยังไม่จบ ตอนนี้ Maldives Beach Resort ได้เปิดตัวคาเฟ่น้องใหม่ป้ายแดง Maldivana Cafe (มัลดิวานา คาเฟ่) คาเฟ่สไตล์ทรอปิคอล ออกแบบมาอย่างโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ เน้นใช้โทนสีที่สบายตาอย่างสีขาวเป็นพื้น ตัดด้วยสีน้ำตาลและสีเขียว ให้ฟีลอบอุ่น กลมกลืนกับบรรยากาศริมทะเล สิ่งที่น่ารักของคาเฟ่นี้คือการลงดีเทลเล็กๆ น้อยๆ ไม่ว่าจะของตกแต่ง วัสดุที่ใช้ ต้นไม้ ดอกไม้ต่างๆ ทุกอย่างแสดงถึงความใส่ใจ ทำให้ทุกคนที่เข้ามารู้สึกผ่อนคลาย อยากนั่งพักผ่อน ส่วนสายโซเชียลก็ต้องเลิฟมากๆ เพราะที่ร้านมีมุมถ่ายรูปสวยๆ เพียบ แอบกระซิบว่าจากคาเฟ่สามารถเดินตรงไปที่ชายหาดได้ ใครที่มาแล้วก็อย่าลืมไปเช็คอินริมทะเลด้วยนะ
ตั้งแต่ทางเข้าเป็นมุมแรกที่ใครมาก็ต้องกดชัตเตอร์ สวยเป็นเอกลักษณ์สุดๆ
การตกแต่งน่ารักมาก มีความใส่ใจในรายละเอียดทุกจุด
ในร้านสามารถกดถ่ายรูปได้ทุกมุมเลย
สำหรับโซนที่นั่งจะมีแค่อินดอร์ห้องแอร์เย็นๆ เรียกได้ว่าเหมาะกับการหนีร้อน มานั่งสบายๆ และมีที่นั่งให้เลือกหลายแบบ ภายในร้านดูโล่งโปร่ง มีพื้นที่สำหรับช่องแสงค่อนข้างเยอะ ทำให้บรรยากาศร้านนอกจากดูผ่อนคลาย สบายตา ยังมีแสงช่วยให้ถ่ายรูปสวยยิ่งขึ้นไปอีก
ในส่วนของเมนูมีเสิร์ฟครบทั้งของคาว ของหวาน และเครื่องดื่ม มาเริ่มต้นด้วยของคาว ส่วนใหญ่เมนูจะเป็นอาหารญี่ปุ่นฟิวชั่น หน้าตาน่ากิน แถมยังเสิร์ฟมาจัดเต็ม รับรองว่าได้อิ่มอร่อยกันแบบจุกๆ
สำหรับเมนูแรกจะเริ่มเป็นออเดิร์ฟเบาๆ เต้าหู้เย็น ราคา 120 บาท เนื้อเต้าหู้นุ่มๆ เย็นๆ มีความละมุน ราดซอสรสกลมกล่อม เพิ่มเท็กซ์เจอร์ความหนึบหนับด้วยปลาคัตสึโอะแห้ง บอกเลยว่าเป็นเมนูคลายร้อน กินง่ายเหมาะกับการเรียกน้ำย่อยมาก
กินเล่นเพลินๆ เกี๊ยวซ่า แป้งข้างนอกกรอบกำลังดี ข้างในมีไส้แน่นๆ ราคาอยู่ที่ 180 บาท
เทมปุระ ราคา 260 บาท เมนูกินเล่นกรุบกรอบ โดยทางร้านใช้เทคนิคการทอดให้กรอบฟูสวยๆ เนื้อกุ้งแน่นๆ บอกเลยว่าสายของทอดห้ามพลาดเด็ดขาด
มาจัดเต็มอาหารจานหลักจานแรกด้วย ข้าวแกงกะหรี่หมูทอด ราคา 250 บาท เสิร์ฟมาในจานใหญ่ๆ เนื้อหมูทอดมาอย่างดี มีความนุ่ม ฉ่ำ ไม่กระด้าง บวกกับซอสสูตรเฉพาะของทางร้าน ทำให้เวลากินรวมกันแล้ว อร่อยกลมกล่อม อีกทั้งตักไปแล้วได้กลิ่นหอมๆ ของผงกะหรี่ด้วย
ข้าวหน้าปลาไหล เนื้อปลาไหลฉ่ำๆ ราดด้วยซอสสูตรเฉพาะ รสหวานเค็มลงตัว ยิ่งกินกับข้าวร้อนๆ เข้ากันสุด ราคา 390 บาท
มาเอาใจสายเฮลตี้ด้วย สลัดแซลมอน ผักร๊อกเก็ต และอโวคาโด ราคาอยู่ที่ 290 บาท เทน้ำสลัดงาญี่ปุ่น คลุกเคล้าให้เข้ากัน จะได้รสครีมมี่มันๆ หรือใครอยากตัดเลี่ยนก็สามารถราดโซยุญี่ปุ่น มีความเปรี้ยวหวาน หอมกลิ่นงาหน่อยๆ บอกเลยว่าอร่อย กินได้เรื่อยๆ แบบไม่รู้สึกผิด
