ปางอุ๋ง-บ้านรักไทย 2 วัน 1 คืน พาตัวและหัวใจไปสัมผัสธรรมชาติท่ามกลางขุนเขาสุดอันซีน

แม่ฮ่องสอน เมืองสามหมอกสุดอันซีนที่เต็มไปด้วยธรรมชาติที่น่าหลงไหล และผู้คนที่น่ารัก ถ้าพูดถึงแม่ฮ่องสอนทีไรก็คงต้องนึกถึงทางโค้งที่คดเคี้ยวไปตามแนวเขากับสองข้างทางที่เต็มไปด้วยต้นไม้และสายหมอก และยังเป็นจังหวัดที่เต็มไปด้วยศิลปะและวัฒนธรรมหลากหลายที่ยังคงรักษาไว้จนกลายเป็นมนต์เสน่ห์ของเมืองแม่ฮ่องสอน และสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตที่ใครๆ ก็อยากลองมาสัมผัสให้ได้สักครั้งก็คือปางอุ๋งดินแดนทะเลสาบเหนือขุนเขา และบ้านรักไทยหมู่บ้านจีนยูนานสุดอันซีน ยิ่งช่วงเดือนตุลาคม-กุมภาพันธ์ ปางอุ๋งจะสวยงามและมีหมอกให้เราได้สัมผัส ลองมาสักกับดินแดนแห่งธรรมชาติแห่งนี้แล้วจะหลงรักจนหมดหัวใจ

---

จุดหมายปลายทางที่เราจะเดินทางไปในวันนี้คือ ปางอุ๋ง จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งใช้เวลาเดินทางจากเชียงใหม่ประมาน 5-6 ชั่วโมง เราเลยต้องเริ่มออกเดินทางตั้งแต่เช้ามืดเพื่อให้ไปถึงปางอุ๋งก่อนเที่ยงเพื่อนที่จะได้เลือกที่กางเต็นท์ริมทะเลสาบปางอุ๋งแบบทำเลดีๆ จะได้เสพธรรมชาติและบรรยากาศได้อย่างเต็มที่ ใครที่จะเอารถส่วนตัวขับไปเองต้องมีความชำนาญพอสมควรเลยนะ เพราะเส้นทางที่จะไปนั้นเป็นโค้งที่ลัดเลาะไปตามแนวเขาเกือบตลอดเส้นทาง

ขับรถมาประมาน 2 ชั่วโมงกว่าก็มาถึง สะพานประวัติศาสตร์ท่าปาย เราเลยแวะพักรถกันที่นี่สักหน่อย ใครที่ผ่านมาทางนี้ต้องห้ามพลาดที่จะลงมาชมบรรยากาศของสะพานประวัติศาสตร์ท่าปาย สะพานเก่าแก่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งปัจจุบันเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คสำคัญของ อ.ปาย

ใกล้ๆ กันยังมีร้านกาแฟ Coffee Tea Sapan ร้านบรรยากาศชิลล์ๆ ที่โดดเด่นด้วยประติมากรรมกระเหรี่ยงคอยาวตัวใหญ่ตั้งอยู่ที่ทางเข้า และภายในตัวร้านมีที่นั่งให้เลือกหลากหลายไม่ว่าจะเป็นโซนในร้านและโซน Out Door รับลมหนาวนอกร้าน เราเลยจัดลาเต้ร้อนมานั่งจิบพร้อมนั่งชมวิวสะพานประวัติศาสตร์ท่าปายก่อนจะออกเดินทางต่อ

และแล้วเราก็เดินทางมาถึงปางอุ๋งก่อนเที่ยงวันตามที่แพลนไว้ ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่าใครที่จะมานอนเต็นท์ของทางอุทยานช่วงหน้าหนาวและช่วงเทศกาลจะต้องจองล่วงหน้ามาก่อน 1 เดือนหรือจองก่อนอย่างน้อย 3 วัน แต่ทริปนี้เราเอาเต็นท์มากางเองเลยสามารถเข้ามาที่ส่วนของกรมป่าไม้ของปางอุ๋งได้เลยแต่ต้องมาถึงก่อนเที่ยงเพื่อที่จะมาหาที่กางเต็นท์ทำเลดีๆ ส่วนใครที่จองที่กางเต็นท์ไว้จะต้องไปติดต่อที่อุทยานฯ ถ้ำปลาก่อน 

