7 ที่เที่ยวหน้าฝน หมู่บ้านแห่งสายหมอก เย็นชุ่มฉ่ำกับบรรยากาศสุดฟิน
7,303 ครั้ง
26 พ.ค. 2565
7,303 ครั้ง
26 พ.ค. 2565
ใครว่าหน้าฝนไม่มีที่เที่ยว ต้องอยู่แต่ในบ้าน อยากให้ทุกคนเปลี่ยนความคิดนี้ด่วน เพราะยังมีที่เที่ยวหน้าฝนที่มีความสวยงามมากมายที่รอให้ทุกคนไปสัมผัสกัน ยิ่งหน้าฝนเป็นช่วงที่ธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ มีความเขียวขจีของต้นไม้ และฟินสุดๆ ไปกับสายหมอกสีขาวเป็นภาพพื้นหลัง บวกกับความชุ่มฉ่ำของสายฝนยิ่งเสริมบรรยากาศอันแสนโรแมนติก วันนี้ทริปเก็ทเตอร์ได้รวม 7 ที่เที่ยวหน้าฝน หมู่บ้านแห่งสายหมอก เย็นชุ่มฉ่ำกับบรรยากาศสุดฟิน ชวนทุกคนมาปักหมุด เที่ยวชิลล์ๆ และล่าทะเลหมอกกับหมู่บ้านที่เหมาะกับการมาพักกายสบายใจในหน้าฝนนี้กัน
บ้านอีต่อง หมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางขุนเขาและสายหมอก ต้ังอยู่ใกล้กับอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิและเป็นที่รู้จักในหมู่นักเดินป่า เพราะเป็นจุดเริ่มทางขึ้นไปเขาช้างเผือก นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี สามารถเที่ยวได้ทุกช่วง แต่ถ้าใครอยากได้ทะเลหมอกแบบจัดเต็มก็แนะนำให้มาในฤดูฝนเลย จะพบกับความเขียวขจีของต้นไม้และหมอกที่อยู่ล้อมรอบตัวเรา บวกกับบรรยากาศของชุมชนเหมืองเก่าทำให้หมู่บ้านมีเรื่องราวน่าสนใจและมีเสน่ห์จนทำให้หลายๆ คนตกหลุมรักที่นี่ อีกทั้งรอบๆ หมู่บ้านยังมีที่เที่ยวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเหมืองปิล๊อก เนินช้างศึก น้ำตกจ๊อกกระดิ่น บ้านป้าเกล็น เรียกได้ว่าจะมาเที่ยวก็มีที่เที่ยวหรืออยากมาพักผ่อนชิลล์ๆ ที่บ้านอีต่องก็ตอบโจทย์เช่นกัน
หมู่บ้านแม่กำปอง จุดหมายปลายทางยอดฮิตของคนที่อยากเที่ยวเชียงใหม่ กับบรรยากาศของธรรมชาติโอบล้อมและอุดมสมบูรณ์ ในหมู่บ้านยังคงเสน่ห์ของวิถีชุมชนและบรรยากาศสุดชิลล์ นอกจากมีต้นไม้ขุนเขายังมีสายน้ำที่ไหลผ่านหมู่บ้านและสายหมอกลอยจางๆ ทำให้อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี เหมาะกับการหนีความวุ่นวายมาใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์ ให้ธรรมชาติบำบัดสักคืน และถึงแม้เป็นหมู่บ้านท่ามกลางป่าเขาแต่สิ่งอำนวยความสะดวกก็มีอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ร้านกาแฟ คาเฟ่ ร้านขายของฝาก เรียกได้ว่าเดินไปตรงไหนของหมู่บ้านก็ต้องมีของกินอร่อยๆ อีกทั้งที่เที่ยวธรรมชาติก็มีมากมาย ทั้งน้ำตก กิ่ว เส้นทางศึกษาธรรมชาติ บอกเลยว่ามาแม่กำปองในหน้าฝนนี้ได้พบกับความกรีนแบบชุ่มฉ่ำไปทั้งใจแน่
