8 สิ่งที่ต้องทำเมื่อไปถึงปางอุ๋ง แหล่งโอโซนธรรมชาติ ริมทะเลสาบกลางป่าสนสุดโรแมนติก
45,472 ครั้ง
8 ม.ค. 2562
หนาวนี้ใครๆ ก็ไป..ปางอุ๋ง สถานที่ท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์โดยเฉพาะช่วงหน้าหนาวแบบนี้ ปางอุ๋ง จึงเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่หลายคนต้องมาสัมผัสบรรยากาศริมทะเลสาบเหนือขุนเขา ท้าทายความหนาวแบบฟินๆ วันนี้ ทริปเก็ทเตอร์ เลยมี 8 สิ่งที่ต้องทำเมื่อไปถึงปางอุ๋ง ที่รับรองเลยว่าจะยิ่งเพิ่มความฟิน และหลงรักสถานที่แห่งนี้จนหมดใจ…
1.กางเต็นท์ริมทะเลสาบปางอุ๋ง
มาเริ่มต้นความฟินอันดับแรกกันที่การหาที่ กางเต็นท์ริมทะเลสาบปางอุ๋ง เพราะทะเลสาบปางอุ๋งถือว่าเป็นหนึ่งไฮไลท์ที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาสัมผัสบรรยากาศของที่นี่ และเมื่อมาปางอุ๋งแล้วก็ต้องห้ามพลาดที่จะมากางเต็นท์นอนริมทะเลสาบให้ได้เพราะจะทำให้เราได้เสพธรรมชาติฟินๆ แบบที่เรียกได้ว่าเปิดเต็นท์มาเจอหมอกที่ลอยอยู่บนผิวน้ำพร้อมกับมีป่าสนบนนเนินเขาเป็นฉากหลังและมีแพไม่ไผ่ที่ล่องผ่านไปมา รับรองเลยว่าบรรยากาศดีจนต้องหยิบกล้องมารัวชัตเตอร์เก็บภาพไว้อย่างแน่นอน
Season: ช่วงเดือน ธันวาคม-มกราคม ต้องโทรจองเต็นท์ของอุทยานล่วงหน้า 1 เดือน (สามารถติดต่อได้ที่ที่ทำการอุทยานแห่งชาติถ้ำปลา-น้ำตกผาเสือ) ในกรณีที่นำเต็นท์มากางเองสามารถติดต่อได้ที่ส่วนของกรมป่าไม้ปางอุ๋ง
Phone: 053 692 055, 053 619 036 (อุทยานแห่งชาติถ้ำปลา-น้ำตกผาเสือ)
2.ปิ้งย่างหน้าเต็นท์
และอีกหนึ่งความฟินท่ามกลางความหนาวที่ห้ามพลาดเลยคือ ปิ้งย่างหน้าเต็นท์ ที่นี่อนุญาติให้จุดเตาทำอาหารหน้าเต็นท์ได้แบบชิลล์ๆ และเมนูง่ายๆ ก็คือหมูกระทะที่ทางปางอุ๋งมีบริการเพียงชุดละ 300 บาท หรือใครที่นำอาหารมาก็สามารถเอาเข้าไปปิ้งย่างได้ที่หน้าเต็นท์ เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่เพิ่มความอบอุ่นแก่ครอบครัวหรือคนรักได้อย่างดีสุดๆและรับรองได้เลยว่าไม่มีอะไรที่จะฟินไปมากกว่าการที่ได้มาปิ้งย่างท่ามกลางบรรยากาศหนาวและเงียบสงบแบบนี้อย่างแน่นอน
Price: ชุดหมูกระทะพร้อมเตา ชุดละ 300 บาท 2-3 คน (สามารถนำอาหารมาปิ้งย่างได้)
3.นอนดูดาว
ด้วยความเงียบสลบและมืดมิดของปางอุ๋งในยามค่ำคืนทำให้ที่นี่สามารถมองเห็นดาวได้อย่างชัดเจน ลองเปิดเต็นท์ออกมานอนดูดาวท่ามกลางอากาศหนาวๆ ยามค่ำคืน ที่จะมองเห็นดวงดาวและวิวของต้นสน ยิ่งช่วงหน้าหนาวจะมีหมอกล่องลอยอยู่เหนือทะเลสาบ ลองเอากล้องออกมาถ่ายดาวก็รับรองว่าได้ภาพสวยอย่างแน่นอน ยิ่งมากับคนรักรับรองเลยว่าโรแมนติกสุดๆ
4.ล่องแพไม้ไผ่
อีกหนึ่งไฮไลท์ของปางอุ๋งคือการ ล่องแพไม้ไผ่ ไปรอบๆ ทะเลสาบ พร้อมกับไอหมอกที่ลอยเหนือน้ำที่จะพาคุณไปปล่อยตัวปล่อยใจไปอย่างช้าๆ พร้อมกับซึมซับภาพความสวยงามเหนือทะเลสาบปางอุ๋ง และถ้าโชคดีอาจได้เจอหงส์ขาวและหงส์ดำที่จะออกมาสร้างความประทับใจให้ทุกคนอีกด้วย และเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่มาถึงปางอุ๋งแล้วต้องห้ามพลาดเด็ดขาด!!!