เมื่อเข้ามาถึงส่วนของกรมป่าไม้ปางอุ๋งก็ต้องเสียค่าเข้าคนละ 20 บาทหากนำเต็นท์มาเองก็ต้องเสียค่าบำรุงพื้นที่อีกคนละ 30 บาท เราเลยเข้ามาเลือกพื้นที่กางเต็นท์ใกล้ๆ ทะเลสาบเพราะตื่นมาตอนเช้าจะได้มองเห็นไอหมอกที่ลอยบนผิวน้ำและได้สัมผัสบรรยากาศความหนาวแบบฟินๆ 

เมื่อเรากางเต็นท์เสร็จเราเลยวางแพลนไปต่อกันที่ บ้านรักไทย หมู่บ้านจีนยูนานสุดอันซีนที่อยู่ไม่ไกลจากปางอุ๋ง ใช้เวลาเดินทางเพียงครึ่งชั่วโมง สำหรับใครที่จะออกไปเที่ยวข้างนอกต้องกลับเข้ามาที่ปางอุ่งก่อนเวลา 18.00 น. เพราะเป็นเวลาปิดทำการของส่วนกรมป่าไม้

บ้านรักไทย เป็นหมู่บ้านชาวจีนยูนานที่โดนเด่นด้วยบ้านเรือนที่สร้างริมทะเลสาบ และยังมีที่พักบรรยากาศดีๆ อยู่มากมาย ไฮไลท์ของที่นี่ก็คือวิวทะเลสาบกลางหมู่บ้าน 

มาเรามาถึงบ้านรักไทยสิ่งแรกที่เราทำก็คือ หาของอร่อยๆ กินก่อนจะเดินทัวร์รอบหมู่บ้าน วันนี้เรามาเปิดเมนูอร่อยกันที่ร้าน ลีไวน์รักไทย อาหารจีนยูนาน ร้านอาหารสไตล์จีนบรรยากาศริมทะเลสาบบ้านรักไทย ที่มีเมนูจีนยูนานเป็นซิกเนเจอร์ ภายในร้านมีที่นั่งให้เลือกหลากหลายทั้งโซนภายในร้านและโซนริมทะเลสาบ

วันนี้เราเลยไม่พลาดที่จะสั่งเมนูยอดฮิตของทางร้านที่มาแล้วต้องห้ามพลาดก็คือ ขาหมู-หมั่นโถว และ ยำใบชา มานั่งกินโซนริมทะเลสาบ แบบกินไปนั่งรับลมชมวิวไปแบบชิลล์ๆ และทางร้านยังมีชาร้อนสไตล์จีนมาให้ชิมแบบฟรีๆ อีกด้วย

เมื่อกินอิ่มแล้วเราเลยเดิน ลีไวน์รักไทย รีสอร์ท ตั้งอยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับร้านอาหารลีไวน์รักไทย ที่นี่เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คของบ้านรักไทยที่อนุญาติให้นักท่องเที่ยวเข้าไปชมได้ตั้งแต่เวลา 10.00 – 17.00 น. เมื่อเข้ามาถึงด้านในก็จะเจอไร่ชาที่อยู่บนเนินเขาและบ้านพักสไตล์จีนให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ที่เมืองจีนอย่างไงอย่างงั้น 

ก่อนกลับไปปางอุ๋งเราเลยมาแวะที่ Coffee Camp คาเฟ่บรรยากาศดี สไตล์ยุโรปที่มีสวนดอกไม้สวยๆ ให้เราได้ถ่ายรูปกันอีกด้วย 

กลับมาถึงปางอุ๋งก่อนหกโมงเย็นเราเลยไปเดินเล่นหามุมถ่ายรูปสวยๆ ปางอุ๋งตอนเย็นบรรยากาศดีและเงียบสงบมากและมุมถ่ายรูปไม่ว่าจะเป็น บนสันเขื่อน, ป่าสน และริมน้ำ หรือจะมานั่งชิลล์ริมทะเลสาบก็ประทับใจไม่แพ้กัน

