7 ที่เที่ยวย้อนรอยประวัติศาสตร์ไทย สัมผัสความงดงามในอดีต

ประเทศไทยของเรานั้นเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์มาช้านาน วันนี้ทริปเก็ทเตอร์จะขอพาทุกท่านไปสัมผัสร่องรอยทางประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นในหลายๆ ยุคสมัยของประเทศไทย บอกเลยว่านอกจากจะได้สัมผัสสิ่งที่เกิดขึ้นทางประวัติศาสตร์แล้ว ยังได้เพลิดเพลินไปกับสถาปัตยกรรมอันงดงามของแต่ละยุคสมัยอีกด้วย จะมีที่ไหนบ้าง ไปชมกันเลยกับ 7 ที่เที่ยวย้อนรอยประวัติศาสตร์ไทย สัมผัสความงดงามในอดีต

---

7 ที่เที่ยวย้อนรอยประวัติศาสตร์ไทย สัมผัสความงดงามในอดีต

---

1.อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย, สุโขทัย
(Sukhothai Historical Park)

มาเริ่มกันที่ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ที่มีพื้นที่ครอบคลุมกว่า 70 ตารางกิโลเมตร ราชธานีของไทยที่มีความเจริญรุ่งเรืองในหลายๆ ด้าน ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก เมื่อปีพ.ศ. 2534 ภายในอุทยานเต็มไปด้วยโบราณสถานมากมาย ไม่ว่าจะเป็นพระราชวัง โบราณสถานสำคัญๆ ในยุคสมัยนั้น และด้วยเนื้อที่ของอุทยานที่มีความกว้างใหญ่ บริเวณรอบๆ จึงมีบริการให้เช่าจักรยานเพื่ออำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวสามารถปั่นจักรยานชื่นชมและเพลิดเพลินกับบรรยากาศภายในอุทยานได้อย่างเต็มที่

• Location: อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.สุโขทัย
• Open-Close: เปิดให้เข้าชมทุกวัน วันจันทร์ – ศุกร์ และวันอาทิตย์ เวลา 06.30 – 19.30 น. / วันเสาร์ เวลา 06.30 – 21.00 น. (มีการเปิดไฟส่องโบราณสถาน)
• Phone: 055 697 527
• Facebook: อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย

---

2.อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย, สุโขทัย
(Si Satchanalai Historical Park)

เมื่อพูดถึงอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยแล้ว ก็พลาดไม่ได้ที่จะแวะไปเยี่ยมชม อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย ในฐานะเมืองบริวารของสุโขทัยอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัยก็เป็นส่วนหนึ่งที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปีพ.ศ.2534 ด้วย อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัยอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองสุโขทัยภายในอุทยานมีแหล่งโบราณสถานสำคัญมากมายที่มีความสวยงามแตกต่างกันออกไปจากศิลปะหลายยุคสมัย พลาดไม่ได้เลยที่จะมาชมความงดงามด้วยตาตัวเอง

• Location: อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย ต.ศรีสัชนาลัย อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย
• Open-Close: เปิดให้เข้าชมทุกวันเวลา 08.00 – 17.00 น.
• Price: ค่าเข้าชม ชาวไทย 10 บาท ชาวต่างชาติ 30 บาท
• Phone: 055 679 211
• Facebook: อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย

---

3.วัดศรีชุม, สุโขทัย
(Wat Si Chum)

ยังคงอยู่กันที่สุโขทัยกับสถานที่ถัดมา วัดศรีชุม เป็นโบราณสถานในเขตอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยสันนิษฐานว่าสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยของพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ภายในวัดเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยองค์ใหญ่มีนามว่า “พระอจนะ” หน้าตักกว้างถึง 11.3 เมตร ที่ร่ำลือกันว่าเป็นพระพุทธรูปพูดได้ นอกจากพระพุทธรูปปางมารวิชัยแล้ว วิหารของวัดศรีชุมก็มีความงดงามไม่แพ้กัน พลาดไม่ได้เลยที่จะมาเยี่ยมชมศิลปะในสมัยสุโขทัยที่วัดแห่งนี้

• Location: วัดศรีชุม อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ม.3 ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.สุโขทัย
• Open-Close: เปิดให้เข้าชมทุกวันเวลา 09.00 – 17.00 น.
• Phone: 055 019 690
• Facebook: วัดศรีชุม จังหวัดสุโขทัย

---

4.พระนารายณ์ราชนิเวศน์, ลพบุรี
(King Narai’s Palace)

มาต่อกันที่จังหวัดลพบุรีกับ พระนารายณ์ราชนิเวศน์ ที่แสดงให้เห็นถึงความรุ่งเรืองในสมัยนั้นของเมืองละโว้ ชาวเมืองลพบุรีเรียกสถานที่แห่งนี้ว่า “วังนารายณ์” หากเคยชมละครเรื่องบุพเพสันนิวาสหลายๆ คนคงจะคุ้นเคยกับชื่อนี้อย่างแน่นอน พระนารายณ์ราชนิเวศน์ เป็นพระราชวังที่สมเด็จพระนารายณ์มหาราชโปรดให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2209 ภายในจะได้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของพระราชวังในสมัยอยุธยาคลอบคลุมพื้นที่ 41 ไร่ โบราณสถานที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ห้ามพลาดที่จะไปสัมผัสด้วยตาตัวเองเด็ดขาด