Price: ล่องแพปางอุ๋งราคา 150 บาท (สามารถขึ้นแพได้ 2 คน)
5.ใส่บาตรยามเช้า
มาปางอุ๋งทั้งทีได้ปิ้งย่างหน้าเต็นท์แบบอิ่มพุงไปแล้ว ได้รับอากาศที่บริสุทธิ์ไปแล้ว ก็ต้องมา ใส่บาตรตอนเช้า ให้อิ่มบุญกันสักหน่อย ที่ปางอุ๋งจะมีพระเดินมาบิณฑบาตรในตอนเช้า และสามารถซื้อชุดตักบาตรได้ที่บริเวณนั้นในราคาชุดละ 40 บาท ลองตื่นเช้าๆ ออกมารับอากาศที่สดชื่น และมาใส่บาตรสักครั้ง รับรองว่าจะได้รับความสุขกลับไปไม่น้อย
6.ชมวิวทะเลสาบบนสันเขื่อน
อีกหนึ่งจุดชมวิวสวยๆ ที่สามารถมองเห็นวิวของปางอุ๋งได้อย่างชัดเจนแบบ 180 องศาคือ สันเขื่อนอ่างเก็บน้ำปางอุ๋ง ที่จะสามารถเห็นวิวของป่าสนที่มีทะเลสาบคั่นอยู่ตรงกลางและมีแพที่ล่องอยู่บนผิวน้ำพร้อมกับไอหมอกเย็นๆ ที่ลอยมาปะทะกับร่างกายแบบฟินๆ และยังมีสะพานแขวนที่เป็นอีกหนึ่งจุดถ่ายรูปสวย หรือจะลองไปโพสต์ท่าเก๋ๆ บนสันเขื่อนก็ได้ภาพสวยๆ ไปอวดเพื่อนๆ อย่างแน่นอน
7.เดินชมบรรยากาศบ้านรวมไทย
บ้านรวมไทย เป็นหมู่บ้านที่เต็มไปด้วยวิถีชีวิตชาวบ้านแบบเรียบง่าย ตัวหมู่บ้านจะอยู่ก่อนถึงอ่างเก็บน้ำปางอุ๋งใครที่อยากลองสัมผัสวิถีชีวิตแบบบ้านๆ ต้องลองมานอนที่นี่สักคืนสองคืน เพราะที่นี่เต็มไปด้ยโฮมสเตย์ของชาวบ้านจริงๆ สองข้างทางก็มีของกินมากมายทั้งหมูกระทะ อาหารตามสั่งต่างๆ หรือตื่นมากินอาหารเช้าที่นี่ก็มีเมนูอร่อยๆ เพียบ
8.แวะไปจิบกาแฟลุงปาละ
มาเดินชมบ้านรวมไทยแล้ว ก็ต้องห้ามพลาดที่จะไปชิม กาแฟลุงปาละ กาแฟสายพันธุ์อาราบิก้าคุณภาพดีที่ปลูกและคั่วโดยลุงปาละเอง เพียงแค่เข้าไปในร้านก็ได้กลิ่นกาแฟหอมๆ จากโรงคั่วกาแฟถ้าเจอลุงปาละกำลังนั่งคั่วกาแฟอยู่ก็ลองเดินไปทักทายลุงปาละได้ แถมด้านหลังยังมีโฮมสเตย์ชิคๆ ของลุงปาละอีกด้วย เมนูแนะนำก็คงหนีไม่พ้นเมนูกาแฟที่มาถึงปางอุ๋งแล้วต้องแวะเข้ามาลิ้มลองกันสักครั้ง!!
Location: 18/1 ม.5 บ้านรวมไทย (ปางอุ๋ง) ต.หมอกจำแป่ อ.แม่ฮ่องสอน
Open-Close: ร้านเปิดเวลา 07.00 – 21.00 น.
Phone: 083 571 6668
Recommend: ลาเต้ร้อน, โกโก้เย็น, เครื่องดื่มเมนูกาแฟ
Facebook: Pala Coffee