หลังจากจัดเต็มเมนูของคาวแล้วก็มาต่อของหวาน มีให้เลือกหลากหลายมากทั้ง เบเกอรี่ เค้ก ไอศกรีม แพนเค้ก เรียกได้ว่าสายหวานถูกใจแน่ๆ ส่วนเมนูที่อยากแนะนำก็คือ บลูเบอร์รี่แพนเค้ก ราคา 290 บาท แพนเค้กหอมกลิ่นเนย ราดด้วยบลูเบอร์รี่เยิ้มๆ ได้ความหวานอมเปรี้ยว ออนท็อปด้วยไอศกรีมหวานฉ่ำ เป็นเมนูที่กินเท่าไรก็อร่อยไม่เบื่อ
ครอฟเฟิลไอศกรีม มิกซ์เบอร์รี่ เมนูสุดฮิตที่ผสมผสานระหว่างครัวซองต์และวาฟเฟิล ตัวครอฟเฟิลหอมเนย กรอบนอกนุ่มใน บวกกับรสสัมผัสเย็นๆ ของไอศกรีมและความหวานของซอสช็อกโกแลต ตัดด้วยความเปรี้ยวของสตรอว์เบอร์รี่และบลูเบอร์รี่ แนะนำเวลาตักให้รวมทุกอย่างเข้าด้วยกัน รสชาติลงตัวสุดๆ ราคาก็ 290 บาท
ในส่วนของเครื่องดื่มมี coffee, non-coffee, smoothie และโซดา มาเริ่มความสดชื่น คลายร้อนกับ Maldivana Butterfly ราคา 110 บาทเมนูซิกเนเจอร์สุดเฟรชจากสตรอว์เบอร์รี่ ลิ้นจี่โซดา และอัญชัน ดื่มไปคำแรกสัมผัสได้ถึงความสดชื่นจากผลไม้ ยิ่งมีความซ่าของโซดาเข้าไปอีก บอกเลยว่าใครร้อนๆ ต้องห้ามพลาด และต่อด้วย Chanthaburi sparkle ราคา 110 บาท ผสมด้วยเสาวรส บ๊วย และใบกระวานที่เป็นสมุนไพรประจำจันทบุรี ถ้าชอบความเปรี้ยวซ่าแนะนำเมนูนี้เลย
สำหรับเมนู Smoothie เย็นๆ ของทางร้านจะเป็นการผสมผลไม้หลายๆ ชนิด แต่ละแก้วได้รสชาติที่ไม่เหมือนกัน เมนูแรก Summer Passion ราคา 130 บาท เหมาะกับคนที่ชอบรสเปรี้ยวเป็นพิเศษ โดยเมนูนี้ผสมเสาวรส มะม่วง และพีชเข้าด้วยกัน ดื่มแล้วเย็นสดชื่นมาก อีกเมนู Berry Berry ราคา 130 บาท จัดเต็มผลไม้ตระกูลเบอร์รี่อย่าง สตรอว์เบอร์รี่ ราสเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ รสหวานนัวคลายร้อนมาก
นอกจากส่วนที่พักและคาเฟ่ยังมีบริการร้านอาหารริมทะเล The White Box (เดอะ ไวท์ บ๊อกซ์) ตั้งอยู่ข้างๆ กับโรงแรม ตกแต่งอย่างสวยงามเน้นโทนสีขาวน้ำเงิน มู้ดเข้ากับความเป็นท้องทะเล สำหรับที่นั่งก็มีทั้งอินดอร์และเอาท์ดอร์ แต่แนะนำถ้าอยากนั่งรับลมทะเลชิลล์ๆ ต้องเลือกเอาท์ดอร์ริมทะเลเลย ยิ่งในช่วงเย็นแสงสวยมาก และไฮไลท์ก็คือสามารถเห็นพระอาทิตย์ตกดินได้แบบใกล้ชิด บรรยากาศดีมาก เหมาะกับการมาฝากท้องในมื้อเย็นจริงๆ
เมนูอาหารของทางร้านถูกใจสายซีฟู้ดแน่นอน ร้านจะเน้นเสิร์ฟอาหารทะเลสดๆ แต่ละเมนูอร่อยถูกปาก แถมหน้าตาน่ากินไปหมด มาเริ่มที่เมนูแรก มัลดีฟส์ทะเลเดือด ราคา 390 บาท มาม่าต้มยำจัดเต็มเครื่องเน้นๆ ทั้งหมึก กุ้ง หมู หอมกลิ่นเครื่องต้มยำ มีความเปรี้ยว หวาน เผ็ดลงตัว ยิ่งกินตอนร้อนๆ ต้องยกนิ้วให้เลย ราคาอยู่ที่ 390 บาท