• Location: 182 ถ.สรศักดิ์ ต.ท่าหิน อ.เมือง จ.ลพบุรี
• Open-Close: โบราณสถานพระนารายณ์ราชนิเวศน์ เปิดให้เข้าชมทุกวันเวลา 09.00 – 16.30 น.
  พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสมเด็จพระนารายณ์ เปิดวันพุธ – วันอาทิตย์ เวลา 09.00 – 16.00 น. (หยุดวันจันทร์ – วันอังคาร)
• Price: โซนด้านนอกเข้าชมฟรี โซนพิพิธภัณฑ์คิดค่าบริการ 30 บาท/คน
• Phone: 036 411 458
• Facebook: พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สมเด็จพระนารายณ์

---

5.วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร, นครปฐม
(Wat Phra Pathom Chedi Racha Worawihan)

วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร วัดคู่บ้านคู่เมืองของชาวนครปฐม ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ในตัวเมืองนครปฐม พระปฐมเจดีย์เป็นเจดีย์ที่ใหญ่และสูงที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย ที่นี่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน ภายในประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ที่พลาดไม่ได้ของวัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร ก็คืองานเทศกาลนมัสการองค์พระปฐมเจดีย์ ในวันขึ้น 12 ค่ำ เดือน 12 ถึง วันแรม 5 ค่ำ เดือน 12 รวมทั้งหมดเป็นเวลา 9 วัน 9 คืน ให้ผู้คนทั่วสารทิศมากราบไหว้และเพลิดเพลินกับความงดงามขององค์เจดีย์ในยามค่ำคืน

• Location: 27 ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม
• Open-Close: เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 05.00 – 20.00 น.
• Phone: 034 242 143
• Facebook: วัดพระปฐมเจดีย์ ราชวรมหาวิหาร

---

6.วัดมหาธาตุ, พระนครศรีอยุธยา
(Wat Mahathat)

มาทางฝั่งกรุงเก่าอย่างพระนครศรีอยุธยากันบ้างกับ วัดมหาธาตุ ตั้งอยู่ในบริเวณอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา สร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1 เป็นเวลากว่า 600 ปี วัดมหาธาตุเป็นวัดยอดนิยมที่มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติแวะเวียนมาเยี่ยมชมก็อย่างมากมาย จุดเด่นสำคัญของวัดมหาธาตุที่ทุกคนต้องแวะเยี่ยมชมก็คือ เศียรพระพุทธรูปกว่าร้อยปีในรากต้นโพธิ์ ซึ่งเป็นศิลปะของสมัยอยุธยา บอกเลยว่าพลาดไม่ได้เด็ดขาดที่จะมาชมความงามและร่องรอยของประวัติศาสตร์ที่วัดแห่งนี้

• Location: ถ.นเรศวร ต.ท่าวาสุกรี อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา
• Open-Close: เปิดให้บริการทุกวันเวลา 08.00 – 16.30 น.
• Price: ค่าเข้าชม 10 บาท/คน

---

7.วัดราชบูรณะ, พระนครศรีอยุธยา
(Wat Ratchaburana)

มาถึงที่สุดท้ายกับ วัดราชบูรณะ อีกหนึ่งวัดที่อยู่ในเขตของอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ตรงข้ามกับวัดมหาธาตุ วัดราชบูรณะ จัดเป็นหนึ่งในวัดที่ใหญ่และมีความเก่าแก่มากที่สุดในพระนครศรีอยุธยา สร้างในสมัยของสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 หรือเจ้าสามพระยา ในปี พ.ศ. 1967 วัดราชบูรณะเป็นวัดที่มีชื่อเสียงในเรื่องของทรัพย์สมบัติ ถึงขนาดเคยมีคนร้าย ลักลอบขุดกรุภายในพระปรางค์ประธานเพื่อขโมยสมบัติไป บอกได้เลยว่าเป็นอีกวัดที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานพลาดไม่ได้เมื่อแวะมาพระนครศรีอยุธยาจะต้องมาเยี่ยมชม

• Location: ถ.ชีกุน ต.ท่าวาสุกรี อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา
• Open-Close: เปิดบริการทุกวันเวลา 08.30 – 16.30 น.
• Price: ค่าเข้าชม 10 บาท/คน

---

เป็นยังไงกันบ้างกับสถานที่ท่องเที่ยวที่จะพาคุณไปสัมผัสร่องรอยของประวัติศาสตร์ ดื่มด่ำไปกับบรรยากาศเมืองเก่าพร้อมรับชมศิลปะวัฒนธรรมอันงดงามในสมัยก่อน หากยังไม่จุดใจลองไปที่ 14 จุดเช็คอินสุโขทัย-พิษณุโลก เมืองแห่งประวัติศาสตร์และความสวยงามของธรรมชาติที่ตราตรึงใจ และ 5 ที่เที่ยวเพชรบูรณ์ เน้นดูประวัติศาสตร์ ซึมซับวิถีชีวิต และใกล้ชิดธรรมะให้ชุ่มชื่นหัวใจ

---