และกิจกรรมที่ขาดไม่ได้เลยก็คือการปิ้งย่างหมู่กระทะกินหน้าเต็นท์ ที่นี่จะมีร้านค้าที่บริการหมูกระทะพร้อมเตา ชุดละ 300 บาท หรือใครที่อยากเตรียมของมาปิ้งย่างเองก็ได้นะ

หมูกระทะร้อนๆ กับอากาศหนาวๆ ที่หน้าเต็นท์เป็นอะไรที่ฟินสุดๆ 

ใครที่อยากเห็นดาวชัดๆ บอกเลยว่าปางอุ๋งไม่ทำให้ผิดหวังเพราะบรรยากาศของปางอุ๋งยามค่ำคืนจะมืดและเงียบมากๆ สามารถมองเห็นดาวเต็มท้องฟ้าได้ด้วยตาเปล่าเลยทีเดียว

Day2: เช้าวันที่ 2 ของทริป เรารีบตื่นแต่เช้าในอากาศ 10 องศา บรรยากาศตอนเช้าของที่นี่หนาวมากๆ 

และอีกหนึ่งไฮไลท์ของปางอุ๋งคือการมาล่องแพไม้ไผ่ยามเช้าท่ามกลางสายหมอกที่ลอยขึ้นบนผิวน้ำ ล่องแพไม้ไผ่ราคา 150 บาทสามารถนั่งได้ 2 คน 

สายหมอกที่ลอยบนผิวน้ำที่มาปะทะกับร่างกายทำให้เป็นเช้าที่สดชื่นสุดๆ ถ้าโชคดีอาจจะได้เห็นหงส์ขาว หงส์ดำ ตัวเป็นๆ ที่จะออกมาโชว์ตัวให้เห็นอีกด้วย

หรือใครที่อยากทำบุญ ที่ปางอุ๋งก็มีพระที่จะมาเดินบิณฑบาตรในตอนเช้า และยังมีเซ็ตสำหรับตักบาตรขายอีกด้วย

มุมสะพานนี้ก็ถ่ายรูปสวยไปอีกแบบ

ก่อนกลับเราเลยแวะเดินเล่นใน หมู่บ้านรวมไทย หมู่บ้านที่อยู่ทางเข้าปางอุ๋ง หมู่บ้านรวมไทย เป็นหมู่บ้านที่ยังคงรักษาวิธีชีวิตแบบดั่งเดิมเอาไว้และสำหรับใครที่ไม่อยากนอนเต็นท์ ที่หมู่บ้านรวมไทยก็มีโฮมสเตย์ให้เลือกอยู่มากมาย 

และต้องไม่พลาดที่จะแวะมาชิมรสชาติกาแฟ ลุงปาละ คอฟฟี่ ร้านกาแฟที่มีคุณลุงปาละเป็นคนคั่วเมล็ดกาแฟเองทุกขั้นตอน แค่เดินเข้าไปในร้านก็ได้กลิ่นกาแฟหอมๆ ใครที่เป็นคอกาแฟต้องห้ามพลาดเด็ดขาด เลยจัดโกโก้เย็นไป 1 แก้วก่อนเดินทางกลับ

เป็นอย่างไงบ้างกับทริป 2 วัน 1 คืน ปางอุ๋ง-บ้านรักไทย ที่วันนี้ทริปเก็ทเตอร์ได้ไปเก็บทริปตัวอย่างมาฝาก ลองหาเวลาว่างมาเที่ยวช่วงเดือน ตุลาคม-กุมภาพันธ์ ยิ่งเป็นช่วงที่น่ามาเที่ยวสัมผัสบรรยากาศของที่นี่ให้ได้สักครั้ง ลองหาเวลาว่างวางแพลนมาเที่ยวพักผ่อนสักคืนสองคืน มาสูดโอโซนให้เต็มปอด รับรองเลยว่าต้องประทับใจจนอยากกลับมาอีกครั้งอย่างแน่นอนกับเมืองสามหมอก แม่ฮ่องสอนแห่งนี้

 

 

---