หมู่บ้านสะปัน ที่เที่ยวหน้าฝนที่สายธรรมชาติต้องมาให้ได้ สัมผัสกับความกรีนแบบฉ่ำๆ ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เห็นภาพภูเขาเขียวชอุ่มที่มีลำธารไหลผ่าน คลอเคลียด้วยสายหมอก นี่แหละบรรยากาศแห่งการพักผ่อนจริงๆ ในหมู่บ้านมีคาเฟ่และที่พักสวยๆ ให้ได้เลือกมากมาย เหมาะกับการหลบหนีความวุ่นวายและพบกับความเงียบสงบ ฤดูที่เหมาะกับการมาเที่ยวสะปันที่สุดคือ หน้าหนาวและหน้าฝน ยิ่งถ้าใครอยากเห็นภาพทุ่งนาเขียวขจี มาหน้าฝนรับรองไม่ผิดหวัง กิจกรรมในหมู่บ้านก็มีให้ทำเยอะแยะ ทั้งปั่นจักรยานชมวิวรอบหมู่บ้าน เดินซื้อของพื้นเมืองที่ตลาดช่วงเย็น เพลิดเพลินกับเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่น้ำตกสะปัน
บ้านผาฮี้ หมู่บ้านชาวไทยเผ่าอาข่าบนยอดดอยผาฮี้ เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่มีชื่อเสียงในเรื่องการปลูกกาแฟและภาพความสวยงามของวิวทิวทัศน์ที่อุดมสมบูรณ์ของป่าไม้ อีกทั้งในช่วงหน้าหนาวหรือหน้าฝนก็สามารถเห็นทะเลหมอกที่โอบล้อมรอบหมู่บ้าน อากาศที่เย็นสบายบวกกับหมู่บ้านเล็กๆ ทำให้เดินสัมผัสเสน่ห์วิถีชีวิตชาวบ้านได้แบบชิลล์ๆ ส่วนจุดเช็คอินความงามต้องยกให้จุดชมวิวหมู่บ้านที่มีกังหันชิงช้าขนาดใหญ่ตั้งอยู่ บริเวณนี้ถ้าไม่มีหมอกจะมองเห็นวิวภาพขุนเขาและผืนป่ากว้างได้แบบเต็มๆ ตา อีกทั้งยังเป็นหมู่บ้านที่เห็นพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้าได้อย่างสวยงามด้วย เป็นอีกที่เที่ยวหน้าฝนที่อยากให้มาสัมผัสความชิลล์กัน
หมู่บ้านรักไทย หมู่บ้านเล็กๆ ที่โดดเด่นด้วยภาพฉากหลังเป็นภูเขาขนาดใหญ่และภาพผืนน้ำที่สะท้อนความงามของหมู่บ้าน เป็นหมู่บ้านที่ยังคงเหลือกลิ่นอายของชาวจีนยูนนานผ่านสถาปัตยกรรม ของตกแต่ง และวิถีชีวิต บรรยากาศในหมู่บ้านชิลล์และเป็นกันเอง เหมาะกับการมาพักผ่อนชาร์จพลังจากความเหนื่อยล้า ไฮไลท์ของที่นี่คือไปหมอกที่ลอยเหนือนผิวน้ำในยามเช้า เป็นความงดงามที่เหมือนหลุดไปในโลกความฝัน บวกกับอากาศเย็น กลิ่นของผืนดิน และความชุ่มฉ่ำของต้นไม้ ทำให้อยากปล่อยชีวิตสโลว์ไลฟ์ในหมู่บ้านไปอีกนานๆ และที่อยากแนะนำคือชาและขาหมูหมั่นโถวที่เป็นของขึ้นชื่อของหมู่บ้าน ใครมาอย่าลืมสั่งชามาจิบชิลล์ๆ ดื่มด่ำบรรยากาศริมทะเลสาบ บอกเลยว่าความฟินเต็มร้อย