ปลากะพงต้มกระวาน ราคา 390 บาท เนื้อปลาแน่นชุ่มฉ่ำด้วยน้ำต้มยำ หอมกลิ่นใบกระวาน
ซี่โครงหมูบาร์บีคิว ซี่โครงชิ้นใหญ่ๆ เนื้อหมูเปื่อยนุ่ม กินง่ายไม่ติดกระดูก แถมมีซอสบาร์บีคิวฉ่ำๆ กินคู่กับเฟรนช์ฟรายส์ ราคาความอร่อยลงตัวอยู่ที่ 490 บาท
มาต่อที่เมนูยอดฮิต ห่อหมกทะเลในมะพร้าวอ่อน ราคาอยู่ที่ 280 บาท ในมะพร้ามอัดแน่นไปด้วยหมึก กุ้ง หอย หอมกลิ่นเครื่องแกง แถมยังมีมะพร้าวอ่อนให้เคี้ยวกรุบๆ
ปลาส้มเลิฟเวอร์ก็ต้องสั่ง ท้องปลาแซลมอนทอดราดน้ำปลา ราคา 280 บาท ตัวปลาถูกทอดมาอย่างดี กรอบนอก นุ่มใน คลุกน้ำปลาหอมๆ กินกับข้าวสวยกำลังดีหรือจะจิ้มกับน้ำยำฉ่ำๆ ก็อร่อยเหมือนกัน
ใครที่จะมากินข้าวที่นี่ก็แนะนำให้โทรจองโต๊ะล่วงหน้า เพื่อการันตีโต๊ะที่ดีที่สุดสำหรับมื้อพิเศษและไฮไลท์ที่ห้ามพลาดก็คือ การแสดงกระบองไฟริมทะเล เป็นการแสดงที่สร้างความตื่นตาตื่นใจและน่าประทับใจมาก อีกทั้งถ่ายรูปออกมาแล้วดูสวยอลังการสุดๆ สำหรับการแสดงนี้จะมีเฉพาะวันเสาร์ เริ่มตั้งแต่เวลา 19.50 – 20.30 น. และถ้าอยากดูโชว์อย่างใกล้ชิด ต้องเลือกโต๊ะเอาท์ดอร์ริมทะเลเลย รับรองได้ภาพสวยๆ กลับไปแน่นอน
สำหรับวันหยุดนี้ใครที่กำลังมองหาที่พักที่ครบจบในที่เดียว ให้ขับรถมาที่ Maldives Beach Resort จังหวัดจันทบุรี สถานที่ที่เหมือนอยู่ในอาณาจักรแห่งการพักผ่อน ภายในมีครบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นคาเฟ่น้องใหม่ที่มาพร้อมมุมถ่ายรูปสุดปังอย่าง Maldivana Cafe หรือร้านอาหารบรรยากาศดีๆ ริมทะเลอย่าง The White Box ที่มีไฮไลท์เป็นการแสดงกระบองไฟสุดตระการตา เรียกได้ว่ามานอนสักคืนได้รับประสบการณ์ดีๆ กลับไปเพียบ
รายละเอียดที่พัก Maldives Beach Resort (มัลดีฟส์ บีช รีสอร์ท)
รายละเอียดคาเฟ่ Maldivana Cafe (มัลดิวานา คาเฟ่)
รายละเอียดร้านอาหาร The White Box (เดอะ ไวท์ บ๊อกซ์)
เป็นอย่างไรกันบ้างกับ Maldives Beach Resort จันทบุรี อัปเดตล่าสุดห้องวิวทะเล พร้อมโซนคาเฟ่สไตล์ทรอปิคอลสุดชิค บอกเลยว่าใครไม่อยากพลาดห้องสวย วิวทะเลปังๆ ต้องรีบจองห้อง Panoramic Seaview Suite และอย่าลืมไปถ่ายรูปกับที่คาเฟ่ด้วยนะ จะได้มีรูปสวยๆ ไปอวดเพื่อน ส่วนใครอยากดูรีวิวห้องพักแบบอื่นก็ลองมาดู มัลดีฟส์ บีช รีสอร์ท จันทบุรี ที่พักริมทะเล หาดสวย น้ำใส เหมือนได้ไปมัลดีฟส์ และใครมีแพลนมาเที่ยวจันทบุรี มาเที่ยวตามนี้ได้เลย ทริปเลียบทะเลจันท์ 2 วัน 1 คืน “ให้เส้นทางพาเราไป”