สัมผัสกับความกรีนในหน้าฝนนี้กันที่ หมู่บ้านมอญ สังขละบุรี มนต์เสน่ห์ความงามของสองวัฒนธรรมไทย – มอญที่หล่อหลอมรวมกัน มีสะพานมอญยาวกว่า 850 เมตรที่เป็นไฮไลท์ที่ใครต่างก็ต้องมาเช็คอิน โดยสะพานนี้ถูกสร้างข้ามแม่น้ำซองกาเรียเพื่อเชื่อมระหว่าง ฝั่งไทยและฝั่งมอญ บรรยากาศสบายๆ มีความชุ่มฉ่ำสายฝนหน่อยๆ และในยามเช้าที่จะมีสายหมอกปกคลุมสะพานเป็นภาพความงามที่คุ้มค่ากับการตื่นเช้าจริงๆ นอกจากนี้กิจกรรมที่พลาดไม่ได้ก็คือ การนั่งเรือล่องแม่น้ำซองกาเรีย พร้อมกับแวะเก็บภาพวัดวังก์วิเวการามหรือที่เรียกกันว่าวัดจมน้ำ ถ้าใครอยากเข้าไปเที่ยวชมวัดแนะนำให้มาช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนมิถุนายน เพราะเป็นช่วงที่น้ำลดพอดี
หมู่บ้านจ่าโบ่ มาพร้อมกับความสวยงามอันดั้งเดิมของธรรมชาติ อากาศที่หนาวตลอดทั้งปี และอากาศบริสุทธิ์ นอกจากธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ยังมีวัฒนธรรมและวิถีชีวิตชุมชนชาวเขาที่รอให้ทุกคนได้ไปสัมผัส อีกทั้งหมู่บ้านจ่าโบยังเป็นอีกหมู่บ้านที่มีทะเลหมอกโอบล้อม ปล่อยเวลานั่งชิลล์ๆ จิบกาแฟสักแก้ว เรียบง่ายแค่นี้แต่สุขเปี่ยมล้นแล้ว สำหรับใครอยากโอบกอดหมอกแบบเต็มๆ แนะนำที่ภูผาหมอกเลย ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สูงที่สุดของหมู่บ้าน แม้ว่าการเดินทางอาจจะเหนื่อยไปบ้างแต่ภาพทะเลหมอกที่ไกลสุดลูกหูลูกตาทำให้หายเหนื่อยได้เลย หรือถ้าใครกลัวเดินไม่ไหวแต่ยังอยากได้ภาพทะเลหมอก ก็มีร้านอาหารและร้านกาแฟชิลล์ๆ ที่มาพร้อมกับสายหมอกให้ได้ฟินกับแบบสบายๆ
เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 7 ที่เที่ยวหน้าฝน หมู่บ้านแห่งสายหมอก เย็นชุ่มฉ่ำกับบรรยากาศสุดฟิน ฤดูฝนนี้ต้องหาที่เที่ยวหน้าฝนสักที่แล้ว กรีนซีซั่นแบบนี้ห้ามพลาดที่จะออกไปสัมผัสธรรมชาติกัน นอกจากนี้ยังมีที่เที่ยวหน้าฝน รวม 6 จุดเช็คอินป่าสน ที่หน้าฝนนี้ต้องไปรับความชุ่มฉ่ำ และที่พักสุดชิลล์กับ 5 ที่พักดูทะเลหมอกหน้าฝน นอนฟินได้ไม่ง้อหน้าหนาว! หรือใครอยากไปสัมผัสทะเลหมอกแบบเต็มก็มาตามกันได้ที่ 8 จังหวัด ทะเลหมอกสุดฟินที่น่าชวนคนข้างกายไปสัมผัส